ตอนนั้นหากไม่ได้ความช่วยเหลือของนางกับหมาป่าหิมะ เยี่ยเฟิงจะหนีออกมาจากหน้าผาส่วนลึกแห่งทะเลโลหิตได้อย่างไร
หลายปีที่ผ่านมานี้ เยี่ยเฟิงตามหาและเฝ้ารอนางมาโดยตลอด
นางคิดว่าหลังจากที่ได้เจอกันครั้งนี้ พี่ชายเยี่ยเฟิงจะต้องมีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้......
คิดถึงสิ่งที่เยี่ยเฟิงเคยทุ่มเทและเสียสละให้กับนาง หัวใจของหงซิ่วลุกเป็นไฟ หันหลังและต้องการไปหากู้ชูหน่วนเพื่อทำการแก้แค้น
“เอี๊ยด......”
ประตูใหญ่ถูกเปิดออก เยี่ยเฟิงเดินออกมาจากด้านใน
ร่างกายของเขาผอมแห้ง ใบหน้าของเขาซีดขาว ดวงตาไร้ซึ่งความสดใส มีสีแดงของเลือดกองอยู่ที่ตรงขอบตา
แต่ถึงอย่างไรรูปลักษณ์และหน้าตาของเขาก็ยังคงเป็นที่น่าอิจฉาของชายในโลก
ร่างกายที่เหมือนกับเทพเซียน แม้ว่าจะผอมแห้งลงไปเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังเป็นที่น่าดึงดูด ทำให้คงหลงใหลได้อย่างไม่หยุดพัก
หงซิ่วพูดออกมาด้วยความดีใจ “พี่เยี่ยเฟิง”
เหล่าขุนนางและเสนาบดีต่างตื่นเต้นขึ้นมาทันใด ก้มหน้าลงกับพื้นอย่างต่อเนื่อง
“องค์ชายใหญ่ นอกจากท่านแล้ว ไม่มีผู้ใดในรัฐฉู่ที่มีสายเลือดแห่งราชวงศ์เช่นเดียวกันกับองค์ชายรอง ขอให้ท่านเห็นแก่ราษฎรของรัฐฉู่ ขึ้นครองราชย์บัลลังก์ด้วยเถิด”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายรองเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่มีใครรู้ จักรพรรดิพระองค์ก่อนยังเยาว์วัย......หากท่านยังไม่สนใจรัฐฉู่ รากฐานของรัฐฉู่ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นานก็จะล่มสลายลงอีกครั้ง และราษฎรแห่งรัฐฉู่จะต้องเผชิญกับความเดือดร้อน”
“องค์ชายใหญ่ ท่านกรุณาได้โปรดขึ้นครองราชย์บัลลังก์”
ทุกคนต่างตะโกนออกมา เสียงของพวกเขาดังกึกก้องจนได้ยินไปไกลแสนไกล
หงซิ่วพูดออกมาด้วยความเห็นชอบ “พี่เยี่ยเฟิง ข้าว่าท่านขึ้นครองราชย์บัลลังก์เสียเถิด อย่างไรเสียนี่ก็เป็นบัลลังก์ที่เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของท่านเป็นคนทิ้งไว้ให้”
เยี่ยเฟิงหันไปมอง ด้วยใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดาและคล้ายกับกู้ชูหน่วนของนางทำให้สติของเขาหลุดลอย
“พี่เยี่ยเฟิง ท่านได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่?”
“เช่นนั้นเจ้าเป็นจักรพรรดินี ข้าอยากให้เจ้าเป็นจักรพรรดินี”
เยี่ยเฟิงเก็บสายตาของเขา เจ้ามองมาที่เหล่าข้าราชบริวาร และกล่าวออกมาอย่างชัดเจน
“เสด็จพ่อทำงานหนักเพื่อแผ่นดินและราษฎรมาทั้งชีวิต เวลานี้เสด็จพ่อได้จากไปแล้ว ในฐานะที่ข้าเป็นลูกชายของเขา ข้าจะรับหน้าที่ดูแลรัฐฉู่ต่อไป สำหรับราชย์บัลลังก์นี้ ข้าจะรับมันไว้ด้วยตัวเอง”
ทุกคนต่างดีใจและส่งเสียงร้องออกมา
“ขอฝ่าบาททรงมีอายุยืน หมื่นปี หมื่น หมื่นปี”
“พี่เยี่ยเฟิง ในที่สุดท่านก็จะได้เป็นจักรพรรดิแล้ว ซิ่วเอ๋อร์ชอบมากเลยที่ท่านจะได้เป็นจักรพรรดิ”
“ข้าเป็นเพียงจักรพรรดิชั่วคราว เมื่อลั่วอิ่งกลับมา ขอแค่เขาต้องการ ตำแหน่งจักรพรรดินี้ข้าก็พร้อมจะมอบให้เขาทุกเมื่อ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหงซิ่วแข็งทื่อ
ในหน้าผาส่วนลึกของทะเลโลหิต
เขาอดทนและพยายามที่จะมีลมหายใจต่อไป ทั้งหมดก็เพื่อคิดจะกลับมาตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ และติดตามกู้ชูหน่วนไปชั่วชีวิต
แต่สิ่งที่รอเขาอยู่มีเพียงหลุดศพของคนทั้งสองเท่านั้น
และกู้ชูหน่วนที่เขารอมาโดยตลอดก็แทงเข้าด้วยดาบที่ไร้ซึ่งความรู้สึก
ดาบนั้น หากไม่ใช่เพราะอาเฮา เขาคงได้ไปพบกับยมบาลตั้งนานแล้วใช่ไหม?
เพราะอะไร......
เพราะอะไรนางถึงไม่เชื่อเขา
เพราะอะไรนางถึงไม่ถามเขาออกมาบ้าง
หากนางถามเขาออกมามากกว่านี้ ไม่แน่......เขาอาจจะพูดออกมาทั้งหมด
“รายงาน......เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว จอมมารถูกชิงตัวไปแล้ว”
หงซิ่วโกรธมาก “ยังจะมัวงงอะไรกันอยู่ รีบตามไปเร็วเข้า”
เยี่ยเฟิงกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย “ไม่จำเป็นแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...