นางตามหาแผ่นอักษรสีเหลืองมาโดยตลอด แต่นางก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน ดังนั้นจึงส่งให้คนไปค้นหาที่อยู่รวมถึงลักษณะของแผ่นอักษรสีเหลือง
ยันต์แผ่นนี้เหมือนกับลักษณะของแผ่นอักษรสีเหลืองที่ลูกน้องของนางบอกนางมาก
สิ่งเดียวที่ต่างไปก็คือ ยันต์แผ่นนี้มีสีขาว ไม่ใช่สีเหลือง และวัสดุที่ใช้ในการทำยันต์ก็ต่างกันออกไป
นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
และรู้สึกดีใจเช่นกัน
ฝูกวงเองก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก “นายท่าน อักขระบนผ้ายันต์แผ่นนี้นั้นเหมือนกับแผ่นอักษรสีเหลืองทุกอย่าง”
“แม่นาง บะหมี่มาแล้ว ท่านลองชิมดูว่ามันถูกปากหรือไม่ หากไม่ถูกปาก ข้าจะไปทำให้ท่านใหม่อีกถ้วย”
กู้ชูหน่วนรีบเดินไปหาผู้ใหญ่บ้านพร้อมกับยันต์สีขาวแผ่นนั้น
“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านได้ผ้ายันต์แผ่นนี้มาจากที่ใด?”
ผู้ใหญ่บ้านตะลึงงัน
“อ่า ท่านพูดถึงผ้ายันต์แผ่นนี้งั้นหรือ เมื่อไม่กี่วันก่อนหยางเหมยเป็นคนนำยันต์แผ่นนี้มา เวลานั้นหมู่บ้านเต็มไปด้วยโรคระบาด ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นไปได้ยินมาจากที่ไหน บอกว่าหากมีแผ่นอักษรสีเหลืองอยู่ในมือจะสามารถรักษาได้ทุกโรค ชีวิตยืนยาว โรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียน จึงขอนำยันต์พวกนี้มาแปะไว้ที่หน้าประตูเพื่อความสบายใจ”
“ท่านเคยเห็นแผ่นอักษรสีเหลืองมาก่อนงั้นหรือ? จริงอยู่ว่ามันเหมือนกับยันต์แผ่นนี้ แต่สีของมันเป็นสีเหลือง”
“ข้า.......ข้าไม่เคยเห็นมัน แต่ข้าได้ยินหยางเหมยพูดว่า หากยันต์แผ่นน้ำจากกระดาษสีเหลือง ผลลัพธ์ของมันจะดีกว่านี้ แต่หมู่บ้านของพวกเรายากจน แค่กระดาษขาวยังไม่มี จะไปเอากระดาษเหลืองที่ไหนมา ดังนั้นสุดท้ายจึงใช้กระดาษขาวที่เหลือ แปะ ตัด และวาดอักขระลงไป”
“แม่นางชอบยันต์แผ่นนี้งั้นหรือ? หากท่านชอบ ข้าขอยกมันให้ท่าน ในหมู่บ้านของพวกเรายังมีอยู่อีกมาก ท่านต้องการเท่าไหร่ก็เอาไปได้เลย หากไม่พอ ข้าจะให้คนทำให้เพิ่ม”
กู้ชูหน่วนจับประเด็นสำคัญและถามอย่างกระวนกระวาย “ผู้ใหญ่บ้าน หยางเหมยที่ท่านพูดถึง......เขาอยู่ที่ไหน?”
“อ่า......เขาไม่มีที่อยู่เป็นร่องเป็นรอย หลายปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าถูกใครไล่ล่า เขาจึงหนีเข้ามาอยู่ในภูเขาลึกแห่งนี้ พวกข้าเห็นเขาหมดสติอยู่หน้าหมู่บ้าน ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล น่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง ข้าจึงช่วยชีวิตเขา ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นรู้สึกอยากตอบแทนหรืออย่างไร เขามักจะนำเมล็ดข้าวมาให้พวกเรา และยังซื้อยารักษาจำนวนมากมาเพื่อรักษาเด็กและผู้หญิงในหมู่บ้าน เมื่อวานนี้เขายังอยู่ที่นี่อยู่เลย และเพิ่งจากไปเมื่อคืน”
“ตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ใด แต่อีกไม่กี่เดือนเขาก็น่าจะกลับมาอีก เช่นนั้นท่านพักอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้สักสองสามเดือน บางทีอาจจะได้พบกับเขา”
อยู่ที่นี่สองสามเดือน?
นางสามารถรอได้
แต่อี้หยุนเฟยรอได้งั้นหรือ?
เกรงว่าหากให้รออยู่ที่นี่อีกสองสามเดือน อี้หยุนเฟยก็คงเหลือเพียงแค่กระดูก
“ดังนั้นท่านจึงไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าเขามีญาติพี่น้องหรือไม่? และไม่รู้อีกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่?”
ผู้ใหญ่บ้านส่ายหน้า “จริงอยู่ที่ข้าไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่หยางเหมยเคยบอกไว้ว่า เขามีอาจารย์อยู่หนึ่งคน ศิษย์น้องหนึ่งคน ส่วนตัวเขาเป็นเด็กกำพร้า ถูกอาจารย์เก็บไปเลี้ยง และพวกเขาทั้งสามก็พึ่งพากันในการใช้ชีวิต”
“เช่นนั้นท่านรู้หรือไม่ว่าอาจารย์และศิษย์น้องของเขามีนามว่าอะไร?”
หากรู้ นางสามารถส่งคนไปพลิกแผ่นดินหาได้
เช่นนั้นหากมีเพียงชื่อสองพยางค์ของ หยางเหมย ไม่รู้ว่าทั่วทั้งประเทศยังมีคนชื่อซ้ำกันอีกมากแค่ไหน แล้วเมื่อไหร่จะหาเจอ
ผู้ใหญ่บ้านส่ายหน้าออกมาอีกครั้ง
“งั้นท่านรู้หรือไม่ว่า เขานำแผ่นอักษรสีเหลืองไปไว้ที่ไหน?”
“เรื่องนี้......เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แค่ยันต์แผ่นเดียวจะทำให้หมู่บ้านของพวกเรารอดพ้นจากหายนะได้อย่างไร ทั้งหมดเป็นเพราะเห็นแก่น้ำใจของเขา ดังนั้นพวกเราจึงยอมให้เขาใช้ยันต์สีขาวเหล่านี้ในการปกป้องหมู่บ้าน”
“ขอบคุณท่านมา”
กู้ชูหน่วนไม่ได้ทานบะหมี่เข้าไปแม้แต่คำเดียว เรียกฝูกวงเข้ามาและคิดจะออกจากหมู่บ้านทันที
ในเมื่อเขาเพิ่งจะจากไปได้ไม่นาน เขาคงไปไหนได้ไม่ไกล หรือไม่ก็อยู่แถวหมู่บ้านใกล้เคียง
ทันใดนั้น เสียงเด็กที่ร้องอย่างมีความสุขก็ดังขึ้นมาจากไกล ๆ
“พี่หยางเหมย พี่กลับมาแล้ว ข้าคิดว่าพี่จากไปครั้งนี้ กว่าจะกลับมาต้องใช้เวลาอีกสองสามเดือนเสียอีก”
“พี่หยางเหมย พวกข้าคิดถึงท่าน”
“อันธพาลตัวน้อย เจ้าคิดถึงข้าหรือคิดถึงเนื้อที่ข้านำมากันแน่”
“คิดถึงทั้งสองอย่างเลย”
“ดูสิว่าพี่หยางเหมยเอาอะไรมา มีถังหูหลูที่เจ้าชอบ ตุ๊กตาดินเผาตัวโปรดของเจ้า แล้วก็......ว่าว ฮ่าฮ่า พรุ่งนี้พี่หยางเหมยพาพวกเจ้าไปเล่นว่าวดีไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...