ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 129

“ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงเหนื่อยแย่เลยใช่มั๊ยเพคะ ? หม่อมฉันถวายการนวดให้สักหน่อยมั๊ยเพคะ”

ขณะที่พูด ลู่ยุ๋นหลัวก็ไม่ได้รอให้จี้อู๋เจวี๋ยทรงเห็นด้วย นางก็ได้เข้าไปช่วยบีบนวดที่ไหล่ไปเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีทางเลือก

สายพระเนตรของชายคนนี้ช่างน่าสะพรึงมากเกินไปแล้ว

ขนาดนางเห็นสายพระเนตรคู่นั้นใจยังเต้นหวาดกลัว

นางก็เกรงว่าหากชายคนนี้ไม่พอพระทัยอะไรขึ้นมาจะจับนางโยนลงแม่น้ำไปอีกคน

นางช่างรู้หลบเป็นปีกหรือหลีกเป็นหาง

ทำให้ชายคนนี้มีความสุขก็น่าจะควรเอาตัวรอดในคราวนี้ไปได้ใช่มั๊ย ?

จี้อู๋เจวี๋ยก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

หลังจากเวลาผ่านไปนาน

จี้อู๋เจวี๋ยก็ทรงถามขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ "สนมคนโปรดมีเรื่องอะไรที่ต้องการจากข้ารึ ?”

ลู่ยุ๋นหลัวหยุดมือชั่วคราว คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร ?

“เจ้าสามารถร้องขอบางอย่างกับข้าได้ตามอันเหมาะสม ข้าให้สัญญากับเจ้าได้” เสียงที่เย็นชาของจี้อู๋เจวี๋ยตรัสกล่าว

ลู่ยุ๋นหลัวมองจากด้านหลังพระเกศาของจี้อู๋เจวี๋ยอย่างสงสัย จะไปมีเรื่องดีแบบนี้ได้เยี่ยงไร ?

นางไม่เชื่อหรอก

นางมีลางสังหรณ์ว่าคำถามนี้เป็นไปได้มากที่จะเป็นคำถามวัดใจ

ถ้าตอบไม่ดีขึ้นมา ทุกนาทีก็ล้วนหมายถึงความตาย

แต่นางก็ยังคงถามอย่างระมัดระวังไปอีกหนึ่งประโยค "จะขออะไรก็ได้งั้นเหรอเพคะ ?"

จี้อู๋เจวี๋ยทรงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็ตรัสขึ้นมาว่า "อืม" เพียงหนึ่งคำ

ลู่ยุ๋นหลัวนั่งลงตรงเบื้องพระพักตร์ของจี้อู๋เจวี๋ยทันที "ฝ่าบาท ในเมื่อนี่เป็นสิ่งที่ฝ่าบาททรงตรัสเอง ถ้าให้ข้ากล่าวทูล ฝ่าบาทก็ทรงโปรดอย่ากลับคำนะเพคะ !"

มุมพระโอษฐ์ของจี้อู๋เจวี๋ยโค้งขึ้นเล็กน้อย พระพักตร์ที่อึมครึมและหมองหม่นเมื่อสักครู่ของเขาก็ผ่อนคลายลงมาก "ตัวข้า คำพูดเปรียบได้ดั่งทอง วาจาเปรียบได้ดั่งหยก พูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว"

ไม่ใช่ว่าอยากจะออกไปนอกวังเพื่อไปหากั๋วกงติ้งหรอกเหรอ ?

ขอเพียงแค่บอกเขา แค่นี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปขอจากเสด็จลุงสามแล้ว

พระอิริยาบถที่ทรงดูน่าเชื่อถือของจี้อู๋เจวี๋ยก็ทำให้ลู่ยุ๋นหลัวเชื่อขึ้นมาบ้าง

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งที่มีค่าและหาได้ยากยิ่ง นางจึงหยั่งเชิงลองถามไปหนึ่งประโยค "พระราชทานใบหย่าแก่หม่อมฉันได้รึไม่เพคะ ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น