"ตอนนี้ น้องชายของท่านตาทั้งสองมีท่าทีเช่นไรรึ ?" ลู่ยุ๋นหลัวไม่ชอบน้องชายท่านตาทั้งสองคนนั้นเท่าไหร่นัก
ลุงหวังยิ้มอย่างเย้ยหยันพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยการเสียดสี "นายท่านสองและนายท่านสามไม่ได้ย้ายเข้าไปในจวนเพื่อดูแลท่านผู้อาวุโส พวกเขาทั้งสองตระกูลต่างคอยคิดถึงแต่ตำแหน่งบรรดาศักดิ์ของจวนกั๋วกง ท่านผู้อาวุโสมีไม่บ่อยครั้งนักที่จะมีสติสัมปชัญญะ พวกเขาสองตระกูลก็จะหยิบพู่กันและน้ำหมึกให้ท่านผู้อาวุโสรับเลี้ยงบุตรของตนเอง เพื่อว่าหลังจากท่านผู้อาวุโสจากไปลูกชายของตนเองจะได้รับตำแหน่งบรรดาศักดิ์ต่อจากเขา”
ไม่แปลกใจเลย !
ลู่ยุ๋นหลัวจำได้ว่าตอนที่นางเดินเข้าประตูไป เด็กรับใช้กำลังแบกโลงศพเข้าไปข้างใน เพื่อเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
“แล้วตอนนี้การตัดสินใจรับเป็นบุตรกำหนดไปแล้วหรือยัง ?” ถ้าตัดสินใจกำหนดไปแล้วก็คงลำบาก
ลุงหวังส่ายหัว "ทั้งสองตระกูลต่างก็ไม่เชื่อในอีกฝ่าย ตอนนี้ เหมือนจะถึงทางตันจนไม่มีความคืบหน้า"
ลู่ยุ๋นหลัวพยักหน้า
ปัจจุบันยังยากที่จะบอกว่าใครเป็นคนวางยาท่านตา
“แล้วใครเป็นผู้ดูแลในจวนตอนนี้ ?”
คนทั้งสองตระกูลที่อาศัยอยู่ในจวนกั๋วกง ไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อยว่าพวกเขาจะต้องใช้จ่ายด้วยเงินของจวนกั๋วกง
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคลังเก็บสมบัติในจวนหลังนี้ถูกสองตระกูลนี้ปอกลอกเหลือสักเท่าไหร่
“คือหลิวชื่อลูกสะใภ้คนโตของนายท่านสามซึ่งเป็นผู้ดูแลส่วนกุญแจคลังเก็บสมบัติในจวนก็ถูกพวกเขาเอาไปแล้ว” ลุงหวังกล่าว
ลู่ยุ๋นหลัวขมวดคิ้วสงสัย หลิวชื่อ ?
ในความทรงจำของนาง นางเป็นสะใภ้ของลูกพี่ลูกน้องของน้าที่มักจะทำเรื่องอะไรก็ประมาทเลินเล่อ ถ้านางเป็นผู้ดูแลจวนกั๋วกง แล้วท่านตาคนรองจะยอมได้อย่างไร ?
ถ้าทั้งสองตระกูลมาดูแลท่านจริง ๆ ก็คงแล้ว ๆ ไป
แต่ดูจากปัจจุบันแล้ว ทั้งสองตระกูลแถบจะไม่สนใจความปลอดภัยของท่านปู่ของพวกเขา และอย่างเห็นได้ชัดว่าอยากจะให้ท่านปู่ของพวกเขาจากไปโดยเร็วด้วยซ้ำ เพื่อให้ลูกชายของพวกเขาได้รับตำแหน่งบรรดาศักดิ์ของจวนกั๋วกงต่อ
ถ้านางรู้ว่าคนที่วางยาพิษอยู่เบื้องหลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา พอถึงตอนนั้นก็อย่ามาโทษนางว่าไร้ความปรานี
หลังจากพูดคุยกับลุงหวังไม่กี่ประโยค นางก็ออกจากคอกม้าและเดินไปที่ห้องโถงด้านหน้า
ข้ารับใช้บางส่วนของจวนกั๋วกงเคยเห็นลู่ยุ๋นหลัวมาก่อน ตอนนี้พอได้เห็นลู่ยุ๋นหลัวที่อยู่ดี ๆ ก็ปรากฎขึ้นในจวนกั๋วกงอย่างไม่คาดคิด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถปฏิเสธขนบธรรมเนียมมารยาทไปได้ “กราบบังคมทูลนายหญิง”
ลู่ยุ๋นหลัวพยักหน้า "ลุกขึ้นเถอะ เจ้ารีบไปเรียกนายท่านสองและนายท่านสามของพวกเจ้ามาที่โถงด้านหน้าที่ ข้าต้องการพบพวกเขา"
หลังจากนั้นลู่ยุ๋นหลัวก็ให้คนไปเรียกแม่นมโจวและ นางข้าหลวงอีกหกคนเข้ามาในจวน
หลังจากสั่งให้ไปจัดการธุระได้สักพัก ก็ให้นางข้าหลวงสี่นางไปที่ห้องของท่านตาเพื่อไปปรนนิบัติคอยรับใช้
เมื่อรอท่านตาคนรองและท่านตาคนสามมาถึงห้องโถงด้านหน้า ลู่ยุ๋นหลัวก็กำลังนั่งร้องไห้ตาแดงก่ำทั้งสองข้างอยู่ในห้องโถง
ท่านตาคนรองและท่านตาคนสามต่างสบตามองกัน
ได้ยินมาว่าหลานสาวของพวกเขามีความรักอย่างลึกซึ้งต่อพี่ชายของพวกเขา
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเข้าไปในพระมหาราชวังแล้วเวลานี้ก็ยังสามารถออกมาหาพี่ชายของพวกเขาได้ ไม่กี่วันก่อนมีข่าวว่าหลานสาวของพี่ชายของพวกเขาทรงเป็นที่โปรดปราณของฝ่าบาทเป็นอย่างมาก
“กราบบังคมทูลนายหญิง” ทั้งสองเดินนำหน้าถวายบังคม คนที่ตามมาข้างหลังก็คุกเข่าถวายบังคมเช่นกัน “ทรงพระเจริญพันปีพันปีพัน ๆ ปี”
"รีบ ๆ ลุกขึ้นเถอะ" ลู่ยุ๋นหลัวสีหน้าตื่นตระหนกพร้อมกับรีบให้พวกเขาลุกขึ้น
หลังจากทั้งสองนั่งลงแล้ว ลู่ยุ๋นหลัวก็เริ่มพูดอย่างเศร้าใจ "ท่านตาคนรอง ท่านตาคนสาม ท่านตาของข้า เขา...เหลือเวลาอีกกี่วัน ?"
“กราบทูลนายหญิง ท่านพี่ใหญ่ของกระหม่อม เกรงว่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่วันพะยะค่ะ” คนที่พูดคือท่านตาคนรอง ซึ่งปกติมักเป็นคนฉลาด แต่ในขณะนี้ใบหน้าของเขากลับมีแววพร้อมรับมือเหตุการณ์อย่างเต็มที่
เมื่อลู่ยุ๋นหลัวได้ยิน ชั่วเวลานั้นนางรู้สึกโศกเศร้าอีกครั้ง
“เมื่อสักครู่ตอนข้าไปเยี่ยมท่านตา ท่านตาได้พูดถึงเรื่องการรับเลี้ยงบุตรให้ข้าฟัง”
“พี่ชายใหญ่เมื่อสักครู่ตื่นแล้วรึ ?” ท่านตาคนรองดูงุนงงเล็กน้อย
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา พี่ชายใหญ่ของเขาหลับไม่มีสติอยู่ตลอดเวลา จะเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ ว่าเมื่อนางมาถึงก็ตื่นขึ้นมาพอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...