ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 85

บุตรสาวของจวนอัครมหาเสนาบดีอภิเษกทั้งที อีกทั้งยังได้อภิเษกเป็นชายาเอกแห่งจวนมกุฎราชกุมาร ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สินเดิมที่ได้อภิเษกเข้ามาก็ไม่น่าจะตระหนี่อะไรขนาดนั้น

“สินเดิม ?” ลู่ยุ๋นหลัวพยายามรวบรวมความจำของเจ้าของร่างเดิม วันอภิเษกนั้นจำได้ว่าเป็นขบวนริ้วแดงสิบลี้ ดูเหมือนว่าสินเดิมก็มีอยู่ราว 200 กว่าพระแท่นอัญเชิญ

เนื่องจากคืนนั้นเกิดเรื่องสำคัญใหญ่ขึ้น เพียงวันที่สองก็ถูกองค์จักรพรรดทรงสำเร็จโทษให้ประทับตำหนักเย็นในทันที ต่อมาพอข่าวการถูกประหารอัครมหาเสนาบดีแพร่กระจายออกไป ก็ทำให้ลืมคิดถึงเรื่องสินเดิมพวกนั้นมาตั้งแต่นั้นมา

“บ่าวที่ตามนายหญิงเข้ามาในวังก็ถือเพียงแค่ของที่ถือมาได้ด้วยแค่นั้น ส่วนของอื่นนั้นบ่าวไม่ได้เป็นคนถือเข้ามา ใครจะรู้ว่าหลังจากเข้ามาในวังแล้วจะต้องไปถูกขังที่ตำหนักเย็น”

“ถ้าจะให้พูด สินเดิมของนายหญิงเองเป็นไปได้ว่าคงจะอยู่ที่จวนมกุฎราชกุมาร” แม่นมโจวจำได้ว่าก่อนที่เข้ามาในวังนางได้ไปสอบถามที่จวนมกุฎราชกุมารอยู่ก่อน ดูเหมือนว่าจวนแห่งนั้นจะอยู่ภายใต้พระนามขององค์จักรพรรดิ ของมากมายข้างในล้วนแถบจะไม่ได้มีการย้ายเข้าไปในวัง

“หยินซวาง เจ้าพอจะรู้มั๊ยว่าสินเดิมของข้ามีอะไรบ้าง ?” ลู่ยุ๋นหลัวตั้งใจพยายามนึกย้อนกลับไป แต่ยังไม่รู้อยู่ดีว่าสินเดิมของนางเองนั้นแท้จริงมันคือขงออะไรกันแน่

หยินซวางคิดอยู่สักพักก็ตอบกลับไป “ก่อนวันอภิเษกหนึ่งวันข้าพอจะได้เห็นของที่ใส่ในกล่องก็มีพวก ปิ่นทอง เครื่องประดับ และสมบัติจำพวกนี้ ถ้าถามถึงของอื่นนอกจากนี้บ่าวก็ไม่ทราบแล้วเพคะ”

ลู่ยุ๋นหลัวพอได้ฟัง แววตาก็เปล่งประกายแวววับขึ้นมา ยังมีร้านค้าภาคการเกษตรอยู่ไม่ใช่เหรอ ?

ดูเหมือนว่านางคงต้องหาเวลาเอาเรื่องนี้ไปคุยกับจี้อู๋เจวี๋ยให้ได้

ผ่านไปสี่วัน ฝนห่าใหญ่ก็ได้หยุดและผ่านไป

ฝนห่าใหญ่ครั้งนี้ทำให้เหล่านางข้าหลวงและขันทีที่ทำงานในตำหนักเย็นตกใจจนสติแถบจะหลุดลอยอย่างไม่มีทางกลับมา

ตอนแรกพวกเขาแค่คิดว่าแผ่นประกาศพยากรณ์อากาศที่ติดบนผนังด้านนอกตำหนักเย็นจะเป็นนายหญิงที่เขียนเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น โดยแถบจะไม่ได้คิดเลยว่าฝนจะตกขึ้นมาจริง ๆ 

หลังจากฝนหยุดก็เข้าสู่การทำงานวันแรก โดยที่บางคนก็มาถึงตำหนักเย็นแต่เช้าเพื่อมองกระดาษที่เขียนพยากรณ์อากาศผืนนั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังตกใจพบอีกว่า ขนาดเวลาฝนหยุดก็ยังเขียนไว้ได้ถูกไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย

ไม่แปลกเลยว่าทำไมนายหญิงถึงให้พวกเขาหยุดงานตั้งสี่วัน !

ที่แท้นายหญิงก็รู้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้วว่าฝนจะต้องตกถึงสี่วัน !

ช่างเก่งกาจยิ่งกว่าสำนักหอดูดาวหลวงซะอีก !

ทุกคนต่างรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก

หลังจากฝนตกผ่านไปทำให้พื้นที่ดินยังคงเปียกชื้นอยู่ จึงไม่วิธีที่จะขุดถางดินได้ ช่วงสองวันนี้จึงให้พวกเขาบูรณะพื้นที่บางส่วนในตำหนักเย็นโดยใช้วัสดุของสำนักพระราชวังที่ส่งมาให้บางส่วน

หลังจากผ่านไปสองวันก็เลือกให้บางคนเริ่มการขุดถางที่ดินเพื่อตากข้าวสาลี

ช่วงไม่กี่วันนี้เกิดความวุ่นวายขึ้นในราชสำนัก ไม่ใช่แค่สามารถจับพวกศัตรูที่หลบซ่อนแอบคอยปลุกปั่นราคาธัญพืชให้สูงขึ้นตามที่ต่าง ๆ ในอาณาจักรได้แล้ว ยังสามารถทราบรายชื่อของผู้ที่มีส่วนร่วมที่เป็นจองหงวนในพระราชสำนักได้อีก

ได้ยินมาว่ารายชื่อคนเหล่านั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขององค์ชายสาม

กว่าครึ่งค่อนปีตั้งแต่จักรพรรดิองค์ก่อนเสด็จสวรรคต องค์ชายสามในตอนนั้นได้ล้มเหลวในการจับกุมองค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งและถูกคุมขังในคุกใต้ดิน และในคืนเดียวกันนั้นก็ได้หายตัวไปจากคุกใต้ดิน

ถ้าจะให้บอกว่าภายในพระราชสำนักไม่มีคนขององค์ชายสามก็คงจะเป็นไปไม่ได้

เหล่าองคมนตรีในราชสำนักก็หวาดผวาเกรงว่าเรื่องนี้จะกระทบโยงมาถึงตัวพวกเขา

โชคยังดีที่ราคาธัญพืชในแต่ละพื้นที่ได้ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับสู่ราคาปกติ

อาจเนื่องมาจากฝนห่าใหญ่สองครั้งที่ตกในเวลาสั้น ๆ ของอาณาจักรตงหลานก็ได้ทำให้วิกฤติภัยแล้งที่อยู่ตรงหน้าได้รับการคลี่คลายออกไป

ในวันนี้หลังจากที่จี้อู๋เจวี๋ยได้ทรงประชุมเสร็จในช่วงเช้า ก็ถึงกับเลิกพระขนงค์สงสัยต่อพระกายาหารที่อยู่บนโต๊ะ

พระกายาหารที่อยู่บ้านโต๊ะนี้เหมือนกับก้อนหินก็ไม่ปาน นอกจากความแข็งแล้วก็คือความแข็ง พอลองทรงสูดดมกลิ่นก็ได้กลิ่นที่รสชาติเปรี้ยวขึ้นมา

เขาทรงชำเลืองมองขันทีเฉิงที่บัดนี้คุกเข่าอยู่บนพื้น “นี่คือผลลัพธ์ที่เจ้าใช้เวลาในการวิจัยทำหมั่นโถวงั้นรึ ?”

“กราบบังคมทูลองค์องค์จักรพรรดิ เหล่าพ่อครัวได้ลองทำออกมาหลายครั้ง ซึ่งแป้งชนิดนี้ไม่ว่าจะเอาไปนึ่งเช่นไร พอนึ่งออกมาก็จะมีรสชาติเปรี้ยวอยู่ตลอด อีกทั้งไม่ว่าจะทอลองเช่นไร หมั่นโถวที่ได้ก็จะแข็งแบบนี้พะยะค่ะ” ขันทีเฉิงตอนนี้ใกล้ที่จะร้องไห้ออกมาเต็มทนแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น