ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 142

ลู่ยุ๋นหลัวพูดด้วยรอยยิ้ม "ไม่คาดคิดว่าเถ้าแก่แห่งบ่อนพนันเหวินหาวจะบริการรอบคอบถึงเพียงนี้ พอรู้ว่าคุณชายอย่างข้าชนะไปไม่น้อย ก็อุตส่าห์คลานออกจากรังของหญิงงาม แถมยังจัดการคนมามากมายถึงเพียงนี้เพื่อคุ้มกันข้าให้กลับไปยังจวน ข้ารู้สึกซาบซึ้งจนหาที่สุดมิได้จริง ๆ"

เฉียวเทียนปาหรี่ตาของเขาที่ถูกไขมันบนหน้าบีบจนเป็นรอย จ้องมองที่ลู่ยุ๋หลัวอย่างเย้ยหยัน

ชนะบ่อนพนันเขาไปได้ถึง 100,000 ตำลึงยังคิดให้เขาส่งคนมาคอยคุ้มกันไปส่งอีกรึ ?

ถุย !

สร้างวิมานบนเมฆ !

เขามาเพื่อแย่งเอาเงินกลับคืนไปต่างหาก !

ไม่พูดพร่ำทําเพลง ขณะที่กำลังคิดและส่งสัญญาณให้กับเหล่าพี่น้องที่อยู่ข้างหลังเพื่อลากไอหนุ่มหน้าขาว(หนุ่มหน้าขาว หมายถึง หนุ่มหน้าละอ่อน เป็นประมานว่าดูถูกชายที่อ่อนต่อโลก) ไปยังห้องมืดและสั่งสอนบทเรียนให้ไอหนุ่มหน้าขาวนี่สักหน่อย

ทันใดนั้นมือใหญ่คู่หนึ่งก็รั้งเขาไว้

“ข้าแนะว่าอย่าแตะต้องนาง !”

“พวกเจ้าไม่ควรมาหาเรื่อง !”

คำพูดที่เย็นเชียบถึงกระดูกของนายเหลิ่งสะท้อนก้องมาที่ข้างหู

หลังจากพูดจบ นายเหลิ่งก็เหลือบมองกลับมาที่ลู่ยุ๋นหลัวแล้วเดินจากไป

ร่างอ้วนของเฉียวเทียนปาสั่นหงึกหงัก

เมื่อสักครู่สายตาที่จ้องมองราวกับอาฆาตแค้นอยากฆ่าลู่ยุ๋นหลัวพริบตาก็เปลี่ยนเป็นแววตาประหลาดใจมองไปที่ลู่ยุ๋นหลัว

ไอหนุ่มหน้าขาวคนนี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรกันแน่ ?

ขนาดนายเหลิ่งยังพุดออกมาได้ขนาดนั้น ?

อย่างที่รู้ อิทธิพลเบื้องหลังนายเหลิ่งคนนี้จะต้องไม่ธรรมดา

สถานที่ของเขาแห่งนี้ ส่วนสำคัญหลักคือยังคงต้องพึ่งพาอิทธิพลของนายเหลิ่งคนนี้อยู่เป็นเบื้องหลังคอยสนับสนุน มิฉะนั้น เขาคงถูกส่วนบริหารราชการจัดการไปนานแล้ว

นายเหลิ่งพูดว่าเป็นคนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย เกรงว่าที่มาที่ไปจะต้องยิ่งใหญ่เป็นแน่

แต่ไอหนุ่มหน้าขาวคนนี้ชนะเงินของเขาไปได้ถึง 100,000 ตำลึง นี่เป็นถึงกำไรครึ่งปีของเขา

เฉียวเทียนปาคิดไปคิดมาก็รู้สึกไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้

“พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวล เหล่าพี่น้องจะต้องช่วยเจ้าจัดการมันแน่นอน !” ชายร่างใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเฉียวเทียนปาพูด พร้อมกับกิริยาที่พร้อมจะลงมือ เพียงเขาเห็นไอหนุ่มหน้าขาวนี่เมื่อสักครู่ก็ขัดหูขัดตามากแล้ว

ก็แค่ชายหนุ่มคนแค่คนเดียว แต่กลับอ้อนแอ้นอรชรอย่างกับหญิงสาว

อีกสักพักจะต้องหักขามันสักข้างหักแขนมันสักข้าง

“จะฆ่าใครอะไรของเจ้า?” เฉียวเทียนปาหันกลับมาและทุบตีชายร่างใหญ่ที่พูดเมื่อกี้ อยากตายก็อย่าลากเขาให้ไปตายด้วย !

เมื่อมองไปที่ลู่ยุ๋นหลัว เขาก็กล่าวอย่างไร้อารมณ์โกรธ "ทำตามที่เขาบอก คุ้มกันเขาไปส่งให้ถึงจวน"

อะไรนะ ?

กลุ่มชายร่างใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเฉียวเทียนปาราวกับได้ยินเรื่องตลกโกหกคำโตอย่างใดอย่างนั้น จนสีหน้าตกตะลึงหันไปมองเฉียวเทียนปา

เงิน 100,000 ตำลึงไม่เอาแล้วรึ ?

ไม่โกรธแล้วงั้นรึ ?

จะไม่สั่งสอนคนแล้วรึ ?

แล้วยังจะต้องไปส่งเขาถึงจวนด้วยตัวเองอีก ?

นี่พี่ชายใหญ่ของเขาสมองเสื่อมไปแล้วเหรอ ?

“งงอะไรกัน ยังไม่รีบไปอีก ?” เฉียวเทียนปาเก็บกลั้นอารมณ์โกรธไว้อยู่เต็มท้อง

บ่อนพนันเหวินหาวเปิดมากว่าห้าปีแล้ว นอกจากชนะบ่อนพนันเป็นเงินกว่า 100,000 ตำลึงแล้วยังต้องไปคุ้มกันส่งคนอีก นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้

ลู่ยุ๋นหลัวไม่รู้ว่านายเหลิ่งเมื่อสักครู่พูดอะไรกับหัวหน้าคนนี้ แต่ดูเหมือนหัวหน้าคนนี้จะเปลี่ยนทัศนคติไปในทันที และยังสัญญากับนางว่าจะไปส่งถึงจวนเป็นครั้งแรกอีกด้วย ลู่ยุ๋นหลัวพินิจด้วยสายตาเย็นชา

เฉียวเทียนปามองไปที่เหล่าลูกน้องที่มีสีหน้าดูไม่เต็มใจ จากนั้นก็มองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง "ช่างมันเถอะ ครั้งนี้ข้าจะละเว้นยอมส่งพวกเจ้ากลับไปที่จวน พวกเจ้าสองคนตามข้ามา"

เฉียวเทียนปาพาลู่ยุ่นหลัวคุ้มกันไปส่งถึงจวนด้วยตนเองและยังทำให้นักพนันที่อยู่ในบ่อนพนันที่มีความคิดวางแผนตามลู่ยุ๋นหลัวกลับไปจึงล้มเลิกในทันที 

สิ่งที่ต้องทราบอย่างหนึ่ง คือเฉียวเทียนปาคนนี้มีชื่อเสียงเรียงนามที่ไม่ดี หากไปยั่วยุเขาขึ้นมา โดยทั่วไปแล้วจะจบลงไม่สวยเท่าไหร่นัก

เวลานี้เป็นช่วงกลางคืน

บนท้องถนนใหญ่ก็ไม่มีผู้คนแล้วเช่นกัน

ลู่ยุ๋นหลัวและหยินซวางเดินนำหน้า

เฉียวเทียนปาพาลูกน้องสองคนตามหลังมาด้วย

“พี่ใหญ่ เราจะต้องไปส่งไอหนุ่มหน้าขาวคนนี้กลับจวนด้วยรึ ?”

"หุบปาก !"

เฉียวเทียนปาอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น