“องค์หญิงตังตัง ไม่ทราบว่าตอนนี้ข้าจะไปจวนองค์หญิงเพื่อเลือกเครื่องประดับได้หรือยัง”
พระพักตร์ขององค์หญิงตังตังแดงก่ำ แต่นางอดกลั้นไม่พูดอะไรเลยแม้แต่ทำเดียว ทำได้เพียงต้องกัดฟันยอมนาง
“ก็แค่เครื่องประดับชิ้นเดียว คิดว่าองค์หญิงอย่างข้ารับความพ่ายแพ้ไม่ได้รึ เจ้าไปเลือกเครื่องประดับในจวนของข้าตามสบาย อันไหนที่เจ้าชอบก็หยิบไปได้เลย ข้าไม่มีวันเสียดายทีหลัง”
พระพันปีสงสัยว่ากู้ชูหน่วนจะมีเจตนาไม่ดีแอบแฝง จวนหานอ๋องไม่ได้ต้องการเครื่องประดับใดๆ นางแค่ต้องการเครื่องประดับของตังตัง และเกรงว่าน่าจะเป็นการหลอกลวง
ขณะที่พระองค์กำลังคิดหาวิธีปฏิเสธ องค์หญิงตังตังก็ยอมรับปากเสียแล้ว และยังรับปากง่ายๆ เสียด้วย
พระธิดาโง่คนนี้ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองกำลังถูกขุดให้ตกลงไปในหลุม
นางยืนกรานในคำพูดจนพระองค์อยากจะหยุดไว้ ทว่าก็เกรงว่านั่นจะทำให้พวกพระองค์ดูเป็นคนตระหนี่
พระพันปีจึงได้แต่ส่งสายตาบอกให้ข้ารับใช้เก็บเครื่องประดับที่มีค่าออกไปให้หมด
พระองค์เดาไม่ถูกว่าเครื่องประดับที่กู้ชูหน่วนต้องการคืออะไร ดังนั้นจึงมีแค่เพียงวิธีนี้
กู้ชูหน่วนเหลือบมองขันทีข้างกายพระพันปีที่จากไปอย่างเร่งรีบ จากนั้นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น “ข้ารู้ว่าองค์หญิงมีพระทัยกว้างที่สุด เช่นนั้นเราไปกันตอนนี้เลยดีกว่า”
“ไปตอนนี้น่ะหรือ” จะรีบร้อนเกินไปหรือเปล่า
“ก็เป็นเรื่องปกตินี่ ไม่อย่างนั้นถ้าองค์หญิงเอาเครื่องประดับมีค่าทั้งหมดไปซ่อน ข้าก็เสียเปรียบแย่นะสิ”
“เจ้าคิดว่าองค์หญิงอย่างข้าเป็นใคร อย่าว่าแต่เครื่องประดับหนึ่งชิ้นเลย ต่อให้เป็นสิบชิ้นร้อยชิ้นข้าก็ยกให้ได้”
พระองค์รู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่ได้ต้องการเพียงแค่เครื่องประดับอย่างเดียวแน่ๆ
นางรู้ดีว่าก่อนหน้านี้พระองค์พ่ายแพ้และสูญเงินไปจำนวนมาก แพ้จนแทบหมดเนื้อหมดตัว ดังนั้นจึงจงใจใช้เรื่องเครื่องประดับมาทำให้พระองค์อับอายขายหน้า
“องค์หญิงตรัสเช่นนี้ข้าค่อยวางใจ จริงสิ ฝ่าบาท ข้าชนะพนันแล้ว ฝ่าบาทควรจะพระราชทานรางวัลให้ข้าสักหน่อยมิใช่หรือเพคะ”
จักรพรรดิเยี่ยพอพระทัย “เจ้าอยากได้อะไรก็ว่ามาสิ”
ขอเพียงแค่หานอ๋องยินยอม จะให้นางมาเป็นสนมก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
“ข้าชอบเจ้าม้าสีดำตัวน้อยตัวนี้มาก ฝ่าบาทมอบมันให้ข้าได้หรือไม่เพคะ”
“นี่น่ะหรือ” จักรพรรดิเยี่ยรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก
พระองค์คิดว่านางจะรังเกียจความโหดเหี้ยมอำมหิตของเยี่ยจิ่งหานจนอยากขอร้องให้ยกเลิกการหมั้นกับเขา
“ไม่อย่างนั้นฝ่าบาทคิดว่าข้าอยากได้สิ่งใดเพคะ” กู้ชูหน่วนบุ้ยปาก ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันยิงธนู จักรพรรดิตัวน้อยคิดว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ตัวฉกาจ ไม่แน่อาจจะกำลังคิดวางแผนอยู่ในใจว่าจะจัดการนางอย่างไรก็ได้
“ตกลง ม้าตัวนั้นข้ามอบให้เจ้าเป็นรางวัล”
“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท” กู้ชูหน่วนลูบหัวม้าสีดำตัวน้อย มุมปากสีแดงสดของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“เจ้าเป็นม้าที่เร็วมาก ต่อไปเจ้าจะมีชื่อว่าจุยเฟิงที่แปลว่าไล่ตามลม เอาให้เร็วจนเจ้าโง่ชิงเฟิงตามไม่ทันเลย” (ชิงเฟิงแปลว่าสายลม)
มุมปากของชิงเฟิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเยี่ยจิ่งหานกระตุก
เขาอยู่เฉยๆ ก็ยังไม่วายถูกโจมตี?
เยี่ยจิ่งหานอารมณ์ดี เมฆหมอกมืดครึ้มในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามลายหายไปตั้งแต่เมื่อใด “พระชายาน่าจะขาดเครื่องประดับ เจ้าไปเลือกเครื่องประดับที่ดีที่สุดในจวนรวมทั้งเครื่องประดับที่ดีที่สุดทั้งหมดในเมืองหลวงมา ข้าจะมอบให้พระชายา”
ชิงเฟิงอยากจะบอกว่า
พระชายามีเครื่องประดับอยู่แล้วมากมาย
เอะอะอะไรนายท่านก็มักจะสั่งให้คนนำเครื่องประดับไปมอบให้นาง นอกจากนี้ยังมอบให้ตั้งมากมายในคราวเดียว พระชายาเองก็ไม่เคยใส่เลย ทุกวันนางจะแค่มวยผมง่ายๆ หน้าก็ไม่แต่ง ไม่ประดับอะไรสักอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...