ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 200

"ว้าย! เช่นนั้นฝ่าบาททรงไม่ระเบิดโทสะออกมาหรอกรึ !"

"จะไม่ใช่ได้อย่างไร ? นายหญิงลู่ท่านนั้นสวมหมวกเขียวให้กับฝ่าบาทใบใหญ่ซะขนาดนั้น(สวมหมวกเขียว หมายถึง สวมเขา) ฝ่าบาทจะไม่ทรงพิโรธได้เยี่ยงไร ? ได้ยินมาว่าเหล่าโสเภณีชายพวกนั้นวันต่อมาก็ล้วนหายสาบสูญไปทั้งหมด !"

"เห้อ แย่ แย่ แย่...ไม่คิดมาก่อนว่านายหญิงท่านนี้จะหมกหมุ่นขนาดนี้ ช่างขายหน้าราชวงศ์จริง ๆ"

“ใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะ ถ้าเกิดขึ้นในตระกูลคนธรรมดา ป่านนี้ถูกเอาไปถ่วงกรงหมูไปนานแล้ว”

“พวกเจ้ากำลังพูดถึงนายหญิงลู่ที่ค้นพบธัญพืชกำลังปลูกผลิต 10 ชึในตำหนักเย็นท่านนั้นนะเหรอ ?”

"ดูเหมือนว่าจะเป็นนาง"

“ดูเหมือนนางจะเป็นบุตรสาวของอัครมหาเสนาบดีลู่คนก่อนสินะ ได้ยินมาว่านางมีรูปลักษณ์ที่สวยสดงดงาม ไม่คิดว่านางจะมาทำเรื่องผิดผีผิดประเวณีเช่นนี้ได้”

“ใช่น่ะสิ ช่างน่าผิดหวังเสียจริง !”

ทั่วท้องถนนใหญ่และตรอกซอกซอย เกือบจะทุกคนล้วนกระซิบกระซาบซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของตำหนักในที่ได้ยินมา

“นายท่าน !” ลุงหวังสีหน้าเป็นกังวลมองไปยังท่านผู้อาวุโส

หลังจากที่ท่านผู้อาวุโสออกมาในตอนกลางคืน ไม่ว่าเขาจะไปยังที่แห่งไหนก็ได้ยินเรื่องบาดหูเช่นนี้อยู่ตลอด

จนตอนนี้เขาก็ได้หยุดยืนอยู่ตรงนี้มาได้สักพักแล้ว

ร่างกายของท่านผู้อาวุโสก็เพิ่งจะหายดี อย่าได้มาล้มป่วยอีกเพราะเหตุการณ์เช่นนี้เลย

ท่านผู้อาวุโสพูดด้วยใบหน้าที่สงบ "ข้าสบายดี ไปเรียกชูหยินให้มาหาที !"

เขาต้องการจะดูว่าเป็นใครกันแน่ ที่แอบปล่อยข่าวลืออย่างลับ ๆ เพื่อทำให้ชื่อเสียงของหลานหลัวเสื่อมเสีย!

เขาจำได้ว่าวันนี้ ผู้คนที่มารายล้อมรอบประตูจวนกั๋วกงติ้ง ก็ล้วนถูกฝ่าบาทจัดการออกไปแล้วทั้งหมด ทำไมพอตกกลางคืน ทุกคนถึงได้รู้เรื่องนี้กันหมด !

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าหลานหลัวของเขาได้ไปที่หอชุนเฟิงโหลวจริง แต่นางก็ไม่เคยทำเรื่องสกปรกเช่นนี้ !

ทำไมข่าวถึงแพร่ออกไปเป็นเรื่องที่ไม่น่าฟังเช่นนี้ไปได้ !

ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง จะต้องกำลังพยายามทำให้หลานหลัวตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางถอนตัวขึ้นมาได้เป็นแน่ !

เรื่องนี้เขาจะต้องสืบหาให้ความจริงปรากฏ !

วันที่สอง ณ ราชสำนัก

องคมนตรีคนหนึ่งกล่าวตำหนิลู่ยุ๋นหลัวอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับสิ่งที่นางกระทำในหอชุนเฟิงโหลวเมื่อวานนี้

"ฝ่าบาทพะยะค่ะ นายหญิงลู่แห่งตำหนักเย็นได้ทำเรื่องผิดผีผิดประเวณีเช่นนั้น นางจะต้องได้รับการจัดการอย่างจริงจังพะยะค่ะ !"

“ใช่แล้วพะยะค่ะฝ่าบาท ตอนนี้เรื่องนี้กำลังแพร่งพรายกระจายไปทั่วเมือง หากยังไม่จัดการ จะต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของราชวงศ์อย่างแน่นอนพะยะค่ะ !”

“ฝ่าบาท โปรดลงอาญาด้วยพะยะค่ะ !”

องคมนตรีหลายคนคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อกราบทูล

จี้อู๋เจวี๋ยทรงมองอย่างเย็นชาไปยังเหล่าองคมนตรีที่อยู่เบื้องล่าง

มีเพียงองคมนตรีไม่กี่คนที่ยังยืนอยู่

เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ก่อนที่เขาจะเสด็จเข้าพระราชวัง เขาทรงได้จัดการกับคนวงในทั้งหมดที่รู้เหตุการณ์นี้อย่างเหมาะสมไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยังคงแพร่กระจายออกไป

แม้เพียงชั่วข้ามคืนก็แพร่สะพัดออกไปจนทั่วเมือง

ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คงมีแผนการอยู่ไม่น้อย

“ก็เพียงข่าวลือจากชาวบ้านทั่วไป พวกเจ้าก็จะให้ลงโทษอาญาแก่นายหญิงงั้นรึ พอหลังจากนี้พวกเจ้ามีเรื่องข่าวลืออะไร พวกเจ้าก็จะต้องถูกลงโทษอาญาด้วยใช่หรือไม่ ?” ผู้ที่กล่าวคือใต้เท้าหวังนามว่าหวังซิ่งจือแห่งกระทรวงครัวเรือน

"ใต้เท้าหวัง ท่านจะพูดเช่นนี้ได้เยี่ยงไร เรื่องนี้มีอยู่หลายคนที่ได้เห็นเหตุการณ์กับตาของพวกเขาเอง จะเป็นข่าวลือไปได้เยี่ยงไร ?" คนที่พูดคือใต้เท้าเหลียงอัครเสนาบดีของฝ่ายตรวจการ

สายพระเนตรของจี้อู๋เจวี๋ยได้กวาดมองไป

“ข้ายังสงสัยอยู่อย่าง ว่ามีใครคนไหนที่เห็นกับตาของตนเอง ?”

"ก็..." แน่นอนว่าใต้เท้าเหลียงไม่สามารถพูดออกมาได้ ท้ายที่สุดคนเดียวที่ทรงเห็นกับพระเนตรของตนเองก็มีแค่ฝ่าบาท

แต่เมื่อมองดูท่าทีของฝ่าบาทในตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาทรงต้องการปกป้องลู่ยุ๋นหลัว

แม้ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป เกรงว่าฝ่าบาทก็คงจะไม่ยอมรับ

“ดูสิ ฝ่าบาทรับสั่งให้เจ้าพูด เจ้าก็พูดไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ข่าวลือแล้วจะเป็นอะไรไปได้ ?” หวังซิ่งจือตะคอกอย่างเย็นชา

คนเหล่านี้ไม่รู้ว่ามีแผนการสมรู้ร่วมคิดอะไรอยู่เบื้องหลังกันแน่

“ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้มีความสำคัญยิ่งพะยะค่ะ นายหญิงท่านนี้ได้ทำลายชื่อเสียงของราชวงศ์ไปแล้ว นายหญิงผู้ฉาวโฉ่เช่นนี้จึงไม่เหมาะที่จะดูแลปลูกข้าวสาลีธัญพืชแห่งความหวัง ! โปรดฝ่าบาททรงพิจารณาอีกครั้งพะยะค่ะ!”

“โปรดฝ่าบาททรงพิจารณาอีกครั้งพะยะค่ะ !”

ภายในตำหนักจินหลวน องคมนตรีหลายคนได้คุกเข่าลงบนพื้นเพื่อกราบทูล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น