จักรพรรดิฉู่สะดุดล้ม คลื่นพลังอันรุนแรงทำให้เขาหายใจไม่ออก
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง......
ฉินหิมะและมั่วฉินปะทะกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ
เสียงแห่งการสังหารดังสะท้อนอย่างไม่รู้จบ
ไม่ว่าเสียงแห่งการสังหารนี้จะผ่านไปที่ใด มันทำลายทุกสิ่งอย่างจนสิ้นซาก ต้นไม้พันปีขาดเป็นสองท่อน ก้อนหินแตกสลาย แม้แต่พระราชวังเองก็ถูกทำลาย
เสียงฉินทั้งสองประสานกันได้อย่างลงตัว ไพเราะและนุ่มนวล ดังก้องกังวานไปทั่ว
แต่พลังของพวกมันเพียงพอที่จะทำลายสวรรค์และโลก
นี่คือการต่อสู้อันยิ่งใหญ่
ฉินหิมะไม่อาจเอาชนะมั่วฉินได้
แต่อย่างไรก็ตาม จากความช่วยเหลือสนับสนุนจากกู้ชูหน่วน มั่วฉินได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่อาจหักล้างพลังทำลายของฉินหิมะได้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น มันกลับถูกกู้ชูหน่วนกดดันอยู่หลายครั้งจนเกือบจะต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้
กู้ชูหน่วนลงมืออย่างไร้ความเมตตา
ใส่พลังเต็มที่ทุกการโจมตี
เขาเองก็ใช้กระบวนท่าอันแข็งแกร่ง พวกเขาทั้งสามมีสิทธิ์ที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่ากันทุกคน
และอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
เขาไม่อยากที่จะลงมือสังหารกู้ชูหน่วน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงพ่ายแพ้ และถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยกู้ชูหน่วน
“ควับ......”
เยี่ยเฟิงกระอักเลือดออกมาจากปาก อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
การต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ด้วยกัน สมาธิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
เนื่องจากการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว คลื่นเสียงแห่งการสังหารของเหวินเส่าอี๋ก็สามารถทวีความรุนแรงได้เป็นอย่างมาก
การโจมตีเหี้ยมโหดและรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เยี่ยเฟิงกับมั่วฉินของเขาก็ยังไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ของการต่อสู้ได้
เลือดไหลไปทั่วเสื้อผ้าสีขาวสีหิมะของเขา
มันคือบาดแผลที่เกิดจากฉิน
และเป็นบาดแผลที่เกิดจากเสียงแห่งการสังหารด้วยเช่นกัน
ขนาดก้อนหินขนาดใหญ่ยังถูกทำลายได้ในทันที นับประสาอะไรกับร่างกายของมนุษย์
เยี่ยเฟิงได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง มั่วฉินกระเด็นออกไป และเขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เป็นเวลานาน
ในตอนนั้น กู้ชูหน่วนพุ่งผ่านอากาศเข้ามาพร้อมกับดาบในมือของนาง
เยี่ยเฟิงจ้องมองดาบแห่งความตายในมือของนางด้วยแววตาอันเศร้าโศก
เขาอยากจะโจมตีสวนกลับ
แต่เขาก็ไร้พลังที่จะทำเช่นนั้น
เขาทำได้เพียงจ้องมองดาบที่กำลังพุ่งเข้ามา
ในตอนนี้หัวใจของเขาแหลกสลายโดยสมบูรณ์
มันเป็นดาบอันเหี้ยมโหด
มันคือดาบที่ทำลายความรู้สึกยิ่งนัก
เขาคิดว่าเขาคงต้องตายด้วยเนื้อมือของนาง
เยี่ยเฟิงหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
“ควับ......”
ความเจ็บปวดที่คิดเอาไว้ไม่ได้หลั่งไหลเข้ามาอย่างที่คิด
มีเพียงเสียงแห่งความหดหู่อันแสนคุ้นเคย
เยี่ยเฟิงลืมตาขึ้น เห็นร่างของจักรพรรดิฉู่ที่มาขวางอยู่ด้านหน้าของเขา
ดาบนั้นทะลุผ่านหัวใจของเขา
รูม่านตาของเยี่ยเฟิงเบิกกว้าง มองไปที่จักรพรรดิฉู่อย่างไม่อาจช่วยอะไรได้
“ฝ่าบาท......”
เหล่าองครักษ์แห่งรัฐฉู่ต่างพากันคุกเข่าและส่งเสียงร้องออกมา
พวกเขาไม่อยากเชื่อ ไม่อยากเชื่อว่าจักรพรรดิของพวกเขาจะถูกดาบแทงทะลุเข้าที่หัวใจ
ไม่ง่ายเลยกว่าที่พวกเขาจะได้จักรพรรดิองค์นี้ขึ้นมาปกครอง
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของจักรพรรดิฉู่ ดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัว จ้องมาที่กู้ชูหน่วนด้วยสายตาอ้อนวอนราวกับขอทาน
“อย่า......อย่าฆ่าเขา......”
กู้ชูหน่วนตะลึงงัน
ราวกับนางเองก็คิดไม่ถึงว่าจักรพรรดิฉู่จะเข้ามาขวางและรับดาบแทนเยี่ยเฟิงเช่นนี้
และดาบที่นางแทงเข้าไป ตอนนี้มันไม่ใช่ดาบของนางอีกต่อไป
นางไม่สามารถดึงมันออกมาได้
นางทำได้เพียงแค่ปล่อยมือ
“เจ้าทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร”
“เยี่ยเฟิงเขา......เขาน่าสงสาร......เจ้าคือคนที่เขารู้สึกใกล้ชิดที่สุด......ในโลกใบนี้ หากเจ้าหันหลังให้กับเขา เช่นนั้นเขา......เขา......เขาก็จะไม่เหลือใครอีกต่อไปแล้ว”
คำพูดแต่ละพยางค์ที่ออกมาจากปากของจักรพรรดิฉู่ มันเหมือนกับเขาใช้พลังทั้งหมดที่มี
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
“จักรพรรดิฉู่......”
เยี่ยเฟิงกอดร่างของเขาไว้ ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง ถ่ายทอดพลังภายในทั้งหมดที่ตนเองมีเข้าไปยังร่างกายของเขา
จักรพรรดิฉู่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง “อย่า......อย่าเปลืองแรงเลย ดาบนี้พุ่งเข้าสู่หัวใจของข้า ใครก็ไม่สามารถช่วยข้าได้ทั้งนั้น”
“เจ้าหยุดพูดได้แล้ว ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าตาย เอือก......”
เยี่ยเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาเองก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป กระอักเลือดออกมา
กู้ชูหน่วนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ถ่ายทอดพลังภายในของนางเข้าไปในร่างกายของเขา จากนั้นก็มอบยาเม็ดหนึ่งให้กับจักรพรรดิฉู่
จักรพรรดิฉู่ปฏิเสธ จ้องมองกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่น่าสงสาร
เยี่ยเฟิงบาดเจ็บเจียนตาย ตามเหตุผลแล้ว ไม่มีใครในรัฐฉู่ที่สามารถรับมือกับเหวินเส่าอี๋ได้
แต่ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงในชุดสีแดงคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนอากาศ
ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเยี่ยเฟิง แม้ว่าอายุของนางไม่มาก แต่พลังการต่อสู้ของนางสูงส่งจนน่าประหลาดใจ
เมื่อเข้าต่อสู้กับเหวินเส่าอี๋ ความแตกต่างของพลังก็ไม่ได้ชัดเจนมากนัก
นางเห็นสภาพที่น่าสังเวชของเยี่ยเฟิงพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “กล้าทำให้นายท่านของข้าได้รับบาดเจ็บ ข้าจะสังหารเจ้า”
กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองมาที่ผู้หญิงในชุดสีแดงผู้นั้น
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหวินเส่าอี๋
แต่กองทัพแห่งรัฐฉู่มาถึงที่นี่แล้ว เหวินเส่าอี๋ไม่อาจสังหารเยี่ยเฟิงได้สำเร็จ
นางยิ้มอย่างเศร้าหมอง หันหลังและจากไป
นางยื่นมือออกมาเพื่อเป่าปากหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของนางจำนวนมากก็ปรากฏออกมาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของนาง
“คารวะหัวหน้าเผ่า”
“ไปตรวจสอบ ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินของรัฐฉู่ ก็ต้องตามหาตัวจอมมารให้พบ”
“ขอรับ”
“หากหาตัวจอมมารไม่พบ เช่นนั้นก็จงทำลายรัฐฉู่”
ร่างกายของทุกคนสั่นไหวอย่างรุนแรง
จากนั้นก็รับคำสั่งอย่างเคร่งครัด
วันนี้คือค่ำคืนที่ไม่อาจหลับตาลง
ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยเฟิงหรือพวกของกู้ชูหน่วนก็ตาม
ไม่มีใครข่มตาลงได้ทั้งนั้น
เนื่องจากพวกเขาต่างสูญเสียคนที่รักที่สุดไป
เพียงพริบตา เวลาได้พ้นผ่านไปหลายวัน
จักรพรรดิฉู่จากไปอย่างสงบ แต่เยี่ยเฟิงยังคงขังตัวเองไว้ในสุสานจักรพรรดิ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมออกมา
เหล่าขุนนางเล็กใหญ่คุกเข่าอยู่ด้านนอกสุสานจักรพรรดิพร้อมกับร่วมกันตะโกนออกมา
“ประเทศไม่อาจขาดผู้นำได้ ข้าขอให้เจ้าชายขึ้นครองราชย์บัลลังก์จากใจจริง และปกครองรัฐฉู่อย่างเป็นธรรม”
“ขอให้เจ้าชายขึ้นครองราชย์บัลลังก์จากใจจริง และปกครองรัฐฉู่อย่างเป็นธรรม”
เยี่ยเฟิงมองไปที่รูปเหมือนของกู้ชูหน่วน เขาจมอยู่กับความติด และไม่รู้เหมือนกันว่าเขาได้ยินเสียงของผู้คนที่ดังขึ้นมาจากด้านนอกหรือไม่
หงซิ่วรออยู่ที่ประตู ดวงตาฉายแววไปด้วยความโศกเศร้า
นางเติบโตมาพร้อมกับฝูงหมาป่าด้านล่างของหน้าผา ไม่รู้ว่าตนเองเป็นใคร และไม่รู้ว่าความแตกต่างของหมาป่ากับมนุษย์นั้นคืออะไร
จนกระทั่งนางหลงทาง และไปรู้จักกับเยี่ยเฟิงที่ด้านล่างของหน้าผาโดยบังเอิญ
เยี่ยเฟิงสอนให้นางอ่านและเขียน รวมถึงสอนมารยาทให้นาง
นั่นเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเยี่ยเฟิง
เขาถูกเซียนอู๋เฉินกลั่นแกล้งด้วยวิธีการใดบ้าง เขาคิดถึงและโหยหากู้ชูหน่วนมากเพียงใด คิดถึงจักรพรรดิและจักรพรรดินีฉู่ เขาต้องอดทนไปเรื่อย ๆ จนมีทุกวันนี้ เรื่องราวทั้งหมดนางได้เห็นและรับรู้เป็นอย่างดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...