“และยังมีฝูกวงกับลั่วอิ่ง เพื่อปกป้องราชบัลลังก์ของเจ้า พวกเขาต่อสู้โดยไม่สนชีวิต หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากพวกเขาสองคน หยางโม่คงไม่มีทางแย่งชิงราชบัลลังก์กลับมาให้เจ้าได้”
กู้ชูหน่วนสำลักและถามออกมา “แล้วเสี่ยวหยุนเฟยอยู่ที่ไหน?”
“เจ้าพูดถึงเฉินเฟยใช่หรือไม่ เขา......เขาไม่เสียใจที่ได้ช่วยชีวิตเจ้า”
แม้รู้ว่าอี้หยุนเฟยไม่อาจมีชีวิตอยู่
แต่กู้ชูหน่วนก็ยังคงทนต่อความรู้สึกเจ็บปวดที่บาดลึกอยู่ในใจไม่ได้
“ศพของเขาอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ทางทางทิศตะวันออกของลานบ้าน ชีวิตของเฉินเฟยและหยุนเฟยขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนกัน น่าเสียดายที่สองพี่น้องไม่ได้พบเจอกันแม้กระทั่งตอนเสียชีวิต และการตายของพวกเขาก็น่าอนาถยิ่งนัก”
“ข้ากับไป๋เฉ่าได้ลองพูดคุยกันแล้ว จ้องการนำกระดูกของเขากลับไปยังดินแดนเยี่ยอวี่ ซึ่งเหมือนเป็นการนำเขากลับไปยังบ้านเกิด แต่พวกตาเฒ่าของกองทัพอี้เหล่านั้นไม่ยอม”
หลังจากผู้อาวุโสหกและผู้อาวุโสไป๋เฉ่าพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ กู้ชูหน่วนก็ไม่สามารถฟังมันต่อไปได้
นางลุกขึ้นเดินออกไปผลักประตู เพื่อต้องการออกไปหาเยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟย
“หัวหน้าเผ่า จิตวิญญาณของเจ้ายังไม่มั่นคง ร่างกายเองก็ยังคงบาดเจ็บสาหัส จะเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นอนพักเฉย ๆ เถิด”
กู้ชูหน่วนทำเป็นไม่ได้ยิน
เนื่องจากห้องของจอมมารนั้นอยู่ใกล้ห้องของนางเพียงแค่เอื้อม
แน่นอนว่ากู้ชูหน่วนจะต้องเข้าไปตรวจดูอาการบาดเจ็บของจอมารก่อน
ภาพที่นางเห็น ผมของจอมมารเป็นสีขาวซึ่งทำให้นางทรมานตาเป็นอย่างมาก
ในความทรงจำของนาง
จอมมารสวมชุดสีแดง ยืนยิ้มให้นางอย่างเย้ายวนอยู่ใต้ต้นไม้ มืออันเรียวยาวของเขาลูบผมหลังหูอย่างมีเสน่ห์ ทันใดนั้นเมื่อพบว่ามีเส้นผมสีขาวอยู่บนศีรษะ เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที นำกระจกขึ้นมาส่องว่ายังไม่เส้นผมสีขาวปะปนอยู่อีกหรือไม่ เพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้นก็ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีไปเป็นเวลาหลายเดือน
เขาเป็นคนที่หลงรักในความงาม ไม่สามารถทนต่อสิ่งสกปรกได้แม้เพียงน้อยนิด
แต่เวลานี้......
ผมสีดำของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว นอนอยู่บนเตียงอย่างไร้ชีวิตชีวา เป็นหรือตายก็ยังไม่รู้
กู้ชูหน่วนยื่นมืออันสั่นเทาของนางออกไปสัมผัสกับเส้นผมของเขา
ความทรงจำไหลมาอย่างเอ่อล้น
นั่นเป็นตอนที่อยู่ในเผ่าหยก หลังจากที่นางขุดหัวใจและฝังวิญญาณของตนเองแล้ว จอมมารก็คลุ้มคลั่ง พยายามอย่างสุดชีวิตในการพลิกชะตาสวรรค์เพื่อปกป้องดวงวิญญาณของนาง ยอมสละวรยุทธ์ของตนเอง รูปลักษณ์ รวมถึงสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อช่วยชีวิตของนางไว้
ดวงตากลายเป็นสีแดง กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าตนเองควรตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของจอมมารเช่นไร
สิ่งที่ทำให้นางทุกข์ทรมานที่สุดก็คือ หน้าตาอันหล่อเหลาดุจเทพบุตรของจอมมาร เวลานี้เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอย สภาพของมันแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ดูรุนแรงและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
รวมถึงมือและร่างกายของเขา ทุกส่วนถูกไฟคลอกอย่างรุนแรง
แม้จะทำการรักษาบาดแผลเบื้องต้นไปแล้ว แต่มันก็ยังเป็นรอยแดงและบวมจนน่ากลัว
ไม่ต้องพูดถึงแผลพุพองขนาดใหญ่และเล็กทั่วร่างกายของเขา แค่ผิวหนังและเลือดเนื้อที่ถูกไฟคลอกจนหดตัวเข้ามารวมกัน ทั้งหมดเป็นผิวหนังและกล้ามเนื้อตาย หมดหนทางในการรักษา
กู้ชูหน่วนนำมือขึ้นมาปิดปากของตัวเอง พยายามอย่างสุดชีวิตในการกลั้นน้ำตาเอาไว้
นางคิดไม่ถึงว่าจอมมารจะต้องทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้
และไม่กล้าคิดว่าคนที่งดงามอย่างเขา จะยอมสละโฉมงามของตนเองเพื่อช่วยชีวิตนาง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขารักนางมากแค่ไหน
นางรู้สึกว่าเวลานี้หัวใจของนางมีเลือดไหลออกมา
ด้วยบาดแผลที่รุนแรงถึงเพียงนี้ ต่อให้นางมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงใด นางก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มรักษาจากตรงไหนก่อน
และไม่รู้ว่าตนเองมีความสามารถที่จะรักษารูปลักษณ์อันหล่อเหลาบนใบหน้าของเขาให้กลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่
“ปัง......”
ประตูถูกเปิดออก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าและผู้อาวุโสหกเดินเข้ามา มองกู้ชูหน่วนด้วยความตื่นตระหนก
“อาหน่วน......จอมมาร......จอมมารบอกว่าไม่อยากให้เจ้าเห็นใบหน้าของเขา......”
“หัวหน้าเผ่า ข้าได้ใช้ยารักษาที่ดีที่สุดกับเขาแล้ว และยังมอบยาแก้ปวดให้กับเขาด้วย แต่จอมมารเขา......”
ไป๋เฉ่าไม่ได้พูดออกมา
บาดแผลไฟไหม้ที่รุนแรงถึงเพียงนี้
ต่อให้สรรพคุณของยานั้นดีแค่ไหนมันก็ไม่สามารถระงับความเจ็บปวดของเขาได้
ในฐานะหมอคนหนึ่ง เขาเองก็เข้าใจว่าผิวหนังของจอมมารถูกทำลายไปแล้ว
นั่นมันเป็นบาดแผลที่ได้จากลาวา เขาเอาชีวิตรอดกลับมาได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
แม้ว่า......
แม้ว่าจะถูกลาวาคลอกคนหมดสภาพและไม่เหลือชิ้นดี......
กู้ชูหน่วนกัดฟันแน่น กลืนน้ำตาของตนเองกลับไป นำกล่องยาและเข็มเงินออกมาจากวงแหวนอวกาศ และใช้เข็มเงินจิ่มลงไปบนแผลพุพองบนร่างกายของจอมมารก่อน
“หัวหน้าเผ่า อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป หากจัดการกับแผลพุพองของเขา เป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้ติดเชื้อและเกิดการอักเสบได้”
กู้ชูหน่วนรักษาแผลพุพองไปพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ขอแค่รักษาได้ดีก็ไม่มีทางเกิดการอักเสบขึ้นเป็นแน่ อาม่อเป็นผู้หลงใหลในความงาม จัดการกับแผลพุพองของเขาก่อน โอกาสที่จะทำให้ผิวหนังของเขากลับมาเป็นสภาพเดิมได้ก็สูงขึ้น อาม่อเป็นคนรักในความงดงามอย่างสุดหัวใจ”
ผู้อาวุโสหกแทบจะร้องไห้ออกมา “อาหน่วน......”
หัวใจของผู้อาวุโสไป๋เฉ่าเจ็บปวดเจียนตาย “หัวหน้าเผ่า ท่านเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ไม่ควรจะต้องมาเหนื่อยแบบนี้ ข้าจะเป็นคนจัดการแผลบนร่างกายของจอมมารเอง”
“เจ้ารับมือกับมันไม่ไหว ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ รอยแผลที่ทิ้งไว้ก็ยิ่งกว้าง หากเจ้าอยากจะช่วย เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยให้คนไปนำน้าสะอาดมาให้ข้าสักสองสามอ่าง และคอยเป็นลูกมือของข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...