ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 146

เขาท่องยุทธภพมานานหลายแรมปี ยังไม่เคยเห็นหญิงสาวของบ้านใดที่มุดโพรงสุนัขออกมา ดังนั้นเขาจึงถูกแม่หญิงนางนี้ทำให้สนใจขึ้นมา

แต่ภาพฉากเหตุการณ์ต่อมา ก็ทำให้เขาตกใจจนแถบจะตกจากต้นไม้

แม่หญิงคนนั้นอยู่ดี ๆ ก็ถอดเสื้อผ้าออกในกลางวันแสก ๆ !

แต่ก็ยังดีเพราะถอดเพียงแค่เสื้อผ้าด้านนอกสุดเท่านั้น เป่ยถังหลิงเฟิงถอนหายใจในทันที

ยังดียังดี

เขาเป่ยถังหลิงเฟิงยังท่องยุทธภพยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากถูกคลุมถุงชนเพียงแค่เพราะไม่ระวังไปเห็นเรือนร่างของอิสตรีจนหมดอิสรภาพ 

อย่างไรก็ตาม สาวน้อยคนนี้ ทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นตานัก ?

แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน

เป่ยถังหลิงเฟิงจมอยู่ในห้วงความคิด จู่ ๆ ก็ปวดก้นเล็กน้อย ราวกับว่ามีบางอย่างทิ่มเข้าไป

เขาลูบไปที่ก้นของเขาอย่างไม่รู้ตัว ก็สัมผัสแท่งอะไรบางอย่างที่เรียว ๆ ยาว ๆ 

พอดึงออกมาดู เชี้ย !

ที่แท้เป็นเข็มเงิน !

กำลังภายในในร่างพริบตาก็สลายไปในทันที "โครม" เสียงดังขึ้น เขาตกลงมาจากต้นไม้ด้วยความทุลักทุเล ฝุ่นลอยคลุ้งไปทั่ว สั่นสะเทือนจนใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ข้าง ๆ สั่นร่วงลงมาไม่น้อย

นัยน์ตาสองชั้นอันเย้ายวนคู่หนึ่งได้สบเข้ากับดวงตาของลู่ยุ๋นหลัว หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาคู่งามที่ตาขาวตาดำแบ่งอย่างชัดเจน สว่างสดใสชัดเจนราวกับน้ำแร่ !

ลู่ยุ๋นหลัวย่อตัวลงและมองดูพิจารณาชายที่มีสีหน้าทุลักทุเลบนพื้นคนนั้นด้วยความสนใจ 

เห็นแค่เขาที่สวมชุดลายเมฆครามสีฟ้า บริเวณเอวมีดาบเหน็บไว้เล่มหนึ่งที่ไม่รู้จักชื่อ ใบหน้าหล่อเหลาที่หาใดเทียบได้ ระหว่างคิ้วเห็นถึงความเย้ยหยันที่เห็นได้ชัด ผมสีดำบนศีรษะถูกรวบไว้อย่างหลวม ๆ ด้วยปิ่นหยก บรรยากาศภายในของชายคนนี้ราวกับมีบางส่วนแห่งความสง่างามและอ่อนโยนแฝงไว้

ดูแล้วคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัข ไม่คาดคิดมาก่อนว่าที่แท้จะเป็นแค่คนถ้ำมอง

และก็ไม่รู้ว่าใบหน้านี้ปกติล่อลวงพรากพรหมจรรย์ของสาวน้อยไปกี่คนแล้ว

ในขณะเดียวกันนางก็แอบดีใจที่ไม่ได้เข้าไปในมิติพิเศษเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เช่นนั้น ตอนนี้ไม่แน่นางอาจจะต้องฆ่าคนเพื่อรักษาความลับไว้ก็ได้

"เจ้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้กลางวันแสก ๆ ทำอะไร หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ได้ มีแผนการร้ายอะไรแอบซ่อนไว้รึ ?"  ลู่ยุ๋นหลัวหรี่ตามองอย่างสงสัย ยิ่งนางคิดถึงเรื่องนี้นางก็ยิ่งรู้สึกว่าชายที่อยู่ตรงหน้านางจะต้องมีเจตนาร้าย มิฉะนั้นทำไมถึงต้องแอบอยู่หลังจวนกั๋วกงติ้งที่รกร้างไร้ผู้คนนอกกำแพงด้วย ?

เป่ยถังหลิงเฟิงลุกขึ้นและตบฝุ่นบนร่างกายของเขาอย่างสง่างาม "ข้าจอมยุทธผู้นี้ก็แค่กำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้เท่านั้น ใครจะรู้ อยู่ดี ๆ จะมีแม่หญิงมาให้ข้า... "

ขณะที่เป่ยถังหลิงเฟิงกำลังจะพูดก็ปิดปากตัวเองทันที

"งั้นเจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นหญิง เพราะเมื่อสักครู่ที่ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เจ้าก็ดูอยู่โดยตลอด ?" ลู่ยุ๋นหลัวเลิกคิ้วและชำเลืองมองเขา เป็นไปดั่งที่คาดไว้เมื่อนางมุดลอดออกจากโพรงสุนัขชายคนนี้ก็เห็นนางแล้ว

เป่ยถังหลิงเฟิงถูกลู่ยุ๋นหลัวจ้องมองจนหัวใจของตนต้นไม่เป็นจังหวะ แม่สาวน้อยคนนี้คงจะไม่ให้เขาต้องมารับผิดชอบอะไรหรอกใช่ไหม ?

แม้ว่าแม่สาวน้อยคนนี้จะดูไม่เลวเลยก็ตาม

หากต้องรับผิดชอบจริงก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้

"อะแฮ่ม ถ้าเจ้ายืนกรานที่จะแต่งงานกับจอมยุทธอย่างข้าผู้นี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ข้ามีบัญญัติสามประการที่จะต้องบอกกับเจ้าล่วงหน้า ข้าจอมยุทธผู้นี้เคยชินกับการเป็นอิสระ หลังจากแต่งงานแล้วจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมและข้อกำหนดใด ๆ เจ้าแค่รับผิดชอบเย็บปักถักร้อยที่บ้าน... "

ลู่ยุ๋นหลัวจ้องมองชายตรงหน้านางด้วยใบหน้าที่หมองหม่น

ชายคนนี้เกรงว่าคงจะไม่ได้เป็นบ้าใช่ไหม ?

คำพูดไหนของนางที่ทำให้เขาเข้าใจผิดกัน ถึงกับที่นางจะต้องไปแต่งงานกับเขา ?

ยังต้องเย็บปักอีกด้วย!

เอาไปเย็บบนหน้าเขายังพอเป็นไปได้ !

ลู่ยุ๋นหลัวอดทนต่อการอยากที่จะเอาปากเขาเย็บให้สนิทแทบจะไม่ไหว และได้แต่หันกลับเดินจากไป

“เฮ้ เจ้าจะไปไหน ข้ายังพูดไม่จบเลย”

"ข้าไม่อยากคุยกับคนที่มีอาการโรคหลงผิด"

“ข้าเพิ่งเห็นว่าเจ้าออกมาจากจวนกั๋วกงติ้งใช่ไหม ข้าจอมยุทธผู้นี้อยากจะบอกอะไรเจ้าสักเรื่อง…”

"แต่ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า"

“อย่าเฉยเมยเย็นชาไปสิ เราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน...”

"ไสหัวไป !"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น