ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 109

ถึงแม้ว่าผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงที่โดนฝนจนเปียกปอนโดยพื้นฐานแล้วแถบจะไม่มีใครรอดสักคน ไม่มีหน้าของใครที่ดีไปกว่าหน้าของคนอื่นตอนนี้ แต่เหยากุ้ยเหรินเป็นถึงนายหญิงของตำหนักใน พอเห็นว่าแม้แต่นายหญิงก็ยังไม่รอด และยังน่าสังเวชมากกว่าพวกนางมาก ภายในใจของพวกนางจึงรู้สึกดีขึ้นเยอะมาก

แค่เหยากุ้ยเหรินตอนเข้าประตูมาในเวลานั้นและได้เห็นสายตาของผู้คนที่จ้องมาราวกับถูกพรมในพิธีรับน้ำมนต์ ตอนนั้นความคิดที่อยากจะตายก็ผุดขึ้นในใจขึ้นมาแล้ว และโกรธเกลียดถึงขนาดที่อยากจะออกไปจากตรงนี้

แต่ฝนตกอยู่หนักมาก นอกจากโถงด้านข้างแห่งนี้แล้วก็ไม่มีที่ใดให้หลบฝนได้อีก

"พวกเจ้ากำลังมองอะไร ! ร่างกายของนายหญิงเป็นสิ่งที่พวกเจ้าดูได้งั้นเหรอ ? ถ้ายังดูอีกข้าจะลงโทษพวกเจ้าให้มีความผิดให้หมด !" ฉุ่ยยวู่ชานที่ซึ่งกำลังติดตามเหยากุ้ยเหรินด้านหลังก็มองดูผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงเหล่านั้นด้วยสายตาดุร้าย

เดิมที ทุกคนก็ไม่ได้หัวเราะเยาะอะไร ท้ายที่สุด ทุกคนก็เป็นแบบนี้ไปหมด

แต่มีนางข้าหลวงที่มีทัศนคติที่เลวร้ายอยู่คนหนึ่ง  จู่ ๆ ก็ทำให้ความประทับใจของเหยากุ้ยเหรินพังทลายลงไปมาก

"ว๊าย นี่ใช่เหยากุ้ยเหรินคนนั้นเหรอ ? ทำไมถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ ?" อีกคนที่ตามมาจากด้านนอกก็คือหลันกุ้ยเหริน

แน่นอนซึ่งแตกต่างจากเหยากุ้ยเหรินอยู่มาก หลันกุ้ยเหรินคนนี้นอกจากชายเสื้อและชายกระโปรงที่เปียกแค่เล็กน้อยแล้วโดยพื้นฐานแล้วก็แถบจะไม่เปียกฝนอะไร

ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่านางแต่งตัวธรรมดาจืดชืดและดูด้อยกว่าเหยากุ้ยเหริน แต่ตอนนี้ต่อให้เสื้อผ้าของนางที่ดูไม่ดีเช่นไร แต่ก็ยังคงมีความงดงามกว่าอยู่ดี

"อุ๊ย แหม แหม ดูหน้าเจ้าสิเปรอะเปื้อนไปหมด เดี๋ยวฝนหยุดตกแล้วเจ้าก็อย่าฝืนไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทล่ะ เดี๋ยวฝ่าบาทจะตกใจเข้าให้จนมีอาการประชวร" เมื่อเห็นเหยากุ้ยเหรินในสภาพเช่นนี้ ในใจของหลันกุ้ยเหรินก็ดูมีความปิติสุขพองตัวขยายใหญ่จนแถบจะล้นอกออกมา

พระเจ้านี่ช่างเจ๋งเกินไปแล้ว !

และยังมีเสด็จพี่ที่ตำหนักเย็นผู้นั้นอีก ความสามารถในการพยากรณ์สภาพอากาศสมบูรณ์แบบจริง ๆ ฝนเทสาดเหยากุ้ยเหรินจนต้องลงเวทีได้แบบนี้ หลังจากงานเลี้ยงจบลง นางต้องไปตำหนักเย็นเพื่อพบกับเสด็จพี่เทพเซียนผู้นี้สักหน่อยแล้ว

พริบตาสายตาที่อ่อนโยนของเหยากุ้ยเหรินก็พลันจางหายไป เวลานี้ขณะนี้กลับถูกแทนที่ด้วยสายตาที่ขุ่นมัวและเย็นชา

มองนางด้วยสายตาอันเย็นเยียบคู่นั้น จากนั้นก็หันหลังกลับไปพร้อมกับพานางข้าหลวงไปที่อื่น

นางวันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาจนตรอก เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะที่จะโต้เถียงกับนางในเวลานี้

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากปีกในโถงนั้น

"มา มา เร่เข้ามา ทุกคนหลีกทางให้หน่อย เครื่องประทินโฉมบนใบหน้าลอกออกหมดแล้วล่ะสิ ? ไม่เป็นไร ที่บ่าวนี้มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบทดลองของแผนกเสริมความงามของตำหนักเย็น ซึ่งทั้งหมดนี้มอบให้ไปเลยและไม่คิดเงิน และมีเพียงแค่ 120 ชุดเท่านั้น มาก่อนได้ก่อน" ลู่ยุ๋นหลัวเข็นรถเข็นและเดินออกมาจากด้านหลังฝูงชนด้วยใบหน้าอันสงบ

"เป็นที่ทาแก้มชนิดน้ำ !" " ผู้สูงศักดิ์ฝ่ายหญิงที่อยู่ข้างลู่ยุ๋นหลัวเมื่อเห็นของที่อยู่ในรถเข็นของลู่ยุ๋นหลัว สีหน้าก็ตกใจขึ้นมาทันที

สายตาของทุกคนหันไปที่รถเข็นคันนั้นทันที มันคือที่ทาแก้มชนิดน้ำ แม้กระทั่งชิงไต้(ชิงไต้ เดิมทีเป็นยาจีนสีดำซึ่งสามารถนำมาใช้เขียนคิ้วได้)สำหรับทาคิ้วก็ยังมี

จากนั้นก็ราวฝูงผึ้งแห่รุมน้ำหวานในทันที

"ให้ข้าชุดหนึ่ง !"

"ข้าเอาด้วย !"

“ข้าเอาสามชุด !”

"ทุกคนเงียบหน่อย ! ใครที่จะเอาเข้าแถวต่อแถวด้วย"

ตอนนี้ทุกคนมีใบหน้าที่เละเทะจนดูไม่ได้ ถ้ามีที่ทาแก้มแบบน้ำนี้นั่นหมายถึงพวกนางสามารถแต่งหน้าได้ใหม่ นั่นเหมือนกับการได้ช่วยชีวิตพวกนางเอาไว้จริง ๆ 

แม้ว่าปริมาณจะดูค่อนข้างน้อย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันเช่นนี้ ถือได้ช่วยชีวิตเหล่าแม่นางและเหล่าภรรยาไว้ได้มากแล้ว !

ขันทีน้อยคนนี้ก็เพิ่งจะบอกไป ว่ามีแค่ 120 ชุดเท่านั้น แต่ด้านในก็มีคนอย่าวน้อย 200 คน และยังไม่นับสาวใช้ที่พวกนางพามาด้วยอีก

ทันใดนั้นบรรดาเจ้านายของสาวใช้ต่าง ๆ ก็อยากจะรีบพุ่งไปด้านหน้าให้มากที่สุด เพราะกลัวว่าถ้าสายเกินไปของจะหมด

"ทุกคนอย่ากังวล ทุกคนเข้าแถวกันดี ๆ เดี๋ยวจะแจกจ่ายตามลำดับการต่อแถว ใครไม่ต่อแถว ใครแทรกแถวเข้ามาก็จะไม่มีให้แน่นอน !" ทันทีที่เสียงของลู่ยุ๋นหลัวเงียบลง ผู้คนที่รุมอย่างกับผึ้งตอมน้ำหวานกันเมื่อครู่ก็กลายเป็นแถวยาวในทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น