ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 84

ฮา ฮา ฮา ......

ลู่ยุ๋นหลัวเท้าสะเอวแหงนหน้าเย้ยฟ้าหัวเราะออกมาคำโต

นี่มันเหมืองทองชัด !

มิติพิเศษของนางดันมีเหมืองทองไปได้ !

นั่นหรือว่านางต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมาขยันลำบากลำบนทำงานหาเงินแล้วใช่มั๊ย ?

วัน ๆ เอาแต่นอนอยู่ในเหมืองทองคำ วันไหนอยากใช้เงินก็แค่ขุดขึ้นมาใช้ก็ได้แล้ว !

ลู่ยุ๋นหลัวเอาแต่คิดถึงชีวิตที่แสนสวยงามในภายภาคหน้า จนวินาทีนั้นก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะสุขใจได้เพียงนี้อีกแล้ว

จากนั้นนางก็เอาทองคำที่ใหญ่ประมาณเท่าหัวแม่มือหยิบขึ้นมาขัดเช็ดที่ตัวพร้อมกับเก็บใส่ลงไปอย่างระมัดระวัง

พร้อมกับยังคิดอีกว่าควรรึไม่ที่จะเอาดินปืนเพื่อระเบิดเหมืองทองที่อยู่ในดินตรงหน้าให้เปิดกว้างออก แต่กลายเป็นว่าภายในหลุมตรงหน้าเริ่มค่อย ๆ ปิดแคบเล็กลงเรื่อย ๆ

จนลู่ยุ๋นหลัวงงในทันทีว่าขนาดพื้นดินเองก็ยังมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง

นางขยี้ตาไปมาอยู่ไม่กี่รอบเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้มองผิดไป

พื้นดินที่นางเหยียบอยู่ตอนนี้ได้ฟื้นฟูไปอยุ่ในสภาพเดิมเหมือนตอนแรกที่เรียบเหมือนพื้นปกติราวกับว่าพื้นนี้ไม่ได้มีอะไรทำให้ระเบิดมาก่อนเลย

ลู่ยุ๋นหลัวนางยังคงไม่ยอมแพ้และหยิบดินปืนออกมา โดยปริมาณที่หยิบออกมาครั้งนี้เยอะกว่าคราวก่อนหลายเท่า

นางถือเดินมา ณ ยังพื้นที่เมื่อครู่และระเบิดอีกครั้ง

หลุมการระเบิดครั้งนี้เมื่อเทียบกับสักครู่นั้นกว้างกว่าเยอะมาก และความเร็วในการฟื้นฟูของหลุมนั้นก็นับว่าเร็วมากขึ้นเช่นเดียวกัน

ลู่ยุ๋นหลัวได้ลองนับจับเวลาดูปรากฏว่าใช้เวลาประมาณห้าวินาทีในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกระเบิดให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม

ความสามารถในการฟื้นฟูเช่นนี้ ต่อให้นางระเบิดกว้างกว่านี้อีกก็ไม่มีเวลาที่จะขุดทองในเหมืองออกมาทัน !

ดูเหมือนเหมืองทองนี้ก็คงได้แต่มีไว้แค่ชมมองแต่ขุดมาใช้ไม่ได้ !

หลังจากได้ข้อสรุป ลู่ยุ๋นหลัวก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาทันใด

นางแหงนหน้าถอนหายใจออกมายาวก่อนที่จะออกมาข้างนอกมิติพิเศษ

ดูเหมือนนางคงได้แต่ต้องทำการเกษตรต่อไปซะแล้ว

เมื่อเปิดประตูห้องออกก็พบเข้ากับแม่นมโจวพอดี

“นายหญิง ทำไมหน้าตาท่านถึงดูไม่ได้ขนาดนี้ หรือว่าท่านจะเจ็บป่วยรึ ?”

สีหน้าลู่ยุ๋นหลัวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกนี้เมื่อเทียบกับอาการป่วยแล้วถือว่าหนักกว่ามาก นางจับแขนของแม่นมโจวพร้อมกับครวญส่งเสียงร้องอันเจ็บปวด

เช้าวันที่สอง ฝนห่าใหญ่ก็ได้ตกตามที่พยากรณ์

ลู่ยุ๋นหลัวที่อยู่ภายในตำหนักเย็นก็รู้สึกว่างไม่มีอะไรทำขึ้นมา

ในช่วงเวลาว่างนั้นเองนางก็ลากหยินซวางและแม่นมโจวมาเล่นไพ่ด้วยกัน

เจ้ามือไพ่ทั้งสามพักผ่อนสบายอกสบายใจอยู่ในตำหนักเย็น

ช่วงสองวันภายในพระมหาราชวังเริ่มมีการพูดคุยถึงงานรื่นเริงของเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้

โดยเทศกาลไหว้พระจันทร์ในอดีตนั้น เหล่าองคมนตรีของสำนักราชการในพระองค์ก็มักจะพาบุตรชายบุตรสาวมาร่วมงานรื่นเริงจนคึกคัก

แต่ปีนี้เป็นเพราะวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระพันปีหลวงและวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ห่างกันเพียงแค่วันเดียว ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้สูงที่งานทั้งสองจะจัดขึ้นในวันเดียวกัน

รวมไปถึงองค์จักรพรรดิที่เพิ่งขึ้นครองราชย์ และรวมไปถึงการค้นพบธัญพืชชนิดใหม่ที่เป็นเรื่องดี จึงเป็นไปได้สูงที่การจัดงานในปีนี้จะยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่าน ๆ มา

“นายหญิงเพคะ ตอนนี้ภายในวังผู้คนต่างเริ่มที่เตรียมของถวายพระพันปีหลวงเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาแล้ว ท่านลองดูก่อนมั๊ยเพคะ ว่าเมื่อถึงเวลาจะเตรียมอะไรไปถวาย ?” หยินซวางเพิ่งกลับมาจากตำหนักในและกำลังหุบเก็บร่มด้วยสีหน้าที่กังวล

หลันกุ้ยเหรินแห่งวังหลิวหยุนนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้ามีเงินอะไรบ้างที่ซื้อไม่ได้ ? เหยากุ้ยเหรินแห่งวังหลีเซี๋ยเองก็ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเช่นกัน ทั้งสองคนนั้นต่างก็ต้องเตรียมของมาถวายได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

แต่ว่านายหญิงของนางนั้นช่างจนและน่าสงสาร !

นอกจากตั๋วเงินไม่กี่พันนั่น อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว

หากถึงเวลาแล้วยังไม่มีของถวายให้เนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษาแล้ว ก็ต้องถูกคนอื่นหัวเราะเป็นแน่

ลู่ยุ๋นหลัวกลับไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก “ของขวัญมันดูกันที่ความรู้สึก ไม่ใช่ว่าดูกันที่มูลค่า”

“ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่พอถึงเวลาคนอื่นกลับไม่ได้คิดแบบนี้หรอกเพคะ”

พอพูดไปพูดมาก็วกมาจบที่นายหญิงของพวกนางนั้นจน

แม่นมโจวเดินออกมาจากห้องด้านหลังก็ได้ยินเข้าพอดี นางจึงเลิกคิ้วสงสัยและถามกลับไป “นายหญิงเพคะ ก่อนที่ท่านจะได้อภิเษกกับองค์จักรพรรดิ อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าเป็นธิดาของจวนอัครมหาเสนาบดี สินเดิม (สินเดิม หมายถึง สินทรัพย์ที่ให้เข้ามากับฝ่ายหญิงหลังแต่งงาน พวก ทอง กำไล เพชรนิลจินดา เครื่องประดับอื่น ๆ)ก่อนอภิเษกของนายหญิงล่ะเพคะอยู่ไหน ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น