ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 139

หยินซวางเห็นลู่ยุ๋นหลัวแพ้สิบตาติดต่อกันจนในที่สุดก็เริ่มชนะ นางตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดตัวลอย

นายหญิงของนางช่างเยี่ยมยอดยิ่งนัก

พอจะชนะขึ้นมาก็ชนะจนได้เงินตำลึงถล่มทลาย

หยินซวางมองลู่ยุ๋นหลัวด้วยสีหน้าชื่นชม

ด้านของลู่ยุ๋นหลัวพริบตาก็ชนะได้เงิน 4,000 ตำลึงในคราวเดียว จนดึงดูดความสนใจของพนักงานคนอื่น ๆ ในบ่อนพนันแห่งนี้

คนเขย่าลูกเต๋าเมื่อสักครู่ถูกเรียกให้ลงไป พร้อมกับเปลี่ยนคนเขย่าลูกเต๋าคนใหม่ที่รูปร่างสูงใหญ่ขึ้นมาแทน

การเดิมพันรอบใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง

ลู่ยุ๋นหลัวกลับไปสู่การเล่นเดิมพันทีละ 100 ตำลึงก่อนหน้า

และก็ไม่น่าแปลกใจ นางเริ่มพ่ายแพ้ติดต่อกันอีกครั้ง

คนเขย่าลูกเต๋านายนี้สีหน้าเย็นชามองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวอยู่รอบหนึ่ง

เงิน 4,000 ตำลึง ขอเพียงแค่ให้เขาแพ้ 40 ตา บ่อนพนันก็จะชนะเอาเงินกลับมาได้แล้ว

ถ้านางไม่สามารถอดกลั้นอารมณ์และเทหมดหน้าตักได้ก็ยิ่งได้เร็วกว่านี้

อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้นางแพ้อยู่ตลอด และเมื่อคิดถึงนักพนันคนอื่นที่จะพนันฝั่งตรงข้ามกับนางด้วยแล้ว ยังไงก็ควรให้ลู่ยุ๋นหลัวชนะบ้างเป็นครั้งคราว

ด้วยวิธีนี้ ลู่ยุ๋นหลัวก็จะชนะน้อยแพ้มาก จนกระทั่งเมื่อเห็นว่านางได้สูญเสียไปแล้วมากกว่า 1,000 ตำลึง ในที่สุดลู่ยุ๋นหลัวก็อดทนไม่ไหวจนนำเงิน 6,000 ตำลึงที่เหลืออยู่เทหมดหน้าตักเดิมพันลงไป

แต่คราวนี้ ทุกคนกลับไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้าเดิมพันตาม และพิจารณาลงพนันด้วยตัวของตนเอง

ใครจะไปรู้ว่าคุณชายผู้นี้จะแพ้ต่อเนื่องต่อหรือว่าจะกลับมาชนะ

แต่คนเขย่าลูกเต๋าที่โต๊ะพนันก็เฝ้ารอเวลาวินาทีนี้ไว้แล้ว

"เปิด !"

"15 แต้ม ! ออกสูง !"

ลู่ยุ๋นหลัวชนะไปแล้ว !

คนเขย่าลูกเต๋ามองที่แต้มในถ้วยเต๋าด้วยความไม่เชื่อ เขาเขย่าให้ออกแต้มต่ำอยู่ชัด ๆ แล้วทำไมถึงออกมาแต้มสูงไปได้ล่ะ ?

อย่างที่ทุกคนรู้ ลูกเต๋าเหล่านี้ถูกเติมสารปรอทลงไป หลังจากฝึกฝนในบ่อนการพนัน พวกเขาล้วนสามารถเขย่าให้ออกมาได้แต้มต่ำสูงได้ตามต้องการ ซึ่งจะผิดพลาดไปได้อย่างไร ?

ตาของเขามืดหม่นลงในทันใด จากประสบการณ์หลายปีในการเขย่าลูกเต๋าในบ่อนพนัน นี่จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน

เขาเรียกชายร่างใหญ่ที่อยู่ข้างหลังเขา "รายงานเรื่องนี้ให้พี่ใหญ่ทราบที"

ลู่ยุ๋นหลัวรับเบี้ยพนันคืนกลับมาอย่างหน้าชื่นตาบาน เงินเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว นางตอนนี้มีเงินทั้งสิ้น 12,000 กว่าตำลึงแล้ว

ผู้คนรอบข้างมองดูเบี้ยพนันในมือของลู่ยุ๋นหลัวด้วยความอิจฉาและความเกลียดชัง

นั่นมันมากกว่า 10,000 ตำลึงไปแล้ว

อย่างที่รู้กัน ว่าเงิน 10,000 ตำลึงนี้เพียงพอสำหรับครอบครัวธรรมดาทั่วไปที่มีสมาชิก 5 คนที่จะสามารถดำรงชีพใช้จ่ายบริโภคไปได้ตลอดชีวิต

ณ บ่อนพนันชั้นสอง

ชายร่างอ้วนท้วมร่างกายเต็มไปด้วยไขมันกำลังโอมกอดทั้งซ้ายขวาและหยอกล้อกับหญิงงามสองคนที่เพิ่งเอากลับมาจากหอนางโลมที่อยู่ติดกันข้าง ๆ

ชายร่างใหญ่วิ่งด้วยความตื่นตระหนกมา “แย่แล้ว พี่ใหญ่เฉียว มีคนชนะบ่อนพนันของเราไปมากกว่า 10,000 ตำลึงแล้ว”

เฉียวเทียนปาโอบกอดหญิงงามไปพร้อมกับรัดเอวหญิงงามไป กล้ามเนื้อใบหน้าอ้วน ๆ ของเขาราวกับเขียนไว้เต็มหน้าด้วยคำว่า “รำคาญ” "เรื่องแค่นี้ยังต้องให้ข้าสอนอีกเหรอ ? ปล่อยให้เขาเล่นต่อไปและให้เขาคายเงินที่เขาชนะไปออกมาให้หมด"

"แต่..." สิ่งที่ชายร่างใหญ่จะพูดคือคนเขย่าลูกเต๋าทั้งสองในบ่อนพนันล้วนไม่สามารถเขย่าให้ออกหน้าแต้มตามต้องการหลายครั้งแล้ว คำพูดของชายร่างใหญ่ยังไม่ทันจะได้พูด ก็ถูกเฉียวเทียนปาขัดไว้อย่างหงุดหงิด "ยังไม่ใสหัวออกไปอีก !"

จะจบได้ยัง ?

ไม่เห็นเหรอว่าเขาตอนนี้ยุ่งมาก ?

ชายร่างใหญ่ผู้นั้นทำได้แค่กลืนคำพูดที่ปากของเขาลงคอไป

พี่ใหญ่ท่านนี้อารมณ์ไม่ดีอย่างที่ฉาวโฉ่กัน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีกและถอยฉากไป

สำหรับบ่อนพนันแห่งนี้  ลู่ยุ๋นไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป ดังนั้นนางจึงเดิมพันเบี้ยพนันหมดหน้าตักติดต่อกัน

ไม่นานนักก็ชนะไปเกือบ 50,000 ตำลึง !

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างมองลู่ยุ๋นหลัวด้วยสายตาที่ตกใจอย่างมาก

พวกเขาถือว่าเป็นนักพนันผู้คร่ำหวอดในบ่อนพนันแล้ว ยังไม่เคยเห็นการเล่นที่บ้าคลั่งพิสดารเช่นนี้มาก่อน

ตอนแรกคิดว่าคุณชายคนนี้ยังหนุ่มและหยิ่งทระนง อารมณ์ร้อนรน จะช้าจะเร็วก็ต้องแพ้จนเงินหมด แต่กลับกลายเป็นว่าเพียงเขาเทเบี้ยพนันจนหมดหน้าตักก็ไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

อีกทั้งใบหน้าคนเขย่าลูกเต๋าบนโต๊ะพนันก็จริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตรงไหนกันแน่ที่มีปัญหา ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น