ฝูกวงพลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นพุลโปร่งใสก็ดีดตัวขึ้นไปในอากาศและเป็นประกายวาบอยู่บนนั้น
พลุไร้สีไร้กลิ่น ไม่มีให้เห็นแม้แต่ช่วงเวลาที่ระเบิดออก นี่คือสัญญาณขอความช่วยเหลือระดับสูงสุดของนิกายเทพอสูร และคนของนิกายเทพอสูรที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ จะรีบมาช่วยเหลือทันที
ฝูกวงหัวเราะเยาะ
ถ้าคิดจะฆ่าผู้นำนิกายของพวกเขาก็มีแต่จะต้องข้ามศพพวกเขาชาวนิกายเทพอสูรทั้งหมดเสียก่อน
“อวดดี วันนี้ข้าจะเอาชีวิตของเจ้าเป็นคนแรก”
ตูม!
พลังอันมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมาอย่างฉับพลัน เหล่าภิกษุที่อยู่ใกล้ๆ พากันคุกเข่าลงบนพื้น บ้างก็ถูกลมพัดออกไปทันที
จิตสังหารแผ่ออกมาเป็นวงกว้างและม้วนตัวเข้าหากู้ชูหน่วน
ฝูกวงชักดาบคู่ออกมาและรวบรวมกำลังภายในเข้ากับดาบทั้งสอง เตรียมพร้อมพุ่งตรงเข้าไปกำจัดเป้าหมายด้วยกำลังภายในของเขา
กู้ชูหน่วนส่งเสียงฮึเบาๆ และยิ้มอย่างไม่แยแส นางเผชิญหน้ากับความตายและไม่คิดจะถอยกลับแม้แต่ก้าวเดียว สองมือที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกพิษรอที่จะฉวยโอกาสตอบโต้
ตูม!
จิตสังหารแห่งความตายถูกพัดพาหายไปจนสิ้นก่อนจะมาถึงตัวกู้ชูหน่วน
ไม่ไกลจากตรงนั้น เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูเอาแต่ใจและยากจะขัดขืนดังขึ้นมาอย่างเนิบช้า
“ใครกล้าฆ่าว่าที่เจ้าสาวของข้า”
ทุกคนเงยหน้ามองและเห็นชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยค่อยๆ เข็นรถเข็นเข้ามา
บุรุษบนรถเข็นสวมหน้ากากผีเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง มีริมฝีปากบางที่ปรากฏให้เห็นในสายตา ร่องรอยระหว่างริมฝีปากแสดงให้เห็นถึงความไม่แยแส ดวงตาเต็มไปด้วยความเฉียบแหลม เย็นชา ราวกับเป็นหลุมลึกที่ไร้ก้นบึ้ง ไม่มีใครมองออกหรือเดาได้เลยว่าแท้จริงแล้วบุรุษผู้นั้นเป็นคนแบบไหน
เขามีเรือนร่างที่งดงาม แต่งกายด้วยอาภรณ์สีม่วงซึ่งดูหรูหรา เข็มขัดหยกปีกกว้างที่อยู่รอบเอวยิ่งขับให้รูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเขาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
ทั้งที่นั่งอยู่ตรงนั้น บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโอหังยังแผ่ออกมาจากตัวเขาจนทำให้ทุกคนไม่กล้าประมาท
ราวกับว่าเขากำลังยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก สูงส่งจนคนอื่นมิอาจเข้าถึง
“เทพแห่งสงครามเยี่ยจิ่งหาน” ผู้นำกองธงกล้วยไม้ค่อยๆ พ่นคำพูดออกมาและดูแปลกใจเล็กน้อยกับการมาถึงของเขา
เยี่ยเฟิงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าเสื้อผ้าของเขาเปียกชื้นไปทั้งหลัง
เทพแห่งสงครามอยู่นี่แล้ว
เพียงเท่านี้กู้ชูหน่วนและอัครมเหสีฉู่ก็จะปลอดภัย
“ไม่คิดเลยว่าเทพแห่งสงครามผู้มีชื่อเสียงไปทั่วหล้าจะเป็นพวกที่ชอบถือหางพวกตัวเอง”
“ไม่ให้ข้าปกป้องภรรยา เช่นนั้นจะให้ข้าปกป้องเจ้างั้นหรือ” เยี่ยจิ่งหานมองเหมือนเขาเป็นพวกปัญญาอ่อน
และคำพูดประโยคนี้ทำให้สถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
เพียงแต่คราวนี้ผู้นำกองธงกล้วยไม้กังวลขึ้นเล็กน้อย
เทพแห่งสงครามเยี่ยจิ่งหาน ยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับหก เล่าลือกันว่าเขาก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดได้ด้วยขาเพียงข้างเดียว ขอเพียงแค่ต้องการจะบุกทะลวงเขาย่อมทำได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้... ระดับเจ็ดยังเป็นระดับสูงสุดของทักษะในการต่อสู้
แม้ว่าขาของเขาจะพิการทั้งสองข้าง แต่ศิลปะการต่อสู้ของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม
นอกจากยังมีชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยอีกสองคนที่เป็นยอดฝีมือระดับสี่
ทั้งยังมี... ฝูกวง
ไอ้บ้าซึ่งเป็นผู้คอยอารักขาใกล้ชิดของผู้นำนิกายเทพอสูร
ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาไม่มีทางได้เปรียบในการต่อสู้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...