เฉาจงฉวนคิดอยู่เพียงครู่ก็พูดออกไป “นับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป แผ่นไม้ของนายหญิงแห่งตำหนักเย็นก็ต้องวางไปด้วย !”
“นายหญิงแห่งตำหนักเย็น ?” ความสงสัยของขันทีหลู่กลับยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นในใจ ถูกขับให้ไปอยู่ตำหนักเย็นแล้วยังมีโอกาสในที่ตรงนี้อยู่อีกงั้นเหรอ ?
ในเวลาเดียวกันนี้ จี้อู๋เจวี๋ยก็เสด็จออกมาด้านนอกพอดี
เขาทอดพระเนตรไปที่เฉาจงฉวนเพียงครู่ “เป็นอะไร นางให้เจ้ามากี่ตำลึงจนถึงขนาดที่เจ้าช่วยนางจัดการทำธุระให้ ?”
เฉาจงฉวนเข่าทรุดลงกับพื้นทันที “ฝ่าบาททรงโปรดทราบ ตัวข้าน้อยผู้นี้มิบังอาจ...”
หลังจากวันนั้นที่เขาได้นำบันทึกบทสนทนาระหว่างท่านอ๋องเฉินและนายหญิงถวายส่งไป องค์จักรพรรดิก็ทรงขยำกระดาษแผ่นนั้นจนเป็นก้อน
ถึงแม้พระพักตร์จะทรงเย็นชา แต่องค์จักพรรดิก็ไม่ได้ทรงตรัสใดใด
เขาก็ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าคงจะหลุดพ้นหมดข้อครหาแล้ว
ไม่คิดเลยว่าองค์จักรพรรดิกลับจำเนื้อหาที่เขียนทั้งหมดไว้ได้
ในใจของเฉาจงฉวนเองก็ยังคงอมทุกข์ไว้ที่ไม่สามารถพูดออกมาได้เช่นเดียวกัน
จี้อู๋เจวี๋ยเห็นเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจอะไรอื่นอีก แต่เขากลับมองไปที่ขันทีหลู่ที่มาจากห้องสำเร็จราชการ “เจ้าวางกระดานลงซะ แล้วไปที่วังหลิวหยุนกับข้า”
ส่วนเฉาจงฉวนนั้นปล่อยเขาคุกเข่าต่อไปแบบนั้น
โดยปกติแล้วเขาไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเฉาจงฉวนจะรับเงินติดสินบนจากลู่ยุ๋นหลัว แม่นางคนนี้ช่างมารยาร้อยแปด
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การที่นางพูดเช่นนั้นนั่นหมายถึงเฉาจงฉวนต้องไปทำอะไรสักอย่างให้นางไม่พอใจเป็นแน่ ถึงยังไงก็ต้องลงโทษเฉาจงฉวนพอเป็นพิธี
เขาไม่ใช่แค่คิดที่จะไม่ช่วยอะไรนาง แต่เขากลับเต็มใจด้วยซ้ำ
ขันทีหลู่กลับดีอกดีใจ หรือว่านี่จะถึงเวลาที่เขาจะมาทำในตำแหน่งนี้แทนขันทีเฉาแล้ว ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...