ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 144

วันนี้ก่อนจะออกไป นางได้ค้นหายาในโกดังของมิติพิเศษ พบว่าหลังจากที่นางใช้ผงยากล่อมประสาทจนหมดแล้ว ยาที่ตัวของนางเอาไว้ใช้ป้องกันตัวก็เหลือเพียงแค่ยากล่อมประสาททั่วไปห่อเล็ก ๆ การรับมือกับคนแค่หนึ่งคนก็ยังพอได้ แต่ถ้าหลายคนขึ้นมาคงจะเอาไม่อยู่

ดังนั้นนางจึงใช้ยาที่มีอยู่เพื่อทำยากล่อมประสาทฉบับปรับปรุงเป็นการชั่วคราวสองถุง ตอนแรกคิดว่าผลลัพธิ์ที่ได้จะไม่เลวแต่ดูเหมือนตอนนี้จะยังต้องปรับปรุงให้ดีกว่านี้

นางไม่สนใจคำถามของเฉียวเทียนปา แต่กลับเดินไปด้านข้างและหยิบไม้ขึ้นมา จากนั้นก็นั่งยองและยิ้มให้กับเฉียวเทียนปา

รอยยิ้มนั้นที่ประดับบนหน้ามองมายังเฉียวเทียนปาจนใจของเขาเต้นแรง

ไอหนุ่มหน้าขาวคนนี้จะทำอะไร ?

"ลาก่อน ขอให้เจ้าฝันดี !"

จากนั้นไม้ก็กระทบลงไปดึง "ตุบ" ดวงตาของเฉียวเทียนปาก็ดับมืดลง สุดท้ายเขาก็หมดสติไป

"หยินซวางค้นตัว !" ลู่ยุ๋นหลัวโยนไม้ลงกับพื้น พร้อมกับปัดมือและพูดกล่าว

หยินซวางตื่นกลัวตั้งแต่ในตอนแรกจนต่อมาก็ตกตะลึงและตอนนี้ก็กลายเป็นความนับถือ ตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่มีแม้แต่ฉากวรยุทธให้เห็น เห็นเพียงแต่นายหญิงผู้เดียวที่สามารถจัดการกับผู้มีฝีมือขั้นสูงทั้งสามได้อย่างง่ายดาย

นายหญิงยังไงก็เป็นนายหญิง ยังไงก็ยังคงเก่งกาจอยู่วันยันค่ำ

หลังจากได้ยินนายหญิงเรียกนาง นางก็รีบเรียกสติกลับมาและรีบเข้าไปค้นตัว แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าต้องค้นหาอะไร แต่เมื่อนายหญิงให้นางทำอะไรนางก็จะทำ

ทั้งสองค้นบนตัวของชายทั้งสามจนได้ตั๋วเงินออกมารวมกันมากกว่า 2,000 ตำลึง

"เลิกงาน กลับจวนกันเถอะ" ลู่ยุ๋นหลัวนำตั๋วเงินที่ได้มาใส่เข้าไปในช่องบริเวณอกและพาหยินซวางกลับไปพร้อมกับเงินเต็มกระเป๋า

ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองจากไป มีร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากเงามืด ซึ่งนั่นก็คือนายเหลิ่งจากบ่อนพนัน

มองไปยังทิศที่ลู่ยุ๋นหลัวจากไปด้วยสีหน้าที่ครุ่นคิด

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังจากที่เฉียวเทียนปาตื่นขึ้น เขาก็โกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบว่าเงินกว่า 2,000 ตำลึงบนรตัวของเขาหายไป เขายิ่งโกรธจนร่างอ้วน ๆ ของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว

เมื่อนึกถึงการสูญเสียกำไรครึ่งปีของบ่อนพนันของเขา เฉียวเทียนปาก็เจ็บใจมากยิ่งขึ้น

ณ ตอนนั้นเขาอยากสั่งให้คนไปสืบหาไอหนุ่มหน้าขาวคนนั้นทุกซอกทุกมุม และอยากจะได้เงินที่ถูกแย่งไปคืน

แต่สายตาเตือนของนายเหลิ่งคู่นั้นในตอนนั้น ในที่สุดเขาก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนกดอารมณ์ฉุนเฉียวนั้นลงไป

ตัวตนของไอหนุ่มหน้าขาวนั้นเป็นใครกันแน่ ?

ถึงทำให้นายเหลิ่งหวาดกลัวได้ขนาดนี้ !

เฉียวเทียนปาฝืนอดทนอยุ่ตลอดทั้งเช้า แต่สุดท้ายเขาก็อดที่จะโกรธไม่ได้

เขาหาคนให้ไปเชิญจิตรกรที่มีชื่อเสียงมา โดยหลังจากให้วาดภาพเหมือนของไอหนุ่มหน้าขาวนั่นก็เอาแปะไว้ที่ในห้องหนึ่งแผ่น โดยทุกวันจะยิงธนูเป็นร้อย ๆ ครั้งเพื่อระบายความโกรธในใจ

ส่วนอีกแผ่นหนึ่งก็ถูกแปะไว้ที่ประตูใหญ่ของบ่อนพนันเหวินหาว

บนรูปภาพเหมือนนั้นก็ยังเขียนอักษรตัวใหญ่ไว้ด้านบนหนึ่งแถวที่เห็นชัดว่า “หมากับไอ้คนนี้ไม่อนุญาตให้เข้า !"

เมื่อถึงจุดนี้ ในใจของเฉียวเทียนปาก็รู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย

ซึ่งลู่ยุ๋นหลัวยังไม่รู้สึกรู้สาว่านางเองถูกบันทึกลงในบัญชีดำของบ่อนพนันเหวินหาวแล้ว

เมื่อคืนวานนางและหยินซวางกว่าจะกลับไปก็ดึกมาแล้ว

หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดพอเป็นพิธีไม่นานก็หลับไป

แต่ใครจะรู้ ในเวลากลางดึก สัญญาณเตือนภัยในมิติพิเศษก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ ไม่ว่านางจะทำอะไร นางก็ไม่สามารถปิดเสียงเตือนภัยนี้ได้

เอาแต่ส่งเสียง "โว้ว โว้ว โว้ว" ในหูของนางตลอดทั้งคืน

ลู่ยุ๋นหลัวกำผ้าห่มและกลิ้งพลิกไปมาบนเตียงแต่ก็ไม่สามารถปิดกั้นเสียงเตือนนี้ได้ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นางจะต้องเสียสติอย่างแน่นอน

นางลุกขึ้นและไปที่ลานในบ้านเพื่อหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ เมื่อเข้าไปในห้อง ร่างของนางก็กระพริบและหายเข้าไปในมิติพิเศษ นางปีนขึ้นไปบนหลังคาโกดัง จากนั้นก็นำหินก้อนนั้นทุบสัญญาณเตือนภัยให้แตกเป็นชิ้น ๆ

ในที่สุด

เสียงสัญญาณเตือนภัยก็เงียบไป

ราวกับโลกทั้งใบอันเงียบสงบ

หูของลู่ยุ๋นหลัวรู้สึกสบายขึ้นมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น