เขาท่องยุทธภพมานานหลายแรมปี ยังไม่เคยเห็นหญิงสาวของบ้านใดที่มุดโพรงสุนัขออกมา ดังนั้นเขาจึงถูกแม่หญิงนางนี้ทำให้สนใจขึ้นมา
แต่ภาพฉากเหตุการณ์ต่อมา ก็ทำให้เขาตกใจจนแถบจะตกจากต้นไม้
แม่หญิงคนนั้นอยู่ดี ๆ ก็ถอดเสื้อผ้าออกในกลางวันแสก ๆ !
แต่ก็ยังดีเพราะถอดเพียงแค่เสื้อผ้าด้านนอกสุดเท่านั้น เป่ยถังหลิงเฟิงถอนหายใจในทันที
ยังดียังดี
เขาเป่ยถังหลิงเฟิงยังท่องยุทธภพยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากถูกคลุมถุงชนเพียงแค่เพราะไม่ระวังไปเห็นเรือนร่างของอิสตรีจนหมดอิสรภาพ
อย่างไรก็ตาม สาวน้อยคนนี้ ทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นตานัก ?
แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
เป่ยถังหลิงเฟิงจมอยู่ในห้วงความคิด จู่ ๆ ก็ปวดก้นเล็กน้อย ราวกับว่ามีบางอย่างทิ่มเข้าไป
เขาลูบไปที่ก้นของเขาอย่างไม่รู้ตัว ก็สัมผัสแท่งอะไรบางอย่างที่เรียว ๆ ยาว ๆ
พอดึงออกมาดู เชี้ย !
ที่แท้เป็นเข็มเงิน !
กำลังภายในในร่างพริบตาก็สลายไปในทันที "โครม" เสียงดังขึ้น เขาตกลงมาจากต้นไม้ด้วยความทุลักทุเล ฝุ่นลอยคลุ้งไปทั่ว สั่นสะเทือนจนใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ข้าง ๆ สั่นร่วงลงมาไม่น้อย
นัยน์ตาสองชั้นอันเย้ายวนคู่หนึ่งได้สบเข้ากับดวงตาของลู่ยุ๋นหลัว หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาคู่งามที่ตาขาวตาดำแบ่งอย่างชัดเจน สว่างสดใสชัดเจนราวกับน้ำแร่ !
ลู่ยุ๋นหลัวย่อตัวลงและมองดูพิจารณาชายที่มีสีหน้าทุลักทุเลบนพื้นคนนั้นด้วยความสนใจ
เห็นแค่เขาที่สวมชุดลายเมฆครามสีฟ้า บริเวณเอวมีดาบเหน็บไว้เล่มหนึ่งที่ไม่รู้จักชื่อ ใบหน้าหล่อเหลาที่หาใดเทียบได้ ระหว่างคิ้วเห็นถึงความเย้ยหยันที่เห็นได้ชัด ผมสีดำบนศีรษะถูกรวบไว้อย่างหลวม ๆ ด้วยปิ่นหยก บรรยากาศภายในของชายคนนี้ราวกับมีบางส่วนแห่งความสง่างามและอ่อนโยนแฝงไว้
ดูแล้วคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัข ไม่คาดคิดมาก่อนว่าที่แท้จะเป็นแค่คนถ้ำมอง
และก็ไม่รู้ว่าใบหน้านี้ปกติล่อลวงพรากพรหมจรรย์ของสาวน้อยไปกี่คนแล้ว
ในขณะเดียวกันนางก็แอบดีใจที่ไม่ได้เข้าไปในมิติพิเศษเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เช่นนั้น ตอนนี้ไม่แน่นางอาจจะต้องฆ่าคนเพื่อรักษาความลับไว้ก็ได้
"เจ้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้กลางวันแสก ๆ ทำอะไร หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ได้ มีแผนการร้ายอะไรแอบซ่อนไว้รึ ?" ลู่ยุ๋นหลัวหรี่ตามองอย่างสงสัย ยิ่งนางคิดถึงเรื่องนี้นางก็ยิ่งรู้สึกว่าชายที่อยู่ตรงหน้านางจะต้องมีเจตนาร้าย มิฉะนั้นทำไมถึงต้องแอบอยู่หลังจวนกั๋วกงติ้งที่รกร้างไร้ผู้คนนอกกำแพงด้วย ?
เป่ยถังหลิงเฟิงลุกขึ้นและตบฝุ่นบนร่างกายของเขาอย่างสง่างาม "ข้าจอมยุทธผู้นี้ก็แค่กำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้เท่านั้น ใครจะรู้ อยู่ดี ๆ จะมีแม่หญิงมาให้ข้า... "
ขณะที่เป่ยถังหลิงเฟิงกำลังจะพูดก็ปิดปากตัวเองทันที
"งั้นเจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นหญิง เพราะเมื่อสักครู่ที่ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เจ้าก็ดูอยู่โดยตลอด ?" ลู่ยุ๋นหลัวเลิกคิ้วและชำเลืองมองเขา เป็นไปดั่งที่คาดไว้เมื่อนางมุดลอดออกจากโพรงสุนัขชายคนนี้ก็เห็นนางแล้ว
เป่ยถังหลิงเฟิงถูกลู่ยุ๋นหลัวจ้องมองจนหัวใจของตนต้นไม่เป็นจังหวะ แม่สาวน้อยคนนี้คงจะไม่ให้เขาต้องมารับผิดชอบอะไรหรอกใช่ไหม ?
แม้ว่าแม่สาวน้อยคนนี้จะดูไม่เลวเลยก็ตาม
หากต้องรับผิดชอบจริงก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
"อะแฮ่ม ถ้าเจ้ายืนกรานที่จะแต่งงานกับจอมยุทธอย่างข้าผู้นี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ข้ามีบัญญัติสามประการที่จะต้องบอกกับเจ้าล่วงหน้า ข้าจอมยุทธผู้นี้เคยชินกับการเป็นอิสระ หลังจากแต่งงานแล้วจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมและข้อกำหนดใด ๆ เจ้าแค่รับผิดชอบเย็บปักถักร้อยที่บ้าน... "
ลู่ยุ๋นหลัวจ้องมองชายตรงหน้านางด้วยใบหน้าที่หมองหม่น
ชายคนนี้เกรงว่าคงจะไม่ได้เป็นบ้าใช่ไหม ?
คำพูดไหนของนางที่ทำให้เขาเข้าใจผิดกัน ถึงกับที่นางจะต้องไปแต่งงานกับเขา ?
ยังต้องเย็บปักอีกด้วย!
เอาไปเย็บบนหน้าเขายังพอเป็นไปได้ !
ลู่ยุ๋นหลัวอดทนต่อการอยากที่จะเอาปากเขาเย็บให้สนิทแทบจะไม่ไหว และได้แต่หันกลับเดินจากไป
“เฮ้ เจ้าจะไปไหน ข้ายังพูดไม่จบเลย”
"ข้าไม่อยากคุยกับคนที่มีอาการโรคหลงผิด"
“ข้าเพิ่งเห็นว่าเจ้าออกมาจากจวนกั๋วกงติ้งใช่ไหม ข้าจอมยุทธผู้นี้อยากจะบอกอะไรเจ้าสักเรื่อง…”
"แต่ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า"
“อย่าเฉยเมยเย็นชาไปสิ เราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน...”
"ไสหัวไป !"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...