กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 914

ในขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังรักษา นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารเขา
ต้องเข้มแข็งเพียงใด ถึงสามารถอดทนความเจ็บปวดจากการทุบกระดูกได้โดยไม่เปล่งเสียงใด ๆ แม้แต่คำเดียว?
นางพยายามที่จะไม่สนใจความเจ็บปวดของเยี่ยจิ่งหาน และเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความเจ็บปวดแต่ละครั้ง ค่อย ๆ ทำให้เขาทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้น
แต่เทียบไม่ได้กับการตัดสินใจที่แน่วแน่ของเขา และทำให้ความเจ็บปวดแต่ละครั้งผ่านพ้นไปได้
"กร๊อบ......"
เมื่อกระดูกแตกอีกชิ้น เยี่ยจิ่งหานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและหมดสติ
เขาเจ็บปวดมากจนหมดสติไปหลายครั้ง และมีหลายครั้งที่ฟื้นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
ตั้งแต่เด็กจนโต เยี่ยเฟิงถูกหักกระดูกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังสามารถอดทนได้ แล้วทำไมเขาจะอดทนไม่ได้
เมื่อตัวเองได้ประสบกับความเจ็บปวดจากการถูกทุบกระดูก จึงสามารถจินตนาการได้ว่าเยี่ยเฟิงทุกข์ทรมานเพียงใด
"อดทนไว้นะ ใกล้จะเสร็จแล้ว"
เมื่อรู้สึกว่าการหายใจของเขาเร็วขึ้น กู้ชู้หน่วนก็หยิบยาที่เตรียมไว้มาทากระดูกที่หักของเขา
"อืม......"
เยี่ยจิ่งหานไม่รู้ว่านั่นเป็นยาอะไร แต่เขารู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นมากกว่าความเจ็บปวดที่กระดูกหักหลายพันเท่า และแทบอยากจะเอาหัวชนฝาผนังให้ตายในทันที
"ถ้าเจ้าอยากอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับภรรยาของเจ้า เจ้าก็ต้องอดทนไว้ แม้ว่ายานี้จะทำให้เจ็บปวดมาก แต่ก็สามารถเชื่อมกระดูกที่หักของเจ้าให้กลับคืนมาได้ในระยะเวลาอันสั้น"
อาหน่วน......อาหน่วน......
เขาต้องอดทนต่อไป เขาต้องการชุบชีวิตอาหน่วน......
เมื่อดวงตาที่พร่ามัวลืมขึ้น เขาก็เห็นว่ามู่หน่วนกำลังจดจ่ออยู่กับการรักษาเขา และแววตาคู่นั้นก็สะท้อนให้เห็นกระดูกหัวเข่าที่เปื้อนเลือดของเขา
เขาเห็นความตั้งใจ ความสงสาร และความเข้มแข็ง ในแววตาคู่นั้น
เหมือนกับภรรยาของเขามาก......
เยี่ยจิ่งหานอยากจะเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของนาง และอยากบอกนางว่าเขาไม่กลัวความเจ็บปวด แต่กลัวว่าขาทั้งสองข้างของเขาจะไม่หายเป็นปกติ และกลัวว่าจะไม่สามารถชุบชีวิตอาหน่วนได้
แขนขาของเขาถูกมัดไว้และร่างกายอ่อนแรง จึงไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะบอกนาง
"เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง"
กู้ชูหน่วนถอนหายใจ นางล้างมือทั้งสองของตัวเอง และห่มผ้าห่มให้เขา
เยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างอ่อนแรง "มี......มีโอกาสกี่ส่วนที่จะสำเร็จ......"
"เก้าในสิบ"
เยี่ยจิ่งหานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เก้าในสิบ......
เช่นนั้นก็เป็นไปได้มากที่ขาของเขาจะหายเป็นปกติ
แต่ไม่คิดเลยว่าประโยคถัดมาของกู้ชูหน่วน เกือบจะทำให้เขาเป็นลมอีกครั้ง
"เก้าในสิบที่ไม่แน่ใจ"
"......"
เก้าในสิบที่ไม่แน่ใจ?
เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น?
"จะรีบร้อนอะไร ยังมีความเป็นไปได้หนึ่งในสิบไม่ใช่หรือ?ดีกว่าเป็นคนขาพิการไปตลอดชีวิต"
"......"
"เจ้าเองก็เหนื่อยแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะ หลับแล้วจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก"
กู้ชูหน่วนยกแขนเสื้อขึ้น ไม่รู้ว่านางทำอะไร เยี่ยจิ่งหานรู้สึกหนักเปลือกตาและหลับไป
ไม่นานเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ปีนข้ามกำแพงและแอบเข้ามา
กู้ชูหน่วนหยิบมันขึ้นมา
"ทำไมถึงได้นานขนาดนี้?สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?"
"ฟ่อ ๆ......ตระกูลไป๋หลี่เป็นตระกูลใหญ่ สถานการณ์ซับซ้อน และในวังก็เป็นสถานที่ที่ได้รับการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด สถานการณ์จึงยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไปอีก"
"พูดภาษามนุษย์"
"นายท่าน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นงู"
"พูดภาษางู"
"ฟ่อ ๆ ๆ......"
"โป๊ก......"
กู้ชูหน่วนเขกกะโหลกมัน และทำท่าทางว่าจะย่างมัน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงฟ่อ ๆ เพื่อขอความเมตตา
"อย่า ๆ ๆ นายท่าน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลัวความร้อน"
"เร็ว"
"ก็ได้......ข่าวทั้งหมดเกี่ยวกับตระกูลซั่งกวนอยู่นี่แล้ว"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ขย้อนผ้าไหมผืนหนึ่งออกมาจากในปาก
กู้ชูหน่วนเปิดดู และพบว่าเป็นแผนที่ของตระกูลไป๋หลี่ เป็นแผนที่การกระจายอำนาจ รวมทั้งยอดฝีมือของตระกูลไป๋หลี่ ว่าแบ่งแยกกันไปยังที่ใดบ้างและเชี่ยวชาญในด้านใด
อาจกล่าวได้ว่าตระกูลไป๋หลี่ทั้งหมดได้รับการจดบันทึกอย่างละเอียด
หากต้องการข่าวสารชิ้นนี้ ก็พอที่จะจินตนาการได้ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ต้องทุ่มเทอย่างมาก
"วรยุทธ์ขั้นต้นระดับหกหนึ่งคน......ระดับห้าเจ็ดคน......ระดับสี่เกือบร้อยคน......"
ความแข็งแกร่งเช่นนี้......
ว่ากันว่าสี่ตระกูลใหญ่ไม่มียอดฝีมือระดับหกขึ้นไป
แต่เสี่ยจิ่วเอ่อร์ตรวจสอบได้หนึ่งคน
กู้ชูหน่วนก็เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตระกูลที่มีประวัติยาวนานมาเกือบพันปี น่าจะมีไพ่ลับที่ยังไม่ได้เปิดเผย
แต่นางไม่คิดเลยว่าตระกูลไป๋หลี่จะแข็งแกร่งขนาดนี้
และไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดตระกูลไป๋หลี่ให้สิ้นซาก
"เซี่ยวอวี่เซวียนอยู่ที่ไหน?สืบได้แล้วหรือไม่?"
วันนี้ทั้งวัน นางกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเซี่ยวอวี่เซวียนอยู่ตลอดเวลา
"ข้าสืบไม่พบ แต่พี่น้องของเจ้าเสือน้อยสืบพบ และบอกว่าเขาถูกขังอยู่ที่ตระกูลไป๋หลี่"
"ถูกขังอยู่ที่ตระกูลไป๋หลี่?ค่ายกลเคลื่อนย้ายของเยี่ยจิ่งหานไม่ได้เคลื่อนย้ายเขาไปในวังหรือ?ทำไมเขาถึงไปอยู่ที่ตระกูลไป๋หลี่ได้?"
แต่พี่น้องของเจ้าเสือน้อยบอกว่าเขาถูกส่งเข้าไปในวัง หลังจากนั้นก็หลบหนี แต่ถูกไป๋หลี่ป้าและคนอื่น ๆ จับตัวได้ ตอนนี้ถูกขังอยู่ในเขตหวงห้ามของตระกูลไป๋หลี่ ข้าให้พี่น้องของข้าไปตรวจสอบที่เขตหวงห้ามแล้ว แต่เขตหวงห้ามมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
"เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รู้ว่าเซี่ยวอวี่เซวียนมีความสำคัญต่อท่านมาก ดังนั้นข้าจึงแอบเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเอง แต่......ในเขตหวงห้ามมีอักษรรูนมากมาย จนทำให้ข้าปวดหัว"
"เขตหวงห้ามอะไรกัน แม้แต่เจ้าก็เข้าไปไม่ได้?"
"มีอักษรรูนแน่นขนัดไปหมด ล้วนแต่เป็นอักษรรูนโบราณ อีกทั้งยอดฝีมือระดับหกของตระกูลไป๋หลี่ก็อยู่ในเขตหวงห้าม ตราบใดที่เขายังไม่ตาย ก็ไม่สามารถเข้าไปในเขตหวงห้ามได้"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พูดอย่างไม่พอใจ "ดังนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าคุณชายเซี่ยวอยู่ในเขตหวงห้ามหรือไม่?"
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
ด้วยพลังของเซี่ยวอวี่เซวียนแล้ว ไม่ว่าในวังจะมีการเฝ้าระวังที่เข้มงวดเพียงใด หากเข้าต้องการจะออกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ในตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หากถูกคนของตระกูลไป๋หลี่พบเข้า และถูกจับตัวไปก็เป็นเรื่องปกติ
ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติมากเกินไป
ปกติจนนางรู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
[ร้อน] อ่านนวนิยาย กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 914
นวนิยาย กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ได้รับการเผยแพร่ไปยัง บทที่ 914 พร้อมรายละเอียดใหม่ที่ไม่คาดคิด อาจกล่าวได้ว่าผู้แต่ง อี้หมิง ลงทุนใน กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ อย่างจริงใจเกินไป หลังจากอ่าน บทที่ 914 ฉันก็ทิ้งความเศร้า แต่อ่อนโยน แต่ลึกซึ้งมาก มาอ่านตอนนี้ บทที่ 914 และตอนต่อไปของซีรี่ส์ กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ที่ Good Novel Online ตอนนี้