ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 140

“แย่แล้วพี่ใหญ่ ! คุณชายผู้นั้นชนะไปแล้วถึง 50,000 ตำลึง !” ไม่นานนัก ชายร่างใหญ่ผู้นั้นก็ดันทุรังเดินขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง

เฉียวเทียนปาเพิ่งจะอุ้มหญิงงามมาไว้บนตัว ขณะที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มก็ถูกขัดจังหวะอีกครั้งโดยคนข้างนอก ทันใดนั้นเขาก็โกรธจนดุเดือดเลือดพล่าน

“ไอ้พวกไม่เอาถ่าน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำให้ดีไม่ได้ ไปเชิญนายเหลิ่งมา ! ไสหัวไป !”

นายเหลิ่งคนนี้แตกต่างจากคนเขย่าลูกเต๋าที่ต้องมีปรอทในบ่อนเพื่อคุมหน้าแต้ม ฝีมือพนันของเขาดั่งกับเซียนจริง ๆ

ประสาทสัมผัสหูไวมาก ขนาดหลับตาก็ยังสามารถเดาถึงหน้าแต้มในถ้วยเต๋าได้ และยังสามารถเขย่าให้ออกหน้าแต้มได้อย่างใจนึกอีกด้วย

ถ้าบ่อนพนันมีนักพนันฝีมือสูงมา ก็ล้วนให้นายเหลิ่งคนนี้เข้าไปจัดการ

ภายในบ่อนพนัน

หลังจากลู่ยุ๋นหลัวแลกเบี้ยพนันเป็นตั๋วเงิน 50,000 ตำลึงเรียบร้อยแล้วก็พร้อมที่จะตบก้นเดินออกจากไป

ยังไม่ทันจะเดินออกจากประตูไป ชายร่างใหญ่ของบ่อนพนันหลายคนก็มาล้อมเอาไว้

สายตาแฝงไปด้วยความคุกคามมุ่งร้าย "ไอน้องชายคนนี้ ดูเหมือนจะไม่เข้าใจกฎของบ่อนพนันของเรา พอชนะได้เงินและคิดว่าจะออกไปได้เหรอ ?"

"งั้นพวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร ?" ลู่ยุ๋นหลัวเลิกคิ้วและมองไปที่คนเหล่านั้น คาดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าคนพวกนี้คงไม่ปล่อยนางออกไปได้ง่าย ๆ

ชายร่างใหญ่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน "แน่นอนว่าเล่นอีกสักไม่กี่ตาค่อยไปก็ยังไม่สาย"

ดีที่สุดคือเสียเงินทั้งหมดก่อนค่อยจากไป

ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับนัยน์ตาแห่งความเจ้าเล่ห์ที่ประกายออกมา "เจ้าแน่ใจรึว่าจะให้ข้าเล่นต่ออีกไม่กี่ตา ?"

ไม่ใช่ว่านางไม่อยากเล่น แค่เกรงว่าถ้านางชนะเงินทั้งหมดจากบ่อนพนันแล้วค่อยจากไปนางจะต้องถูกไล่ล่าตามฆ่าแน่

ที่จริงแล้วนางนางแค่มีเครื่องมือที่ใช้โกงอันน่าทึ่ง

ก่อนหน้านี้นางค้นพบว่าตราบใดที่นางอยู่ในระยะที่กำหนด ของที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา นางแถบไม่ต้องสัมผัสสิ่งนั้นก็สามารถเอาเข้ามาในมิติพิเศษได้

เพียงแต่ว่าเมื่อย้ายออกมา ของสิ่งนั้นก็จะยังปรากฏอยู่ ณ ที่เดิมก่อนที่จะเข้าไปในมิติพิเศษ

ซึ่งใช่ว่านางจะเอาสิ่งของนั้นออกไปได้เพียงแค่นางเดินห่างออกมาซะที่ไหน

เดิมทีนางคิดว่ามันเป็นทักษะไก่กาที่ไม่มีประโยชน์

คาดไม่ถึงว่าจะสามารถเอามาใช้ในด้านการพนันได้

ทุกครั้งที่คนเขย่าลูกเต๋าเขย่าถ้วยเต๋าเสร็จและวางไว้บนโต๊ะก่อนที่จะเปิด นางจะย้ายลูกเต๋าเข้าไปในมิติพิเศษ จากนั้นเอามือโผล่เข้าไปในมิติพิเศษเพื่อเปลี่ยนลูกเต๋าเป็นหน้าแต้มที่ต้องการ ต่อจากนั้นจึงย้ายออกมาจากมิติพิเศษ เมื่อถ้วยเต๋าถูกเปิด ก็จะปรากฏหน้าแต้มออกมาตามที่นางจัดการไว้

โดยที่เทพไม่รู้ ผีไม่รู้

ต่อให้คนอื่นจะสงสัยนาง ก็ไม่สามารถหาหลักฐานใด ๆ ได้

ชายร่างใหญ่จ้องลู่ยุ๋นหลัวจนตาเขม็งจนนางใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

ภายในใจยังคงกังวลและไม่สบายใจ

สายตายังคงไม่หยุดพิจารณาคุณชายที่อ่อนโยนบอบบางตรงหน้า เขาแน่ใจว่าคนนี้จะต้องไม่เป็นวรยุทธแน่นอน

เขาระงับความรู้สึกไม่สบายใจในใจเอาไว้พร้อมกับกล่าว "แน่นอน"

"ก็ดี งั้นคุณชายผู้นี้จะฝืนใจเล่นกับพวกเจ้าอีกไม่ตา" ลู่ยุ๋นหลัวมองด้วยสายตาที่ฝืนลำบากใจไปที่กลุ่มชายร่างใหญ่ที่ไม่สบายใจอยู่ขณะนี้

เมื่อรอจนนายเหลิ่งมา มาดูกันว่าเจ้าจะหยิ่งยโสถึงเพียงนี้ได้อีกหรือไม่

เมื่อลู่ยุ๋นหลัวนำตั๋วเงินเปลี่ยนเป็นเบี้ยพนัน ชายร่างผอมก็เข้ามาพร้อมกับแสงจ้าจากด้านนอก

ชายคนนั้นสวมเสื้อชุดคลุมสีดำทั้งตัวจนทั่วทั้งตัวราวกับมีบรรยากาศอันดุร้าย

หมวกปีกกว้างที่สวมอยู่ปกปิดใบหน้าเย็นชาของเขา ขณะที่เดินเข้ามา บางครั้งก็เผยให้เห็นดวงตาเย็นยะเยือกไร้อารมณ์คู่นั้นภายใต้ปีกหมวกกว้าง

ลู่ยุ๋นหลัวเพียงสบตาเห็นก็รู้ทันทีว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดา

หลังจากที่นายเหลิ่งเข้ามา ดวงตาที่เย็นชาของเขาเมื่อมองเห็นลู่ยุ๋นหลัวก็หยุดชะงักลงเล็กน้อย "เป็นเจ้า ?"

ลู่ยุ๋นหลัวมองเขาด้วยความประหลาดใจ "เจ้ารู้จักข้า ?"

เป็นไปได้ไหมว่าเป็นคนที่เจ้าของร่างเดิมเคยติดต่อกันมาก่อน ?

แต่ตอนนี้นางกำลังสวมชุดแต่งเป็นชายอยู่นะ !

เจ้าของร่างเดิมแต่ก่อนเคยปลอมตัวเป็นชายมาก่อนเหรอ ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น