ผู้อาวุโสหกหยิบน้ำเต้าเหล้าขึ้นมาจากบริเวณเอว จากนั้นเปิดฝาและดื่มเข้าไป เขาค่อยๆ พูดขึ้นมา "พันปีก่อน เผ่าหยกเป็นรัฐๆ หนึ่ง ชื่อว่ารัฐอวี้ เผ่าเพลิงฟ้าก็เป็นรัฐๆ หนึ่ง ชื่อว่ารัฐเฉิน เดิมทีรัฐอวี้และรัฐเฉินเป็นรัฐที่กำหนดการอภิเษกสมรสกัน"
"รัฐที่กำหนดการอภิเษกสมรส?"
"ใช่ จักรพรรดิของรัฐอวี้ ตอนที่พระองค์ยังอยู่ในครรภ์ ก็ได้มีการกำหนดหมายหมั้นที่จะอภิเษกสมรสกับองค์หญิงของรัฐเฉินที่ยังอยู่ในครรภ์ องค์หญิงของรัฐเฉินเกิดความรักใคร่ชอบพอในจักรพรรดิรัฐอวี้ แต่จักรพรรดิรัฐอวี้ได้มีคนที่หมายปองไว้ก่อนแล้วและยอมสละตำแหน่งจักรพรรดิ แม้แต่ไม่เสียดายชีวิตของพระองค์เอง เพื่อที่จะแต่งงานกับหญิงสาวต่างรัฐ หวงเจินเจิน รัฐเฉินมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องเวทมนตร์คาถาอาคม องค์หญิงของรัฐเฉินทำการสังหารเสด็จพ่อและเสด็จพี่เพื่อขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีหญิงของรัฐเฉินและให้คนในรัฐเฉินทั้งหมดสังเวยชีวิต จากนั้นทำการร่ายคาถาอาคมคำสาปโลหิตที่ชั่วร้ายนี้กับทุกคนบนโลกใบนี้"
"ฉะนั้นจึงเป็นสาเหตุให้คนของรัฐอวี้ทั้งหมดต่างก็อยู่ภายใต้คำสาปโลหิต เป็นเวลาพันปีที่คนรุ่นหลังต้องทนทุกข์ทรมานจากคำสาปโลหิต เดิมทีรัฐอวี้เป็นรัฐที่แข็งแกร่งอย่างมาก แต่เพราะคำสาปโลหิตจึงทำให้ผู้คนในรัฐเริ่มลดลงไปจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงตอนนี้......เฮ้อ......"
กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "คนในรัฐเฉินทุกคนต้องสังเวยชีวิต? เช่นนั้นแล้วเผ่าเพลิงฟ้ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรหรือ?"
"นางปีศาจหญิงคนนั้นมีความฉลาดนัก และได้ทิ้งสายเลือดพวกพ้องเอาไว้ ฉะนั้นประชาชนของรัฐเฉินจึงไม่ได้ตายไปทั้งหมด"
เมื่อพูดถึงจักรพรรดินีรัฐเฉิน ทุกคนต่างพากันกัดฟันกรอดและอดไม่ได้ที่จะถลกหนังนางออกมา
กู้ชูหน่วนถอนหายใจ
เพราะความอิจฉาริษยา ทำให้ประชาชนทุกคนต้องตกเป็นเครื่องสังเวยชีวิต วิธีการช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน
"คนของรัฐอวี้ก็เป็นเพราะถูกคำสาปโลหิตจึงทำให้ประชากรลดลงอย่างมาก หลังจากนั้นอดีตจักรพรรดิเกรงว่ารัฐอื่นจะบุกเข้ามาโจมตีพวกเรา จึงได้พบสถานที่นี้ขึ้นมาและทำการร่ายมนตร์ม่านอาคมเอาไว้ อดีตจักรพรรดิของเรามีฝีมือวิทยายุทธสูงส่ง หลายพันปีมานี้ไม่มีผู้ใดสามารถทำลายม่านอาคมนี้ได้"
"แล้วหลังจากนั้นจักรพรรดินีรัฐเฉินเป็นอย่างไร ตายไปแล้วหรือยัง?"
"ถูกอดีตจักรพรรดิและอดีตฮองเฮาฆ่าตายไปเสียแล้ว แต่ว่า......คำสาปโลหิตนั้นนอกจากไข่มุกมังกรแล้ว กลับไม่มีสิ่งอื่นใดสามารถกำจัดได้เลย"
ผู้อาวุโสหกชะงักครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็มองไปที่ผู้อาวุโสสูง พูดด้วยน้ำเสียงขอร้องและอ้อนวอน "ผู้อาวุโสสูง ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านให้ข้าไปค้นหาไข่มุกมังกรแทนเจ้าสี่ดีหรือไม่ จมูกของข้าใช้งานได้ดีมาก เพียงแค่บริเวณใกล้เคียงมีไข่มุกมังกร ข้าก็สามารถได้กลิ่น"
"ไปเถอะ จมูกของเจ้านอกเสียจากกลิ่นเหล้าแล้ว เจ้ายังได้กลิ่นอะไรอีก ใครก็รู้เมื่อเจ้าได้กลิ่นเหล้า ขาของเจ้าก็อ่อนแรง หากให้เจ้าออกไปจัดการ ทุกคนในหมู่บ้านคงเป็นกังวลแย่"
"เจ้าสี่ เจ้าพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก ถึงอย่างไรเสียฝีมือการต่อสู้ของข้าก็เก่งกาจกว่าเจ้า อีกอย่างข้าก็ระมัดระวังมากกว่าเจ้า ก่อนหน้านี้เจ้าออกไปก็หลายครั้ง แม้แต่เงาของไข่มุกมังกรก็หาไม่เจอ ข้าออกไปเพียงครั้งเดียว แต่กลับพบเบาะแสของไข่มุกมังกรเม็ดที่สี่เข้า เรื่องนี้เจ้าคงไม่ปฏิเสธสินะ"
"เจ้า......"
ผู้อาวุโสสูงที่เงียบขรึมอยู่นานก็พูดขึ้นช้าๆ "เจ้าหกก็ออกไปค้นหาด้วยกันเถอะ"
"ขอบคุณท่านผู้อาวุโสสูงมาก"
ภายในเรือนไม้ไผ่ที่สง่างาม
กู้ชูหน่วนไปเยี่ยมอี้เฉินเฟย เดิมที่นางเพียงต้องการไปแอบดูเขาสักครู่และเดินออกมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอี้เฉินเฟยจะตื่นขึ้นมา
ใบหน้าของอี้เฉินเฟยซีดเซียว และผมสีขาวของเขาพราวพรายเป็นพิเศษในป่าไผ่อันเขียวชอุ่ม
แม้ว่าเขาจะอ่อนแอ แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างอบอุ่น มองไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความอ่อนโยนในดวงตาของเขา
"ท่านพี่เฉินเฟย ท่านตื่นตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดถึงไม่ส่งคนไปบอกข้าเสียหน่อย"
"ข้าเพิ่งตื่น"
น้ำเสียงของอี้เฉินเฟยอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง
เขาไม่ได้บอกนางว่าเขาฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
เมื่อคืนที่คำสาปโลหิตสำแดงฤทธิ์ เขาเจ็บปวดแทบตาย มีหลายครั้งที่หมดสติไปและตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง
และยัง......ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับภูเขาเสวี่ยเฟิงและภูเขาลูกอื่นๆ อีกด้วย
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ แม้เขาอยากจะออกไปช่วยมากเพียงใดก็ตาม แต่ตัวเขาเองก็แทบปกป้องตัวเองไม่ได้ในตอนนี้
ความรู้สึกผิดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
หากไม่ใช่เพราะต้องช่วยเหลือเขา ผู้อาวุโสทั้งหลายก็คงไม่ต้องสูญเสียลมปราณแท้จำนวนมากเช่นนี้ จึงทำให้ไม่สามารถกดคำสาปโลหิตให้ไม่สำแดงฤทธิ์ต่อชาวบ้าน
เหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดและความเจ็บปวดที่เขาได้เห็นเมื่อคืนนี้ทั้งหมด คาดว่าเขาคงรับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างมากเช่นกัน
กู้ชูหน่วนหยิบเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียงของเขา และช่วยเขาห่มผ้าขึ้นมา
"อากาศเริ่มเย็นแล้ว ร่างกายของท่านไม่แข็งแรงนัก ต้องห่มผ้าหนาๆ เสียหน่อย ดูสิท่านผอมไปเยอะเชียว ประเดี๋ยวข้าจะเขียนสูตรอาหารให้และให้อินเอ๋อร์ทำของอร่อยขึ้นมาให้ท่านกิน"
"เจ้าจะไปแล้วหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...