นางเคารพเขา ดังนั้นนางจะไม่ลงมือกับเขา
แต่หากเขาทำให้นางต้องลำบากใจ ต่อให้เขาจะมีความดีมากแค่ไหน นางก็จะไปไม่ปล่อยเขาเป็นแน่
“ฝ่าบาท ชีวิตของท่าน นายน้อยของข้าเป็นคนช่วยเอาไว้ ท่านเป็นหนี้บุญคุณน้อยนายของข้า”
“ปัง......”
กู้ชูหน่วนปิดสาส์นในมืออย่างรุนแรง
“เจ้าอยากพูดอะไร”
“ขอแค่ฝ่าบาทปลดตำแหน่งเฟิงโห้ว และยกนายท่านขึ้นในตำแหน่งที่สูงกว่านั้น พวกข้าจะถอนทับในทันที”
“ฮึ......ปลดตำแหน่งเฟิงโห้ว ท่านปู่เจียง ท่านก็ช่างกล้าคิด เข้ามา ไปเรียกหวงกุ้ยจวินมาพบข้า”
“ฝ่าบาท หวงกุ้ยจวินไม่รู้เรื่องพวกนี้ เขา......”
“ปลดตำแหน่งเฟิงโห้ว เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ เขาเองก็น่าจะรับรู้ ยังจะงงอะไรอยู่ ยังไม่ไปรีบเชิญหวงกุ้ยจวินมาอีก”
“ฝ่าบาท ท่านเองก็เข้าใจดีกว่านายท่านมีความรู้สึกอันลึกซึ้งกับท่านมากเพียงใด หากท่านไม่ได้เป็นคนออกคำสั่ง นายท่านก็ไม่มีทางต้องการมันเป็นแน่ เขารักในเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองเป็นที่สุด ท่านให้คนไปเชิญเข้ามาเช่นนี้ มันเป็นการ......เป็นการ......”
“ท่านปู่เจียงไม่อยากให้นายท่านของท่านลำบากใจ แต่กลับยินดีที่จะให้ข้าลำบากใจงั้นหรือ?”
กู้ชูหน่วนลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาท่านปู่เจียง หยุดลงเมื่อระยะห่างจากเขาประมาณหนึ่งเมตร จ้องมองเขาด้วยสายตาอันเยือกเย็น
“ท่านผู้อาวุโสก็อายุมากแล้ว เรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่ว่าท่านจะไม่เข้าใจ แต่ท่านทำเป็นไม่เข้าใจมันเสียมากกว่า การปลดตำแหน่งเฟิงโห้วหมายความว่าอย่างไร ข้าคิดว่าข้าคงไม่จำเป็นต้องพูดท่านเองก็น่าจะรู้มันอยู่แก่ใจ”
“เผ่าเพลิงฟ้าดำรงอยู่มานับพันปี ความแข็งแกร่งเป็นที่เลื่องลือมาตั้งแต่อดีต อย่าว่าแต่รัฐอี้ตกอยู่ในอำนาจของรัฐปิงแล้วเลย ต่อให้รัฐอี้ยังปกครองตนเองอยู่ ด้วยกำลังของตนเองก็อยากที่จะเอาชนะเผ่าเพลิงฟ้า”
“ในเมื่อพวกเจ้ายังทำไม่ได้ เหตุใดพวกเจ้าจึงคิดว่าข้าจะต่อสู้เพื่อหวงกุ้ยจวิน”
“ฝ่าบาทหมายความว่า สิ่งที่นายท่านของข้าทำนั้นสูญเปล่า?”
“ข้าหมายความว่า ข้ารู้สึกขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตข้า แต่ข้าไม่มีทางทำศึกเพราะเรื่องส่วนตัว นับประสาอะไรกับหวงกุ้ยจวิน ประชาชนเพิ่งจะอยู่อย่างสงบสุขได้ไม่นาน หากเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะต้องมีประชาชนล้มตายและไร้ซึ่งที่อยู่อีกมากมายแค่ไหน หรือว่าผู้อาวุโสอยากให้ใต้หล้าโชยไปด้วยกลิ่นดินปืนอีกครั้ง?”
“ข้า......”
“พวกเจ้าไม่ยอมถอย เผ่าเพลิงฟ้าเองก็ไม่มีวันถอย และการเผชิญหน้ากันครั้งนี้จะยื้อไปได้อีกนานแค่ไหน?”
“เผ่าเพลิงฟ้ายังรอต่อไปได้ แต่พวกเจ้ารอต่อไปได้อย่างนั้นหรือ? เสี่ยวหยุนเฟยมีเวลาอีกมากสุดก็แค่หนึ่งเดือน หากเผ่าเพลิงฟ้ายอมที่จะเสียเวลา เกรงว่าในระยะเวลาหนึ่งเดือน พวกเจ้าคงไม่มีทางนำแผ่นอักษรสีเหลืองมาได้”
ท่านปู่เจียงจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
เป็นเพราะเหตุนี้ หัวใจของเขาจึงร้อนรนจนแทบจะลุกเป็นไฟ
นายท่านน้อยสั่งให้เขาถอนทัพอย่างเคร่งครัด
เขาไม่สามารถดื้อรั้นต่อนายท่านน้อยได้ เขาทำได้เพียงหันมาเจรจากับกู้ชูหน่วน ดูว่าจะสามารถยกฐานะของนายท่านน้อยเป็นเฟิงโห้วได้หรือไม่
นายท่านน้อยมีความรักอันลึกซึ้งต่อนาง หากเขาได้เป็นเฟิงโห้ว เขาจะต้องมีความสุขเป็นแน่
เขาจึงใจร้อนเกินไปและทำอะไรลงไปโดยไม่ทันไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
การแต่งตั้งเฟิงโห้วเป็นเรื่องใหญ่ นางจะรับปากง่าย ๆ ได้อย่างไร
“ฝ่าบาท นายท่านน้อยรอต่อไปไม่ไหวแล้ว......”
“ข้ารู้ ข้าเองก็ร้อนรน หากท่านเชื่อข้า ท่านก็ถอนทัพออกมาเสีย ข้ารับประกันว่าจะส่งแผ่นอักษรสีเหลืองมาให้ถึงมือท่านอย่างแน่นอน”
ท่านปู่เจียงลังเลเล็กน้อย
กำหมัดแน่น เดินไปเดินมา ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้
กู้ชูหน่วนก็ไม่ได้เร่งแต่อย่างใด ปล่อยให้เขาได้ใช้ความคิดอย่างอิสระ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ท่านปู่เจียงถึงยอมคุกเข่าลง
“ฝ่าบาท นายท่านน้อยของข้ายอมสละชีวิตของตนเองเพื่อท่าน ได้โปรด ท่านได้โปรดช่วยนายท่านน้อยของพวกเราไว้ให้ได้”
“ท่านวางใจ ข้าจะทำอย่างสุดกำลัง ไม่มีทางปล่อยให้เขาสิ้นใจเป็นแน่”
“ขอขอบพระคุณฝ่าบาท”
“พวกเจ้าเป็นคนจับตัวรองหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าไปใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่ ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ วันนั้นข้าเพียงทำร้ายเขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นพรากชีวิตของเขา และไม่ได้จับตัวเขามา เขาหาโอกาสหนีไปได้ด้วยตัวเอง”
“หลายวันที่ผ่านมา ข้าก็ทำการสืบหาร่องรอยของเขามาโดยตลอด แต่ราวกับว่าเขาจะหายตัวไปจากโลกใบนี้ ไม่ว่าจะตามหาเช่นไรก็หาตัวเขาไม่พบ”
หลังจากท่านปู่เจียงจากไป กู้ชูหน่วนก็ขยี้ตาอย่างเหนื่อยล้าและทรุดตัวลงที่พนักเก้าอี้
ฝูกวงเดินถือถ้วยแกงร้อนเข้ามา “นายท่าน ดื่มแกงร้อนเสียหน่อย จะได้บรรเทาธาตุไฟในตัวท่าน”
ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา นางก็ได้พบเจอแต่เรื่องแย่ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นางอยากจะกลับไปหมดสติอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ไหล่ทั้งสองข้างของนางตั้งแบกรับภาระอันหนักอึ้ง แม้อยากจะหลับใหลไปอีกครั้ง นางก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
“แครก แครก......”
กู้ชูหน่วนไอออกมา พร้อมกับสำนักแกงร้อนและเลือดออกมา
สีหน้าของฝูกวงเปลี่ยนไป
“นายท่าน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ท่านไอเป็นเลือด เป็นเพราะอาการบาดเจ็บครั้งก่อนของท่านยังไม่หายดีงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...