ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 10

"นายหญิง !" แม่นมเฉินที่ยืนสงบปากสงบคำอยู่ตลอดเอ่ยขึ้น "ท่านฉุ่ยยวู่ชานถึงแม้จะไม่เข้าใจกฎและลำดับชั้นแต่ท่านก็เป็นคนข้างกายของเหยากุ้ยเหรินมาโดยตลอด หากเจ้ายังดันทุรังลงไม้ลงมืออีก เจ้าควรตรึกตรองให้ดีถ้าทำให้เหยากุ้ยเหรินขุ่นเคืองใจขึ้นมา"

ตั้งแต่ลู่ยุ๋นหลัวเดินเข้ามาถึงตำหนัก แม่นมเฉินท่านนี้ก็คอยพิจารณานางอยู่ในมุมอับตลอดเวลา ถึงการแต่งกายของลู่ยุ๋นหลัวจะมอซอ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความเลอค่าในตัวนางได้ แม้ว่านางจะไม่ได้ปรุงแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมใด ๆ แต่ก็งามเลอค่าหาผู้ใดเปรียบได้ยาก

ด้วยความงามอันน่าทึ่งเช่นนี้ หากได้รับการดูแลเอาใจใส่เพียงน้อยนิด ก็คงไม่มีใครในวังนี้จะสามารถงามเท่านางได้อีกแล้ว

โชคยังเข้าข้างที่นายหญิงมองการณ์ไกลได้ถึงเพียงนี้ สั่งให้นางมาตรวจดูสถานการณ์ที่ตำหนักเย็น ไม่เช่นนั้นคงไม่ทราบว่าชายาเอกที่ถูกระเห็จให้ไปพำนักตำหนักเย็นจะมีใบหน้าอันเย้ายวนและงดงาม

"เหยากุ้ยเหริน ?" ลู่ยุ๋นหลัวยิ้วเราะเบา ๆ "ข้านายหญิงประจำตำหนักเย็นแห่งนี้มาเนิ่นนาน ไม่รู้หรอกว่าเหยากุ้ยเหรินมาที่วังเมื่อใด นางนี้พิเศษเยี่ยงไร ?ได้รับการโปรดปราณเป็นพิเศษจากองค์จักรพรรดิรึ ?

แม่นมเฉินรู้อยู่แก่ใจดีว่านายหญิงกับองค์จักรพรรดินั้นยังไม่เคยประทับตำหนักร่วมกัน นับประสาอะไรจะมาเป็นที่โปรดปราณ แต่นางก็กล่าวตอบกลับไป "ถึงเยี้ยงไรนายหญิงของข้าก็เป็นถึงธิดาคนโปรดของแม่ทัพไป๋เจิ้นไห่"

"ธิดาคนโปรดของแม่ทัพ..." ลู่ยุ๋นหลัวตริตรองอยู่ครู่หนึ่ง "แต่ตัวข้าไม่ได้ไปกินอยู่หลับนอนกับแม่ทัพท่านนี้ เขาจะโปรดปรานใครกับตัวข้าเกี่ยวข้องเช่นไรกัน ?"

สิ่งที่นางพูดล้วนเป็นไปตามที่นางกล่าว ทำให้ทุกคนหมดเหตุผลที่จะเถียงนางต่อไป

“หยินซวาง ตบมัน !”

"เจ้าค่ะ นายหญิง!" หยินซวางตอบรับคำเพราะนางก็ไม่ได้เป็นนางข้าหลวงที่อ่อนแอ ตอนที่โดนนางข้าหลวงตบตีนางยอมประนีประนอมเพราะเห็นแก่นายหญิงของนาง แต่ถ้านางยังคงขืนเพิกเฉยถูกตบตีต่ออยู่ต่อแบบนี้จะเป็นการดูถูกนายหญิงของนางที่หวังดีออกมาปกป้องนาง

เสียงดัง "เพียะ!" ดังขึ้น แก้มข้างซ้ายของฉุ่ยยวู่ชานก็ถูกตบไปแล้ว 1 ฉาด

หยินซวางตบฉุ่ยยวู่ชานไปแล้วเป็น 10 ฉาดกว่าจะหยุดมือ

"กลับไปบอกนายของเจ้า ว่านายหญิงตำหนักนี้ไม่เคยข้องเกี่ยวกับธุระกงการของใคร หากนางแค่รู้สึกว่าข้าขัดหูขัดตานาง ก็ให้นางรีบปล่อยม้ามาเลย ! (ปล่อยม้ามา หมายถึง การไม่เกรงกลัวต่ออำนาจแล้วยังท้าทายให้เข้ามาหาตน)"

ลู่ยุ๋นหลัวดึงหยินซวางเข้ามาใกล้เพื่อดูหน้าของนางที่ถูกตบจนบวมแดงพร้อมพูดกับนาง "คนพวกนั้นมาด้วยเจตนาที่ไม่ดี เจ้าอย่าเก็บมาใส่ใจ"

"แต่ตัวบ่าวเป็นกังวลกับแผนการหลบหนีจากวังของพวกเราในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้า หากเหยากุ้ยเหรินส่งคนของนางไปตรวจสอบและพบเข้า ข้าเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคได้"

"เจ้าก็ช่างกังวลเสียยิ่งกระไร เหยากุ้ยเหรินถูกกักบริเวณอยู่ พวงนางถูกส่งมาก็แค่ดูสถานการณ์ในตำหนักเย็นเท่านั้น นางเข้าวังไม่ทันไรก็ลดขั้นจากสนมเป็นแค่กุ้ยเหริน แล้วยังจะต้องถูกองค์จักรพรรดิกักบริเวณอีก ต่อให้นางจะพยายามออกมาสักแค่ไหน ก็ต้องรอให้องค์จักรพรรดิทรงอนุญาตก่อนอยู่ดี" กว่านางจะออกมาได้ นางและหยินซวางก็คงออกจากกรงทองเป็นนกน้อยที่โบยบินออกไปตั้งนานแล้ว

และด้วยแผนการอันแยบยลของนาง นางถึงกล้าที่จะมีปากมีเสียงกับแม่นมนางนั้น

อย่างไรก็ดี เหยากุ้ยเหรินเข้าวังมาไม่กี่วันก็กลัวจนถึงขั้นต้องส่งคนมาดูสถานการณ์ที่ตำหนักเย็นไวขนาดนี้ อยากจะรู้จริง ๆ ตำแหน่งฮองเฮามีดีอะไรนักหนา

แค่คิดว่าวันวันข้าต้องเป็นที่โปรดปรานของตาแก่พุงพลุ้ยวัยกลางคนแค่นี้ข้าก็อยากจะอาเจียนจะแย่อยู่แล้ว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น