กู้ชูหน่วนตกตะลึงพรึงเพริด
"เจ้าโดนมังกรไฟทำร้ายหรือ?"
การเคลื่อนไหวของประมุขชิงแปรเปลี่ยน ใช้ทั้งแขนและขาในการปีนป่ายไปด้านบนอย่างยากลำบาก พลางพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า "ไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น"
บาดเจ็บเล็กน้อย? อันนี้เรียกว่าบาดเจ็บเล็กน้อย?
"เจ้าวางข้าลง ข้าขึ้นไปเองได้ เจ้าบาดเจ็บสาหัส ถ้ายังแบกข้าอยู่อย่างนี้ พวกเราจะขึ้นไปไม่ได้ทั้งคู่"
"นังโง่ ข้าบอกว่าจะพาเจ้าไป ข้าก็ต้องทำให้ได้อยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องกลัว ถ้าเหนื่อยก็นอนซะ ประเดี๋ยวตื่นขึ้นมาพวกเราก็ขึ้นไปถึงแล้ว"
ประมุขชิงพูดเหมือนเป็นเรื่องง่าย ทว่ากู้ชูหน่วนรับรู้ว่า เขาค่อย ๆ อ่อนแรงมากขึ้น ซึ่งแสดงว่าถึงขีดความพยายามสูงสุดแล้ว
เบ้าตากู้ชูหน่วนแดงก่ำ นางยื่นมือดึงหน้ากากของเขาออก พลางเผยใบหน้าอันคุ้นเคย
คืออี้เฉินเฟย......
เป็นเขาจริง ๆ ด้วย......
ความงามของใบหน้าอี้เฉินเฟยอยู่ในลำดับต้น ๆ ของใต้หล้า โครงหน้าเขาเด่นชัด อ่อนโยนและสง่าผ่าเผย คิ้วงามพริ้ง สีหน้าราวกับจันทราในวันไหว้พระจันทร์ แม้นจะได้ยลโฉมระยะไกลปราดเดียว ทว่าก็ชวนให้หลงใหลยิ่งนัก
"แม่หนู เจ้าเลวเกินไปแล้ว มาดึงหน้ากากข้าออกตอนนี้กลัวว่าข้าจะทิ้งเจ้าไปหรือไร?"
"พี่เฉินเฟย ไยเจ้าจึงดีกับข้านัก?"
"เจ้าเรียกข้าว่าพี่ พี่ย่อมต้องปกป้องน้องสาว เป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่นะ เจ้าหลับตานอนเลย"
"กึก......"
ถวัลย์สายหนึ่งขาดลุ่ยอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา
และเส้นที่ขาดคือเส้นที่ผูกตัวกู้ชูหน่วนไว้
อี้เฉินเฟยขมวดคิ้ว ไม่ว่าร่างกายจะรู้สึกปวดปานใด ทว่าก็ยังคงปีนขึ้นไปเรื่อย ๆ
แผ่นหินลื่นมาก ทั้งยังมีอุณหภูมิสูงอีกต่างหาก สองฝ่ามือของเขาเสียดสีจนเป็นตุ่ม ทั้งยังร้อนจนแดงชาด ทว่าอี้เฉินเฟยหากได้ใส่ใจไม่ เขาจดจ่อกับการพากู้ชูหน่วนออกไปอย่างปลอดภัยเท่านั้น
"กึก......"
ถวัลย์รับน้ำหนักสองคนไม่ไหว ถวัลย์บนกายกู้ชูหน่วนขาดอีกหนึ่งเส้น
ครั้งนี้รู้สึกร้อนรนใจกันทั้งสองคน
อี้เฉินเฟยแกะถวัลย์บนกายแล้วมัดให้กู้ชูหน่วนอย่างไม่ใคร่ครวญ
"เจ้าทำอะไร เจ้าไม่มัดตัวเองเช่นนี้ หากเกิดอันใดขึ้น งั้นกระทั่งศพของเจ้าคงรักษาไว้ไม่ได้"
กู้ชูหน่วนจับถวัลย์อีกเส้นมัดที่เอวเขาอย่างไม่รอความเห็นชอบจากอีกฝ่าย
"อาหน่วนเชื่อฟังหน่อย ขอแค่เจ้าปลอดภัย ไม่มีอันตรายกับข้าแน่นอน เจ้าเกาะหลังข้าดี ๆ อย่าขยับมั่วซั่วก็พอ"
ประมุขชิงกวาดสายตามองทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน เขาไม่กล้าจินตนาการเลย หากถวัลย์เส้นที่สามขาดอีก
เช่นนั้นกู้ชูหน่วนจะทำยังไง?
"รอดก็ต้องรอดด้วยกัน ตายก็ต้องตายด้วยกัน"
กู้ชูหน่วนมัดให้อีกฝ่ายอย่างเผด็จการ ไม่ยอมให้เขาคัดค้าน จากนั้นก็ขบฟันรวบรวมพลังแล้วพึ่งถวัลย์ปีนขึ้นไปต่อ
ผิวหน้าผาขรุขระมาก กอปรกับทะเลโลหิตเกิดคลื่นซัดเป็นระลอก พวกเขาสองคนจึงตกอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริง ๆ
หน้าผาสูงชันเกิดเสียงกะทันหัน
กู้ชูหน่วนคิดว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาเยือน ใบหน้าพลันเผยความดีใจ
ทว่าวินาทีที่นางเงยหน้ามอง ใบหน้าก็ต้องเขียว
ไม่ใช่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์
แต่เป็นงูเหลือมผิวขาวดำ ยาวห้าสิบเมตร ไม่รู้ว่าเป็นอสุรกายขั้นไหน ยามนี้กำลังแลบลิ้นอย่างไม่หวาดกลัวอุณหภูมิของหินหนืด แค่จ้องพวกเขาราวกับเหยื่อ ในทำนองที่ว่า สามารถโจมตีได้ตลอดเวลา
ประมุขชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส
นางก็เช่นกัน
และถวัลย์ก็ช่างล่อแหลม ยิ่งไปกว่านั้นตรงนี้ยังไม่มีที่ให้ยืนตัวตรงเลย
พวกกู้ชูหน่วนจึงกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันควัน
"ร่างกายข้ายังมีอาวุธลับ แค่หนอนตัวเดียวยังคิดจะสู้ข้าหรือ"
กู้ชูหน่วนข่มอารมณ์กลัวไว้ในใจ ระหว่างที่พูดก็หยิบอาวุธลับขึ้นมากลางอากาศ
ทว่ากลับได้ยินเสียงสั่นเทาของประมุขชิง "ไม่ใช่หนึ่งตัว แต่เยอะมาก"
"เยอะเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...