ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 191

เขาทรงคิดว่านางจะใจกล้าบ้าบิ่นเหมือนครั้งก่อนตอนที่อยู่ในตำหนักเย็นและรวบหัวรวบหัวเขา

ฝ่าบาท ?

ลู่ยุ๋นหลัวจับคำสำคัญได้ในประโยคเมื่อสักครู่ได้

แม่นมคนโหด ?

สนมคนโปรด ?

เขาคือฝ่าบาท ?

หัวสมองของลู่ยุ๋นหลัวค่อย ๆ แจ่มชัดขึ้น แม้ว่านางจะพอเดาอะไรบางอย่างได้ไม่ชัดเจนนัก แต่นางก็ยังหยั่งเชิงถามไป "ฝ่าบาท ?"

"อือ"

จี้อู๋เจวี๋ยทรงตรัสด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

เสียงของเขาทรงแหบซ่านอย่างน่าประหลาดใจ

หัวใจของลู่ยุ๋นหลัวกระตุกเต้นไม่เป็นจังหวะ

ชิบหายแล้ว !

เป็นฝ่าบาทจริง ๆ !

แต่นางกลับมองว่าฝ่าบาทเป็นโสเภณีชายในหอชุนเฟิงโหลวมาโดยตลอด ?

ไม่แปลกใจเลยว่าตอนนั้นพระพักตร์ของเขาถึงทรงดูไม่ได้ขนาดนั้น

ถ้าเช่นนั้น ภาพความทรงจำช่วงนั้นจะอธิบายอย่างไร ?

ลู่ยุ๋นหลัวคิดไม่ตก อีกทั้งตอนนี้ก็แทบจะไม่มีเวลาให้ได้คิดแล้ว

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับมาเมื่อสักครู่ ตัวตนของนางในสมัยราชวงศ์นี้คือนางสนมของฝ่าบาท

ดูเหมือนว่านางในตอนนี้จะเป็นที่โปรดปราณ ?

แต่นางไม่ต้องการไปที่วังที่เป็นสถานที่มีแต่เลห์กลอุบายน่ะสิ !

ถ้าไม่ระมัดระวังล่ะก็ เกรงว่าชีวิตน้อย ๆ ก็คงจะไม่มีเหลืออีกแล้ว?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ร่างกายของลู่ยุ๋นหลัวก็ค่อย ๆ เกร็งขึ้นเรื่อย ๆ สมองตอนนี้ก็เอาแต่คิดหาวิธีว่าจะหลบหนีอย่างไร

เมื่อจี้อู๋เจวี๋ยทรงรู้สึกได้ถึงร่างกายของลู่ยุ๋นหลัวที่เกร็งแข็ง ภายในพระหฤทัยของเขาก็เงียบเชียบไร้ซุ่มเสียงใด

และทรงไม่อยากทำให้นางลำบากใจอีกต่อไป

เขาเพียงแต่ทรงกอดนางไว้แน่นภายในอ้อมพระอุระของเขา "นอนเถอะ"

ช่วงไม่กี่วันนี้มีเรื่องการเมืองมากมายภายในวัง เขาเองก็ไม่ได้บรรทมสนิทมาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน

ตอนนี้การที่ได้ทรงกอดลู่ยุ๋นหลัวในอ้อมพระอุระ พระหฤทัยดวงนี้ของเขาก็รู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาดใจ

แต่ลู่ยุ๋นหลัวจะหลับลงได้ที่ไหนกัน ?

นางจึงได้แต่หลับตาและนอนนับดาวในใจ

ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงของลมหายใจแว่วดังเข้ามาในหู

ลู่ยุ๋นหลัวรออยู่เป็นเวลานาน หลังจากยืนยันได้แล้วว่าฝ่าบาทบรรทมหลับสนิทแล้วจริง ๆ นางจึงลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ

ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะจากไปแล้วใช่ไหม ?

นางแอบย่องมาถึงยังประตูใหญ่

จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าการจากไปแบบนี้ก็ไม่สมควรนัก

ท้ายที่สุดนางและฝ่าบาทก็ยังมีความสัมพันธ์ของการอภิเษกอยู่

ไม่ว่านางจะไปที่ไหนหลังจากนี้ก็ยังคงเป็นอิสตรีที่มีสามีแล้ว

นางค้นหาพู่กันและหมึกจากในห้องหนังสือ จากนั้นลู่ยุ๋นหลัวก็ตวัดพู่กันเขียนหนังสือหย่าร้างขึ้นสองฉบับ

การทำเช่นนี้ก็จะไม่ต้องกังวลอะไรอีกหลังจากนี้

อย่างไรก็ตามหนังสือหย่าฉบับนี้จะมีผลได้ก็ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือลงไป

นางหาหมึกประทับ จากนั้นก็พิมพ์ลายนิ้วมือของนางเองลงบนหนังสือหย่าร้างสองฉบับ ต่อมาก็นำของจำเป็นต่าง ๆ ถือเข้าไปที่ปีกห้องของเรือนหลักที่ฝ่าบาทบรรทมอยู่

ขณะนี้ฝ่าบาทยังไม่ทันได้สังเกตว่านางลุกจากไปแล้ว

และยังคงบรรทมหลับสนิท

แต่ถ้าหากนางต้องเข้าไปเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือของฝ่าบาท บางทีก็อาจทำให้ตื่นบรรทมขึ้นมาง่าย ๆ ก็เป็นได้ ?

ชายคนนี้สามารถบดด้ามดาบให้กลายเป็นเศษเหล็กได้ในพริบตา ดูเหมือนวรยุทธเองก็สูงไม่น้อย การระมัดระวังตัวของเขาก็คงสูงไม่น้อยเช่นกัน

นางสัมผัสไปยังที่เก็บตั๋วเงินตรงอ้อมอกของนาง

นางจำได้ว่ายังมียากล่อมประสาทอยู่สามห่ออยู่ในนั้น

หลังจากหยิบออกมา หนึ่งในซองเหล่านั้นเขียนเอาไว้ว่ายากล่อมประสาทธรรมดา ส่วนอีกซองเขียนไว้ว่ายากล่อมประสาทเสริมประสิทธิภาพ ส่วนซองสุดท้ายเขียนไว้ว่ายากล่อมประสาทเสริมประสิทธิภาพขั้นสูง

นางตัดสินใจที่จะใช้ยากล่อมประสาทเสริมประสิทธิภาพขั้นสูงเพื่อประกันความเสี่ยงไว้สักหน่อย

ด้วยเหตุนี้ ท่อกระบอกไม้ไผ่จึงเจาะทะลุผ่านช่องกระดาษหน้าต่างและแหย่เข้าไปในห้อง จากนั้นก็เป่ายากล่อมประสาทเข้าไป

หลังจากเป่าเข้าไปแล้วนางก็ไม่ไว้วางใจ ก็คิดว่าควรใช้ยากล่อมประสาททั้งสามห่อให้หมด

หลังจากรอเป็นเวลานาน นางก็ปิดปากและจมูกพร้อมกับเดินเขย่งเท้าเข้าไปในห้อง

แสงไฟในห้องยังคงมืดมิด

ลู่ยุ๋นหลัวคลำหาเตียงตามความทรงจำของนางเมื่อครู่

"โครม" เสียงดังขึ้น

นางกระแทกอะไรสักอย่างที่แข็งอย่างแรง

นางรีบลูบไปที่หัวของนางเอง เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็บังเอิญสบเข้ากับดวงตาสีดำคู่หนึ่งที่กะพริบอยู่ในความมืด

จี้อู๋เจวี๋ยจุดไฟกลางดึกขึ้นที่ข้างมือ "เจ้าไปทำอะไร ?"

เขาเพิ่งทรงตื่นขึ้นบรรทมและพบว่าข้างกายกลับว่างเปล่าและกำลังทรงเตรียมหานาง

ลู่ยุ๋นหลัวตกใจจนสะดุ้ง

ทำไมชายคนนี้ถึงยังไม่สลบไปอีก ?

เป็นไปได้ไหมว่ายากล่อมประสาทสองห่อนั้นเป็นของปลอม ?

คุณภาพไม่ดี ?

"เจ้าเอามือปิดปากปิดจมูกทำไม ?" จี้อู๋เจวี๋ยเหลือบพระเนตรมองนางและพบว่านางมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น