หซินซวางเดินตามข้างลู่ยุ๋นหลัวด้วยตัวที่สั่นเทาพร้อมกับดึงแขนของลู่ยุ๋นหลัวและเดินอย่างประมาทไปตลอดทาง
ทำไมนางรู้สึกว่าลูกน้องที่อยู่ด้านหลังนางดูไม่เหมือนว่าจะมาส่งพวกเขากลับจวนเลย แต่กลับเหมือนกำลังคุ้มกันนักโทษมากกว่า
“นายหญิง พวกเขาจะไม่เข้ามายุ่มย่ามใช่ไหม”
ตอนนี้บนท้องถนนแม้แต่คนสักคนก็ไม่มี หากพวกเขาพุ่งเข้ามา นางและนายหญิงคงไม่มีแรงจะต่อต้านขัดขืนอย่างแน่นอน
ลู่ยุ๋นหลัวตบไปที่หลังมือของนาง "อย่ากังวล มีข้าอยู่"
ยังไม่เคยมีใครที่จะสามารถมาเอารัดเอาเปรียบลู่ยุ๋นหลัวได้
เดินไปได้สักพัก คนกลุ่มหนึ่งก็เดินเลี้ยวตามเข้าซอยเปลี่ยว
เฉียวเทียนปามองดูพิจารณาเงาร่างหนึ่งหญิงหนึ่งชายทั้งสองที่อยู่ข้างหน้าเขา
รูปร่างบอบบาง แค่เห็นก็รู้ว่าคนนี้จะต้องไม่เป็นวรยุทธ
ถ้าเขาอาศัยช่วงที่ไม่มีคนตอนนี้และฆ่าพวกเขาเอาไปฝังทั้งหมด จากนั้นก็แย่งเอาเงิน 100,000 ตำลึงจากไปก็คงไม่มีใครรู้
ซึ่งต่อให้มีคนถาม เขาก็ยังสามารถบอกได้ว่าส่งทั้งสองคนอย่างปลอดภัยตั้งนานแล้ว ซึ่งแม้ว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะได้เข้าหรือไม่ได้เข้าไปก็คงจะไม่มีใครรู้
ยิ่งเฉียวเทียนปาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนการนี้น่าจะได้ผล
ตั้งแต่เขาเปิดบ่อนพนันมา เงินที่เขาได้รับก็ไม่ใช่เงินที่สะอาดอะไรนัก
ตราบใดที่เขาซ่อนมันไว้อย่างดี ซึ่งต่อให้นางจะมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ไม่มีความหมาย ในเมื่อไม่มีหลักฐานก็คงจะสงสัยสืบสาวมาไม่ถึงพวกเขา
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ดวงตาของเฉียวเทียนปาก็ยิ่งโฉดชั่วอำมหิตมากขึ้น
ลู่ยุ๋นหลัวอยู่ดี ๆ ก็หยุดกะทันหัน "พวกเจ้ามาส่งถึงแค่ตรงนี้ก็พอ"
เฉียวเทียนปามองไปรอบ ๆ และพบว่าไม่มีบ้านเรือนใหญ่โตใด ๆ อยู่เลย ดูเหมือนว่าไอหนุ่มหน้าขาวคนนี้ไม่ต้องการให้เขารู้จักตัวตนที่แท้จริง
แบบนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เขาต้องการพอดี
เขาส่งสายตาเป็นสัญญาณไปที่ด้านหลัง ชายร่างใหญ่สองคนที่ถือดาบอยู่ก็ก้าวไปข้างหน้าทันที คนหนึ่งด้านซ้ายและอีกคนด้านขวาล้อมรอบลู่ยุ๋นหลัวและหยินซวางอย่างแน่นหนา
"พวกเจ้าจะทำอะไร ?" แม้ว่าหยินซวางจะมองไปที่คนทั้งสองด้านด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว แต่ร่างกายของนางกลับไปขวางกั้นด้านหน้าลู่ยุ๋นหลัวอย่างควบคุมไม่ได้
ลู่ยุ๋นหลัวยังรู้สึกสัมผัสได้ถึงการสั่นเล็กน้อยของนาง
“ทำอะไรน่ะเหรอ ? แน่นอนว่าจะต้องให้คุณชายพวกเจ้าเอาเงิน 100,000 ตำลึงมอบคืนให้ข้า” เฉียวเทียนปาเดินไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยรอยยิ้มอันมืดมนบนใบหน้า ทุกครั้งที่ก้าวเดิน หยินซวางก็ก้าวถอยหลังเพื่อปกป้องลู่ยุ๋นหลัวไปหนึ่งก้าว จนถอยไปที่มุมกำแพงจนไม่มีที่จะถอยอีกแล้ว
“ว่านอนสอนง่ายและเอาคืนข้าซะดี ๆ ข้าจะให้พวกเจ้าตายอย่างสมศักดิ์ศรี” เฉียวเทียนปายิ้มอย่างโฉดชั่วอำมหิต
"ข้าก็คิดว่าเรื่องอะไรสะอีก ที่แท้ก็อยากได้เงิน" ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มเบิกบานและก็เดินออกมาจากด้านหลังหยินซวางมาอยู่ด้านหน้าของเฉียวเทียนปาเพื่อเผชิญหน้ากับเขา จากนั้นก็ยิ้มแย้มสบายใจพูดออกมาสามคำ "ฝันไปเถอะ !"
เฉียวเทียนป้ายิ้มเยาะเย้ย "งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ !"
หลังจากที่เฉียวเทียนปาพูดจบ ขณะที่กำลังจะพูดว่า "ลงมือ" นั้น ผงสีเงินก็ลอยคลุ้งขึ้นในอากาศเป็นเส้นวาดโค้งที่สวยงามในอากาศจากซ้ายไปขวา เฉียวเทียนปาไม่ทันตั้งตัวเผลอสูดหายใจเข้าไปจนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที "แย่แล้ว !"
อาจเป็นยาพิษ
คนทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างก็เอามือปิดปากและจมูก
แต่สุดท้ายก็ยังถือว่าช้าไปหนึ่งจังหวะ และสูดผงแป้งจำนวนไม่น้อยเข้าไป
“แกร้ง” เสียงดังขึ้น
ดาบในมือของชายร่างใหญ่ทั้งสองตกลงสู่พื้น จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
แม้แต่เฉียวเทียนปายังรู้สึกว่าแขนขาของเขาไร้เรี่ยวแรง จนทั้งร่างกายไม่สามารถออกแรงได้ ทั้งตัวเขาแกว่งไปมาไม่กี่ครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้านทานไว้ไม่อยู่และล้มลงกับพื้น
“เจ้า...เจ้าวางยาอะไรให้พวกข้า ?” เฉียวเทียนปาพอเปิดปากของเขาก็พึ่งจะตระหนักได้ว่าตอนนี้แม้แต่แรงจะพูดเขาก็ไม่มี
ไอหนุ่มน้อยหน้าขาวคนนี้วางยาอะไรแก่เขา ?
ทำไมร่างกายทั้งตัวถึงไม่มีเรี่ยวแรง ?
"หือ ทำไมยังไม่สลบไปอีก ?" ลู่ยุ๋นหลัวมองไปที่เฉียวเทียนปาบนพื้นอย่างสงสัย
สมรรถภาพร่างกายชายคนนี้ใช้ได้เลยหนิ
ลูกน้องของเขาทั้งสองต่างก็สลบไปแล้ว แต่เขายังสามารถอดทนและถามคำถามแก่นางได้
ดูเหมือนว่านางคราวหน้าจะต้องเสริมฤทธิ์ยาให้ดีขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...