ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 92

อาหารแช่เย็นพวกนี้ชนะใจแม่นางที่สูงศักดิ์หลายคนได้อย่างรวดเร็ว

นายหญิงของตำหนักเย็นแห่งนี้ทำให้เกิดเป็นที่อยากรู้อยากเห็นอย่างมาก

ชนิดค้าชนิดใหม่ที่ออกมาของร้ายขายของตำหนักเย็นในวันที่สอง นางข้าหลวงของวังหลิวหยุนที่มาซื้อเครื่องดื่มและของที่เย็นพุ่งเข้ามาโยนทองคำที่ส่องแสงระยิบระยับกองโตพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่หยิ่งผยอง “หลันกุ้ยเหรินของข้ามีรับสั่งมาว่า ให้ซื้อของที่เอร็ดอร่อยที่มีในร้านเจ้าทั้งหมดอย่างละหนึ่งชุด อีกทั้งหลังจากนี้หากมีอาหารชนิดใหม่ ต้องส่งไปให้ที่หวังหลิวหยุนก่อนเป็นที่แรกในทันที” ทองคำขนาดเท่ากำปั้นทำให้นางข้าของร้านขายของเล็ก ๆ นี้ตกใจสะดุ้งขึ้นมาทันที และรีบรายงานให้ลู่ยุ๋นหลัวมาจัดการ

ลู่ยุ๋นหลัวเองก็ถูกทองกองใหญ่นี้ทำให้ตกใจสะดุ้งเช่นเดียวกัน หลันกุ้ยเหรินแห่งวังหลิวหยุนช่างร่ำรวยมีอำนาจจริง ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าหลันกุ้ยเหรินเป็นคนยังไงกันแน่

มีข่าวล่ำลือว่าธิดาท่านนี้ของของอาณาจักรหลิวยิ่งยโสและเอาแต่ใจตนเองมาก

แต่นางกลับมองไม่ออกเลย ?

เรื่องร่ำรวยและมีอำนาจนั้นเป็นเรื่องจริง

ซึ่งเหล้าดอกบัวแต่ก่อน ก็เพราะน้ำมือของหลันกุ้ยเหรินคนนี้เองถึงทำให้ทำเงินได้มากมายไม่น้อย

ลู่ยุ๋นหลัวคิดไม่ออก

ช่างมันเถอะ ไม่ว่าอย่างไรขอแค่มาซื้ออาหารที่ตำหนักของนางใครก็ล้วนเป็นพระเจ้าทั้งนั้น

หลังจากลู่ยุ๋นหลัวยิ้มรับเก็บทองคำนั้นไป ก็รีบยกระดับให้หลันกุ้ยเหรินของวังหลิวหยุนเป็นลูกค้า VIP ของร้านขายของตำหนักเย็น

หลังจากนี้ ขอแค่คนของวังหลิวหยุนผ่านมา นอกจากจะไม่ต้องต่อแถวแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับส่วนลดสินค้าทั้งหมดในร้าน 20%

อีกทั้ง หลังจากนี้ขอแค่มีอาหารชนิดใหม่ออกมาของแผนกอาหาร  ก็จะล้วนถูกส่งไปยังวังหลิวหยุนก่อนเป็นอันดับแรก

นางข้าหลวงคนนั้นก็ได้สั่งกลุ่มคนใช้ที่อยู่ด้านหลังถือกล่องไม้ลังอาหารเดินจากไป

ลู่ยุ๋นหลัวมองทองคำที่อยู่ในมือ ก็ทำให้นึกถึงเหมืองทองคำในมิติพิเศษที่ขุดออกมาไม่ได้ หัวใจก็ปวดร้าวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อไหร่นางจะสามารถใช้ชีวิตอย่างใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้ได้ ?

วันนี้เอง แม่ทัพทหารองครักษ์เย่เฟิงที่ได้ลางานไปไม่กี่วันเมื่อได้เข้ามาในวังได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็มองเห็นทหารยามที่กำลังผลัดเวรถือแท่งอาหารที่ไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไรในมือทานอยู่ด้วยกัน

อาหารที่อยู่ในมือนั้นดูเหมือนจะปล่อยไอเย็น ๆ ออกมา

เป็นน้ำแข็ง ?

ก็ดูเหมือนจะไม่คล้าย

ตลอดทางที่เดินมาถึงห้องทรงตำราก็เห็นภาพฉากนี้มาอยู่หลายครั้ง

เขาไม่ได้เข้ามาในวังเพียงไม่กี่วัน ตอนนี้กระแสในวังล้วนแถบจะตามไม่ทันแล้ว

จึงรีบหาใครสักคนเพื่อสอบถาม ถึงรู้ที่มาว่านายหญิงของตำหนักเย็นได้ก่อตั้งแผนกอาหาร ค้นคว้าวิธีที่จะสามารถทำเครื่องดื่มและของที่เย็นออกมาได้แม้ว่าจะอยู่ในฤดูร้อน พอดูพวกเขาที่ต้องเข้าประจำการกันอย่างยากลำบากในฤดูร้อน จึงแจกจ่ายสวัสดิการนี้เป็นพิเศษให้กับพวกเขาทุกวัน ถ้านับถึงวันนี้ก็แจกจ่ายเป็นวันที่สี่แล้ว

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งที่ทหารยามที่เข้าประจำการต่างเฝ้ารอมากที่สุดก็คือตอนที่แจกจ่ายเครื่องดื่มและของที่เย็น

ทั้งเย็นและอร่อย

กินแค่ไปแค่คำเดียวก็สบายชื่นใจแล้ว !

แต่น่าเสียดาย ทุกวันทุกคนจะมีได้แค่หนึ่งแท่งเท่านั้น

ยังไม่ได้กินเท่าไหร่ก็หมดแล้ว !

พอคิดถึงรสชาติของเครื่องดื่มและอาหารที่เย็น ทหารยามนั้นก็ลูบไปที่ปากตัวเองด้วยท่าทางที่ยังไม่หนำใจสักเท่าไหร่

เย่เฟิงทันใดนั้นก็รู้สึกว่าภายในใจไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่

สิบสองผู้พิทักษ์แห่งเมืองหลวงในวังยังมีสวัสดิการที่ดีระดับอีกเหรอ ?

เมื่อคิดถึงพวกทหารองครักษ์ที่วันวันเอาแต่ฝึกซ้อมภายใต้แสงแดดที่แผดเผา แต่กลับไม่มีอะไรเลย แม้แต่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาก็มีหลายคนเสียชีวิตด้วยโรคลมแดด

ทันใดนั้นก็รู้สึกทันทีว่าองค์จักรพรรดิไม่ยุติธรรม

เมื่อมาถึงห้องทรงตำราก็ทูลกล่าวถึงเรื่องนี้ "ฝ่าบาท ทหารองครักษ์ 50,000 นายของเราทุกวันอดทนกับแสงแดดที่ร้อนแรงลาดตระเวนในเมืองนอกพระราชวัง ส่วนที่เหลือก็ฝึกฝนภายใต้แสงแดดที่ร้อนแรงนี้เช่นกัน เพียงแค่เดือนที่แล้ว ทหารหกนายได้เสียชีวิตด้วยโรคลมแดด ฝ่าบาททรงดูสิ ฝ่าบาทพอจะสามารถให้สวัสดิการนี้แก่องครักษ์ของพวกเราบ้างจะได้ไหมพะยะค่ะ"

จี้อู๋เจวี๋ยแหงนพระพักตร์ทอดพระเนตรไปที่เขา ไม่ได้ตรัสพูดอะไร เฉาจงฉวนก็ได้ถือกล่องไม้จากด้านนอกเดินเข้ามา

“ฝ่าบาท ฝ่าบาทที่มีรับสั่งให้ไปซื้อน้ำแข็งใสที่ร้านขายของนั้นได้ขายหมดแล้วพะยะค่ะ  แต่ว่าได้ซื้อไอศกรีมรสพีชเหลืองหนึ่งชุดและไอศกรีมถั่วเขียวสองแท่งมาแทน ไอศกรีมนี้ตั้งใจทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อถวายฝ่าบาทโดยเฉพาะ ต่อให้ซื้อที่ร้านขายของก็ซื้อไม่ได้พะยะค่ะ มีเพียงแค่ชุดเดียวเท่านั้น นายหญิงยังลดให้แก่ฝ่าบาท โดยทั้งหมดใช้ไปเพียงแค่ 50 เหวินเท่านั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น