ลู่ยุ๋นหลัวชำเลืองมองเขาอย่างเรียบเฉยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "บางทีท่านตาเองอาจจะคิดถึงข้าตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา บางทีวันนี้อาจได้ยินเสียงข้าคุยกับนางเลยทำให้เขาตื่นขึ้นก็เป็นได้ เพียงแต่ขนาดเขาออกเสียงเอื้อนเอ่ยก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว”
คำพูดของลู่ยุ๋นหลัวก็ดูมีเหตุผล พี่ชายใหญ่ของเขาที่โปรดปราณหลานสาวของเขาอยู่ตลอด ว่ากันว่าเขาล้มป่วยลงตอนได้ยินเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของครอบครัวของลู่ยุ๋นหลัว
พอมาวันนี้เมื่อได้ยินว่าหลานสาวของเขาซึ่งคิดถึงมาโดยตลอดกลับมา ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะลืมตาและพูดกล่าวออกมาได้สักสองประโยค
ในวันธรรมดา พี่ชายใหญ่ของเขาร่างกายอ่อนแอ ไม่มีแรงที่จะลืมตา
แพทย์ยังบอกอีกว่าทำได้แค่ได้ยินเสียงคุยกันข้างนอกเท่านั้น
“พี่ชายใหญ่ได้บอกรึไม่ ว่าจะรับใครไปเลี้ยงเป็นบุตร ?” ท่านตาคนสามตื่นเต้นเล็กน้อยในทันใด
“ท่านตาอาจจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพบข้าก็ได้ เขาพูดได้ประโยคเดียวก็ผล็อยหลับไป”
“พี่ชายใหญ่ท่านกล่าวว่าอย่างไร ? นายหญิงได้โปรดบอกด้วยเถอะพะยะค่ะ ข้าร้อนรนจะตายอยู่แล้วพะยะค่ะ” ท่านตาคนสามอารมณ์โกรธขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
แม้แต่ท่านตาคนรองที่ฉลาดหลักแหลมก็ยังจ้องมองนางอยู่ในตอนนี้
ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อเห็นคนทั้งสองก็พอจะเชื่ออยู่บ้าง ดังนั้นนางจึงพูดไป "ท่านตาบอกว่า ผู้ที่สามารถรับมอบบรรดาศักดิ์ได้จะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์"
ตามความเข้าใจของนาง ลูกชายของพี่น้องท่านตาทั้งสองตระกูลล้วนไม่ได้เป็นคนดีอะไรเท่าไหร่นัก
แม้จะบอกว่าการพิสูจน์ว่าตนเองเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์จะเป็นเรื่องยาก แต่การพิสูจน์ฝ่ายตรงข้ามก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเช่นเดียวกัน
สิ่งที่นางต้องการคือให้ทั้งสองครอบครัวสาดโคลนใส่กัน
ให้ศึกดำเนินไปอย่างช้า ๆ
ท่านตาคนรองและท่านตาคนสามขมวดคิ้วเล็กน้อย จิตใจบริสุทธิ์ แม้จะพูดว่าดูเหมือนง่าย แต่จะพิสูจน์ได้เยี่ยงไรว่าลูกชายคนโตของครอบครัวของตนนั้นมีจิตใจที่บริสุทธิ์ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...