ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 90

หยินซวางหยิบอาหารแช่เย็นจากด้านในออกมา “นี่คืออาหารแช่เย็นแท่งไอศกรีมน้ำเกลือ มีส่วนช่วยเสริมเกลือแร่ที่ขาดไปของร่างกายได้”

ผู้คนได้เห็นอาหารแช่เย็นที่หยินซวางถือในมือแท่งนั้นถึงแม้จะถูกห่อด้วยกระดาษอยู่หนึ่งชั้นก็ตาม แต่ก็พอจะเห็นไอเย็นที่แผ่ออกมาด้านนอก เวลานั้นทุกคนล้วนกลืนน้ำลายลงไป

อาหารแช่เย็นนี้ราคาเพียงแค่เก้าเหวินจริงหรือ?

ต้องทราบอย่างก่อนว่าถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช้ข้าราชบริพารข้างพระวรกายของพระบรมวงศานุวงศ์ แต่ค่าตอบแทนที่พวกเขาได้ในแต่ละเดือนก็คือหนึ่งตำลึง

เงินเก้าเหวินก็สามารถซื้ออาหารแช่เย็นหนึ่งแท่งได้ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับพวกเขามาก !

เงินเก้าเหวินภายในวังแถบจะซื้ออะไรในวังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ทันใดนั้นก็มีคนควักเงินออกมา “เอามาให้ข้าแท่งหนึ่ง”

หลังจากมีคนออกตัวซื้อมาแล้ว คนอื่น ๆ เมื่อได้เห็นเขาฉีกกระดาษบรรจุด้านนอกออก ภายในก็คือแท่งน้ำแข็งสีขาวนม เพียงแค่ได้เห็นก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นสบายเป็นพิเศษขึ้นมา

“เอาให้ข้าแท่งหนึ่ง !”

“ข้าเอาด้วย !”

วินาทีนั้นกลุ่มคนต่างพุ่งเข้ามา

เพียงไม่นานนัก อาหารแช่เย็นกว่า 120 แท่งก็ขายไปได้มากกว่าครึ่ง

ข่าวร้านแผงลอยของลู่ยุ๋นหลัวแพ่สะพัดอย่างรวดเร็วไปถึงพระกรรณ(พระกรรณ แปลว่า หู)ของจี้อู๋เจวี๋ย

เมื่อเขานั่งพระเกี้ยวเสด็จมาถึงโรงอาหารใหญ่ภายใน เขาก็ทรงได้ยินเสียงของลู่ยุ๋นหลัวตะโกนจากไกล ๆ

“เดินผ่านมาก็อย่าพลาดที่จะแวะมา ซื้อไม่ซื้อไม่เป็นไร เข้ามาดูชมก่อนได้ 998 เราไม่ขาย 98 เราก็ไม่ขาย ขายเพียง 9 เหวินเท่านั้น !”

“เงินแค่ 9 เหวินเท่านั้น ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวจะไม่คุ้มค่า !”

“เก้าเหวิน เครื่องดื่มและของที่แช่เย็นสามารถเอากลับไปบ้านได้ ! เร่งเข้ามา รีบเข้ามาดู.....”

จี้อู๋เจวี๋ยที่ประทับอยู่บนเกี้ยวเสด็จได้กวาดพระเนตรมองไปยังที่ไกล ๆ บริเวณที่ลู่ยุ๋นหลัวกำลังส่งเสียงเรียกลูกค้า ตั้งแต่คราวก่อนที่ประกาศเรียกนางเข้ามาปรนนิบัติ ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็แถบจะไม่ไประกาศเรียกนางให้เข้ามาอีกเลย

ได้ยินคนพูดว่า นางช่วงนี้ยุ่งอย่างมากภายในตำหนักเย็น

ไม่ใช่แค่การค้นคว้าวิธีการที่สามารถทำน้ำแข็งในช่วงฤดูร้อนออกมาได้ แถมยังเปิดร้านอาหารสำหรับขายของของตำหนักเย็นอีก ดูจากท่าทางของนางแล้ว ดูเหมือนตราบใดที่นางสามารถหาเงินได้นางก็พอใจง่ายเป็นพิเศษ

“ฝ่าบาท พวกเราควรไปที่นั่นตอนนี้มั๊ย ?” เฉาจงฉวนมองเห็นลู่ยุ๋นหลัวขายของจากที่ไกล ๆ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มและของที่เย็นจริง และก็ไม่รู้ว่านายหญิงท่านนี้ทำเครื่องดื่มและของที่เย็นออกมาในฤดูร้อนเช่นนี้ได้เช่นไร

จี้อู๋เจวี๋ยทรงเฝ้าสังเกตนางจากที่ไกล ๆ ภายในหัวก็คิดถึงนางคราวที่แล้วในตำหนักซู่ซินที่ดีดกู่ฉินบรรเลงเพลง

เพลงนั้นมีข่าวลือว่านางตั้งใจแต่งเพื่อเสด็จลุงสาม

เห็นได้ชัดว่านางสูญเสียความทรงจำและจำเสด็จลุงไม่ได้อีกต่อไป แต่ทำไมถึงยังจำโน้ตบรรเลงที่นางเขียนให้เสด็จลุงสามได้อย่างชัดเจน

ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

เขาถอนสายพระเนตรที่เย็นชากลับออกมา “ไม่จำเป็น เคลื่อนเกี้ยวเสด็จ !”

ฮะ ?

เสด็จจากไปทั้งแบบนี้ ?

เฉาจงฉวนไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย

ฝ่าบาทเสด็จออกมาตั้งไกลขนาดนี้แต่กลับไม่เข้าไปดูนายหญิงเลย ?

ทำไมถึงยังไม่ได้เสด็จลงจากพระเกี้ยวก็จะจากไปแล้ว ?

ทำไมเขารู้สึกว่าตั้งแต่หลังจากนายหญิงคราวก่อนได้ถูกเลือกให้เข้าปรนนิบัติที่ตำหนักซู่ซิน ฝ่าบาทก็ดูเหมือนทรงละเลยไม่สนใจใยดีนายหญิงอีกเลย ?

แต่ดูไปดูมาก็เหมือนไม่ใช่ ถ้าหากเย็นชากับนางจริง ก็คงไม่เสด็จถ่อมาไกลถึงที่นี่เพื่อมาแค่ทรงดูและก็เสด็จจากไป

นี่มันไม่เหมือนฝ่าบาทพึงทรงกระทำอย่างเช่นทุกที

เฉาจงฉวนคิดไม่ออก

ผ่านไปสักพัก คนเชิญพระเกี้ยวก็ได้ทูลถามเขา ว่าพวกเขาตอนนี้กำลังจะไปที่ไหน ?

เฉาจงฉวนก็เพิ่งจะนึกออก ว่าฝ่าบาทยังไม่ได้ตรัสว่าจะเสด็จไปยังที่ใด ดังนั้นเขาจึงฝืนทูลถามไป “ฝ่าบาท พวกเราจะไปยังที่ใดกันรึพะยะค่ะ ?”

สายพระเนตรที่คุ่นเคืองลอยข้ามออกมาจากบนพระเกี้ยว ซึ่งดูราวกับว่าเฉาจงฉวนได้ทูลถามอะไรโง่ออกไปอย่างใดอย่างนั้น “ก็ต้องกลับไปที่ตำหนักซู่ซินอยู่แล้ว”

เอาเถอะ

เฉาจงฉวนเข้าใจทุกอย่างดี

ฝ่าบาทเสด็จออกมาครั้งนี้ก็เพื่อจะมาทรงดูนายหญิง

“เคลื่อนขบวนเสด็จไปตำหนักซู่ซิน !”

หลังจากกลับมาถึงตำหนักซู่ซิน จี้อู๋เจวี๋ยก็ได้ทรงจัดการพระราชฎีกาอยู่พัก คิดไปคิดมาก็เรียกเฉาจงฉวนให้เข้ามาหา “ไปที่ร้านขายของตำหนักเย็น ไปซื้อเครื่องดื่มและของที่เย็นสองแท่งกลับมาให้ข้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น