ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 108

"เปรี้ยง..."

สายฟ้าอันน่าตกใจที่พุ่งฟาดพาดผ่านมาหนึ่งเส้นได้ทำให้สายตาเดิมทีของผู้คนที่จับจ้องมองอยู่ที่เหยากุ้ยเหรินทั้งหมดก็เหลือบสายตาออกไป 

"ฝนจะตกแล้ว !"

ทุกคนอุทานส่งเสียงเมื่อเห็นว่าท้องฟ้าได้เปลี่ยนไป

บางคนมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วลุกขึ้นและเริ่มมองหาที่หลบฝนแล้ว

แต่เหยากุ้ยเหรินบนเวทีกลับตะลึงค้างอยู่เล็กน้อย

การเคลื่อนไหวที่เต้นรำอยู่ก็หยุดลงเช่นกัน

ฝนตก ?

เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้า ก็เกิดฝนตกหนักลงมา “ซู่ซู่ ซู่ซู่” อย่างไร้ความปรานี

ทันใดนั้นก็เปียกปอนหนาวเหน็บไปถึงใจ !

แต่เหมือนตอนนี้จะไม่มีใครสนใจนางแล้ว เพราะนอกจากพระแท่นหลังนั้นที่ฝ่าบาทและพระพันปีหลวงประทับอยู่ด้านบนมีหลังคาคลุมไว้ คนอื่น ๆ ทั้งหมดก็เริ่มหลบฝนแล้ว

ณ ฉากลานกว้างที่โกลาหลตรงนั้น ทุกคนก็วิ่งไปที่โถงด้านข้างที่ใกล้ที่สุดทันที

แต่ในขณะความโกลาหลนั้น สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือร่มน้ำมันที่สะท้อนแสงได้อย่างชัดเจนสองคันในฝูงชน

หนึ่งในที่ถือร่มอยู่คันหนึ่งนั้นคือหลันกุ้ยเหริน ซึ่งโบกมือให้จี้อู๋เจวี๋ยอย่างตื่นเต้นในขณะนี้ "ฝ่าบาท เสด็จมาที่นี่เถอะเพคะ ข้าคนนี้พกร่มมาด้วย !"

หลันกุ้ยเหรินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในขณะนี้

ไม่คาดคิดมาก่อนว่าการพยากรณ์อากาศของตำหนักเย็นจะแม่นยำขนาดนี้ !

นึกไม่ถึงเลยว่าฝนจะตกจริง !

ทุกคนไม่ได้พกร่มมาด้วย มีแต่นางเท่านั้นที่พกมา !

ความรู้สึกนี้ทำให้หลันกุ้ยเหรินรู้สึกตนเองเหนือกว่าที่ยากจะพรรณนา

จี้อู๋เจวี๋ยทรงมองผ่านไปยังหลันกุ้ยเหรินก็ได้เห็นที่ด้านล่างของร่มน้ำมันอีกคัน และยังทรงเห็นร่างที่คุ้นตาอยู่หนึ่งร่างด้วย

สายตาที่เย็นชาก็กลับเย็นยะเยือกขึ้นมาทันใด

แม่นางคนนี้นึกไม่ถึงว่าจะไปหาเสด็จลุงสามภายใต้หนังพระเนตรของเขา !

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทั้งสองยังใช้ถือร่มคันเดียวด้วยกันอีก !

นี่แถบจะไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย !

ดีมาก!

ลู่ยุ๋นหลัว !

ภายใต้พระเนตรของจี้อู๋เจวี๋ยก็ปรากฎประกายไฟริษยาที่ลุกพรึบขึ้นมาซึ่งแม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ตัว

ช่วงเวลาก่อนที่ฝนจะตกตอนนั้น ลู่ยุ๋นหลัวก็กางร่มของนางออกอย่างชาญฉลาด

เมื่อมองไปที่เหยากุ้ยเหรินที่สภาพยับเยินอยู่บนเวที ในที่สุดนางก็รู้สึกว่าฟังก์ชันพยากรณ์อากาศบนแผ่นหินในมิติพิเศษของนางมีประโยชน์มาก

นางที่เมื่อสักครู่ที่กำลังวางแผนใส่ร้ายผู้อื่นก็ถูกพระเจ้าลงทัณฑ์ทันที ที่แท้คนเราก็ไม่สามารถทำเรื่องเลวร้ายได้

ลู่ยุ๋นหลัวถอนสายตาที่จ้องมองอยู่ออกมาด้วยความเห็นใจ

เหยากุ้ยเหรินผู้นี้หลังจากนี้ น่าจะเกรงกลัวการแสดงในที่โล่งจนทำให้เกิดความเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย ?

“ท่านอ๋อง ข้าอยู่ตรงนี้คงไม่เหมาะนัก ท่านช่วยส่งข้าไปที่โถงข้าง ๆ ใกล้ ๆ ตรงนั้นเถอะ” เครื่องสำอางของนางอีกไม่นานก็ใกล้จะได้เปิดตัวแล้ว

เมื่อสักครู่ที่รู้ตัวว่าฝนจะตกลงมาตอนนั้น ที่หัวของเขาก็มีร่มกางออกมาบังไว้แล้วอยู่หนึ่งคัน

แม้ว่าเขาจะรู้ว่านางก็แค่บังเอิญยืนข้าง ๆ เขา ก็แค่ทั้งสองคนถือร่มหนึ่งคันกางด้วยกัน แต่หัวใจของเขาก็ยังสั่นไหวอยู่เล็กน้อย "ก็ได้ ไปกันเถอะ"

ทุกคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงทั้งหมดรีบเข้าไปหลบในโถงด้านข้างอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากความแตกต่างระหว่างชายและหญิง แขกผู้ชายจึงตั้งใจไปที่ปีกซ้ายของห้องในขณะที่ผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงก็ไปที่ปีกขวาของห้องเหมือนกัน

ช่วงเวลานี้

เหมือนว่าผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงทั้งหมดจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

เสื้อผ้าเปียกปอน ทรงผมที่จัดการดูแลมาเป็นอย่างดีก็ยุ่งเหยิง ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องสำอางบนใบหน้าพวกนางก็ยังเปรอะเปื้อนลอกหลุดออกมาอย่างไม่น่าแปลกใจนัก

นี่จึงเป็นงานเลี้ยงที่ถือว่าแย่ที่สุดครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความลำบากใจ ถ้าเจอแบบนี้ ในเวลาปกติเมื่อเห็นสภาพของคนฝั่งตรงข้ามจะต้องมีคำพูดเสียดสีเยาะเย้ยกันบ้าง แต่ตอนนี้ ทุกคนเป็นสภาพแบบนี้กันหมด ณ เวลานั้น ทุกคนก็เงียบกริบไปโดยปริยาย

“เห้ย พวกเจ้าดูสิ นั่นเหยากุ้ยเหรินไม่ใช่เหรอ ?” คนที่ด้านหลังฝูงชนไม่รู้ว่าใครก็ตะโกนออกมา

เป็นผลให้ทุกสายตาในปีกซ้ายขวาของห้องก็หันไปหาดูเหยากุ้ยเหรินที่เพิ่งเข้ามาทันที

เห็นเพียงแต่ร่างกายของเหยากุ้ยเหรินที่เปียกแฉะไปหมด กระโปรงผ้าโปร่งผืนบางที่แนบชิดติดกับร่างกายของนาง จนเห็นส่วนโค้งเว้าที่น่าละอาย ผมยาวสลวยของนางก็ยุ่งเหยิงแนบอยู่บนศรีษะ การแต่งหน้าที่บอบบางละเอียดอ่อนก่อนหน้า ตอนนี้ก็เบลอเละไปหมด ใบหน้าของนางทั้งหมดในขณะนี้เมื่อเทียบกับการแสดงงิ้วแล้วถือว่าตระการตามากอยู่ไม่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น