ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลันกุ้ยเหรินอยู่ตั้งในวัง อยู่ในห้องของนาง แต่กลับเกิดเรื่องน่าเวทนาแบบนี้ขึ้นมาได้
เกิดเรื่องถึงขั้นนี้ ไม่ว่านางจะพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบสักอย่าง
ยิ่งกว่านั้น ลู่ยุ๋นหลัวยังรับทองจากนางไปแล้วด้วย
“จริงเหรอ ?” หลันกุ้ยเหรินไม่เพียงแค่จะไม่โกรธแล้ว แต่ยังมีสีหน้าประหลาดใจอีกด้วย ตำหนักเย็นแห่งนี้มีของอร่อยมากมาย
"เจ้าไม่โกรธแล้วเหรอ ?" ลู่ยุ๋นหลัวพบว่าหลันกุ้ยเหรินทำไมถึงดูมีความสุขมากขนาดนั้น ?
“ทำไมข้าจะต้องโกรธด้วย ? ไม่ใช่ว่าข้าถูกฝ่าบาทโยนออกนอกหน้าต่างหรอกเหรอ ข้าชินแล้วล่ะ แต่วันนี้ข้าก็โชคร้ายจริง ๆ นั้นแหละ ตกลงไปในแม่น้ำพอดี” ขณะที่พูดหลันกุ้ยเหรินก็จามอีกครั้ง
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร ?" ลู่ยุ๋นหลัวได้กลิ่นทะแม่งทะแม่ง
“คือแบบนี้ ตอนที่ฝ่าบาทประทับค้างคืนที่วังหลิวหยุน ข้าก็ถูกโยนอยู่สองครั้งได้ ฮัดชิ้ว !” หลันกุ้ยเหรินลูบไปที่จมูก
มีอยู่สองครั้งที่นางไปห้องสุขากลางดึก ขากลับนางกลับผิดห้องและขึ้นผิดเตียง และก็ถูกโยนออกไปทันที
แต่คราวนี้ทำไมถึงถูกโยนออกไปนางก็ไม่รู้เช่นกัน
นางรู้แค่ว่านางกำลังหลับสบาย ทันใดนั้นหมอนที่วางอยู่ข้าง ๆ ก็มีอีกคนนอนเพิ่มขึ้นมา ขณะนั้นนางก็กำลังงัวเงียอยู่ นางก็ยื่นมือไปสัมผัสเพื่ออยากรู้ว่าเป็นใคร พริบตาก็ถูกเขาคว้าขึ้นมาและโยนออกนอกหน้าต่างไปแล้ว
แม้ว่าครั้งนี้นางจะรู้สึกว่าตนเองถูกกระทำอย่างไม่มีเหตุผลก็จริง
แต่คนที่โยนนางออกไปคือฝ่าบาท !
นางคงจะใช้เหตุผลทูลกับฝ่าบาทไม่ได้หรอกมั้ง ?
ลู่ยุ๋นหลัวสีหน้าตกตะลึง จี้อู๋เจวี๋ยมีนิสัยวิตถารในการโยนผู้คนด้วยเหรอ ?
เมื่อนึกย้อนไปถึงครั้งสุดท้ายที่นางเกือบทำให้จี้อู๋เจวี๋ยบรรทมกับนางในครั้งนั้น แล้วยังไม่ถูกโยนออกไปต่อหน้าสาธารณะชน แค่นี้ก็ดวงดีมากแล้ว
วันที่สอง หลันกุ้ยเหรินยังคงเป็นไข้หวัด นางเกรงว่าลู่ยุ๋นหลัวจะติดหวัดจากนางไป ดังนั้นจึงกลับไปที่วังหลัวหยุนเพื่อพักฟื้น
ตอนจากไป นางยังค้นผักและผลไม้ทั้งหมดในตำหนักของลู่ยุ๋นหลัวไปอยู่รอบ และขอให้ลู่ยุ๋นหลัวสัญญากับนาง ว่าเมื่อนางหายจากอาการป่วย จะต้องมีห้องพิเศษสำหรับนางในตำหนักเย็น นางหลังจากนี้จะพักอยู่ที่นี่บ่อยมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งสองวันที่ผ่านมา มีอีกสิ่งหนึ่งในตำหนักเย็นที่จุดประกายให้เกิดการถกเถียงกันในกลุ่มเล็ก ๆ
นั่นคือพยากรณ์อากาศบนกำแพงด้านนอกของตำหนักเย็น ซึ่งได้ทำนายสภาพอากาศในอีกเจ็ดวันข้างหน้า แม้กระทั่งเวลาฝนตกโดยละเอียดก็ได้บอกไว้ จนถึงตอนนี้ ก็ไม่เคยพยากรณ์พลาดแม้แต่ครั้งเดียว
ว่ากันว่าตอนนี้แม้แต่สำนักหอดูดาวหลวงและกระทรวงพิธีการก็ยังส่งขันทีมาตรวจดูทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนจำนวนมากในวังที่ไม่เชื่อ
ก็ยังมีบางคนที่เบื่อไม่มีอะไรทำและวิ่งมาดู โดยจดเวลาพยากรณ์ทั้งหมดเอาไว้เพื่อดูว่าหลังจากนี้ จะแม่นยำตามที่พยากรณ์ไว้รึไม่
ลู่ยุ๋นหลัวใช้เวลาในวันถัดไปทั้งเพื่อรอข่าวการได้ออกจากวังทั้งจัดการงานการเกษตรในตำหนักเย็นและนำผักในฤดูใบไม้ร่วงไปปลูก
หากนางสามารถออกจากวังได้อย่างราบรื่น นางก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าจะได้กลับมา อย่างไรก็ตาม จะกลับมาได้เร็วช้าก็ยังคงขึ้นอยู่กับอาการป่วยท่านตาของนาง
เพื่อความมั่นใจ นางได้กำชับเน้นย้ำบอกให้ระวังข้าวสาลีและผักทั้งหมดที่ปลูกหลังจากนี้
ส่วนชานมในร้านขายของชำก็ให้ผลิตและจำหน่ายต่อไป
ส่วนการผลิตเครื่องสำอางคงได้แต่ต้องระงับไว้ก่อน
คืนในวันเดียวกัน หลังจากนางล้างหน้าทำความสะอาดต่าง ๆ เสร็จพร้อมจะเข้านอน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนดังออกมาจากมิติพิเศษ
ร่างของนางก็กระพริบในทันทีพร้อมกับหายเข้าไปในมิติพิเศษ
เห็นเพียงไฟสีแดงกระพริบอยู่เหนือประตูโกดังที่กำลังส่งสัญญาณเตือน
ตอนนี้ลู่ยุ๋นหลัวตกใจ เป็นไปได้ไหมว่ามีอะไรผิดปกติกับโกดัง ?
พอเข้าไปตรวจดูอยู่รอบก็พบว่า ที่แท้โกดังได้วางของไว้จนเต็มแล้ว
ธัญพืชการเกษตรของพื้นที่เพาะปลูกหลังจากโตเต็มที่และก็ไม่มีที่จะวาง ระบบอัตโนมัติก็หยุดทำงาน ธัญพืชในพื้นที่เพาะปลูกก็ล้วนหยุดการเติบโต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...