หัวหน้าสำนักศึกษาล้มลงบนกองเลือด ดวงตาทั้งสองของเขาเบิกกว้างราวกับรู้ความลับสำคัญบางอย่าง เขานอนตายตาไม่หลับ เพราะถูกมีดแทงเข้าบนคอ
จากที่ดู หอเก็บสะสมตำราแล้วไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใด ๆ หากเดาไม่ผิด คาดว่าเป็นฝีมือของผู้ที่ไว้วางใจหรือผู้ที่มิอาจระวังได้เลย
อาจารย์หรงตะโกน “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่มีคนเฝ้าเวรหอเก็บสะสมตำราเลยอย่างนั้นรึ? วิทยายุทธของหัวหน้าสำนักศึกษายอดเยี่ยมเพียงนั้น จะถูกแทงด้วยมีดง่าย ๆ เช่นนั้นได้อย่างไร”
คนใช้ที่เฝ้าหอเก็บสะสมตำราขาสั่นพร้อมกับกล่าวว่า “ทูล…ทูลอาจารย์หรงพ่ะย่ะค่ะ หลังจากที่หัวหน้าสำนักมาที่หอเก็บสะสมตำราแล้ว ท่านบอกยิ่งค่ำหมอกยิ่งหนา ให้พวกข้ามิต้องเฝ้าเวร ให้กลับไปพักผ่อนเสีย พวกข้า…พวกข้าเลยกลับไปพ่ะย่ะค่ะ”
“เลอะเลือนไปหมดแล้ว หัวหน้าสำนักให้พวกเจ้ากลับ พวกเจ้าก็กลับเลยงั้นหรือ? พวกเจ้าไม่รู้จักเฝ้าอยู่ห่าง ๆ อย่างนั้นรึ”
เห็นว่าอาจารย์หรงพิโรธ อาจารย์สวีก็กล่าวเสริม “จิตใจหัวหน้าสำนักนั้นดีงาม แต่ก่อนแต่ไรท่านก็มักสั่งให้คนใช้ที่เฝ้าเวรกลับไปพักผ่อนเสียก่อน ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ ท่านเองก็อย่าโทษพวกเขาเลย”
หลังจากที่ท่านอาจารย์ซั่งกวนนำศพของหัวหน้าสำนักศึกษาไปตรวจสอบก็ถามอย่างเคร่งขรึม
“เกิดอันใดขึ้นเมื่อครู่ บอกข้ามาให้หมด ห้ามเหลือแม้แต่นิดเดียว”
“พ่ะย่ะค่ะ…ช่วงเวลาพลบค่ำ เยี่ยเฟิงได้เข้าไปหอเก็บสะสมตำรา บอกว่าคืนนี้หัวหน้าสำนักเรียกมาพบที่หอเก็บสะสมตำรา พอช่วงค่ำหัวหน้าสำนักศึกษาก็มาถึงหอเก็บสะสมตำราและให้พวกข้ากลับไปพักผ่อนเสีย แต่เพราะเหตุการณ์ลอบสังหารคุณหนูสามตระกูลกู้ พวกข้าจึงมิกล้ากลับไปพ่ะย่ะค่ะ เพียงแค่จะนัดกันไปปลดทุกข์ที่กระท่อมเท่านั้น พอกลับมาก็ได้ยินเสียงทะเลาะดังออกมาจากหอเก็บสะสมตำราพ่ะย่ะค่ะ จากนั้น พวกข้าก็เห็นเยี่ยเฟิงหนีออกไปทางหน้าต่าง ฝีเท้าของเยี่ยเฟิงรวดเร็วราวกับวิญญาณ ทั้งสีหน้าของเขาก็ดูเย็นชามาก มากเสียจนพวกข้าคิดว่าเจอผีเข้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“หลังจากนั้น หอเก็บสะสมตำราก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ พวกข้าเองก็มิรู้ว่าหัวหน้าสำนักกลับไปหรือยัง แต่ก็รวบรวมความกล้าเปิดประตูเข้าไป มิอาจคาดคิด…มิอาจคาดคิดว่าท่านหัวหน้าสำนักจะนอนอยู๋บนกองเลือด และถูกแทงเข้าที่คอด้วยมีดเช่นนั้น ฮือ ๆ…”
อาจารย์หรงเตะเขาล้มลงโดยตรง “ไปปลดทุกข์แค่นี้ พวกเจ้ายังต้องนัดกันด้วยอย่างนั้นรึ? เช่นนั้น พวกเจ้าจะนัดกันไปตายหรือไม่”
“อาจารย์หรง พวกข้าสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
อาจารย์สวีห้ามอาจารย์หรงไว้ “ดูท่านสิ แก่ปานนี้แล้ว นิสัยใจคอยังคงโหดร้ายเช่นนี้”
“หัวหน้าสำนักศึกษาถูกฆ่า ข้าจะไม่โหดร้ายได้อย่างไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...