เจี้ยงเสวี่ยรีบบอกว่า “นายท่าน กระหม่อมจะไปแจ้งให้ที่หอเทียนหวั่งตรวจสอบก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่รอให้เยี่ยจิ่งหานตอบรับ เจี้ยงเสวี่ยก็ผละไปแล้ว
ชิงเฟิงตะลึงงัน
เขาลืมเรื่องนี้อีกแล้ว
ในอนาคตหากมีเรื่องใดเกี่ยวข้องกับพระยาชาอีก เขาจะต้องรีบหนีไปและทิ้งเรื่องยุ่งๆ ไว้ให้เจี้ยงเสวี่ย
ที่เรือนใหญ่หลังหนึ่งทางตอนใต้ของเมือง
นิ้วอันเรียวยาวดั่งหยกของจอมมารค่อยๆ กรีดไปตามต้นฉบับทีละหน้า
ใบหน้าที่ชั่วร้ายบ้างก็ขมวดคิ้ว บ้างก็ยิ้ม บางทีก็เศร้า อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามต้นฉบับที่เปลี่ยนไป
ในที่สุดก็พลิกอ่านต้นฉบับจนหมด
เขาขมวดคิ้วอย่างขุ่นใจ
“แล้วต่อไปล่ะ”
“นายท่าน พวกข้ารับใช้ยังไม่ได้ส่งมา น่าจะมาถึงเร็วๆ นี้ขอรับ”
“ช้าเกินไป ในเมื่อก้าวขาได้ช้าขนาดนี้จะเก็บขาไว้เพื่ออะไร ตัดขามันซะ ส่งคนที่ฝีเท้าเร็วกว่านี้ไป”
“ขอรับ”
นักฆ่าโลหิตปาดเหงื่อ
นายท่านฟันทิ้งไปหลายคนแล้ว ถ้ายังฟันทิ้งต่อไปอีก พวกวิ่งทำตามคำสั่งจะต้องถูกฟันทิ้งหมดแน่
ไม่ใช่พวกนั้นช้า แต่กู้ชูหน่วนยังเขียนไม่เสร็จต่างหาก อีกทั้งนายท่านยังอ่านเร็วมาก พวกเขาจะทำอะไรได้
“นักฆ่าโลหิต เจ้าว่าข้าคือตัวละครตัวไหนในหนังสือของพี่หญิง”
“เรื่องนั้น... ข้าน้อยโง่เขลา ข้าน้อยมิทราบ”
“ข้านั่งดูนอนดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเฟิงหลิงคือข้า หรือว่าฉู่อวี่เฉินคือข้ากันแน่ เอาอย่างนี้ เจ้าไปถามพี่หญิงให้ทีว่าแท้จริงแล้วตัวละครไหนคือข้า”
“ขอรับ”
“ช้าก่อน ช่างมัน ถ้าพี่หญิงรู้ว่าข้าเดาไม่ได้แม้แต่เรื่องแค่นี้นางคงโกรธ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าข้ายังไม่รู้จักนางดีพอ”
นักฆ่าโลหิตอยากจะบอกว่า
แม่นางกู้อาจจะแค่แต่งเรื่องขึ้นมาเฉยๆ
ไม่มีใครถูกนำมาเขียนเป็นตัวละครทั้งนั้น
แต่นายท่านครุ่นคิดอย่างหนักและมีจิตใจที่มั่นคงแน่วแน่ ดังนั้นเขาจึงพูดอะไรไม่ได้และทำได้เพียงคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกาย
“ข้าคิดว่าฉู่อวี่เฉินน่าจะเป็นข้า อย่างข้าจะเป็นเฟิงหลิงได้อย่างไร เฟิงหลิงเลือกโลกนี้มากกว่าจะเลือกหยางฉู่รั่ว ในตอนเริ่มต้นเขาเพียงแค่ใช้หยางฉู่รั่วเป็นตัวหมากเพื่อหาผลประโยชน์ แต่ข้าไม่เคยหาประโยชน์จากพี่หญิงมาตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ถ้าให้เลือกระหว่างโลกกับพี่หญิง ข้าไม่มีทางโง่ไปเลือกโลกแน่นอน”
“ขอรับ นายท่านพูดถูก”
“เฟิงหลิงผู้นั้นช่างโง่เขลาเสียจริง ต่อให้ได้ครอบครองบัลลังก์ ต่อให้ได้ครอบครองทั้งใต้หล้าแล้วอย่างไร ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ทั้งยังเป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้อีก สู้ไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ กับพี่หญิงและแบ่งปันความสุขในชีวิตร่วมกันยังจะดีกว่า”
“ขอรับ...”
“อีกอย่าง ตอนสุดท้ายพี่หญิงยังเขียนว่าหยางฉู่รั่วมีความสัมพันธ์กับเฟิงหลิงหลังจากแต่งงานกับฉู่อวี่เฉิน ไม่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใครกันแน่ เป็นไปได้หรือไม่ว่านางอยากจะบอกเป็นนัยว่านางไม่อยากมีลูกกับหานอ๋อง แต่อยากมีลูกกับข้า”
นักฆ่าโลหิตปาดเหงื่ออีกครั้ง
คำถามนี้ทำให้เขาพูดไม่ออก
“เช่นนั้นข้าน้อยจะส่งคนไปถามแม่นางกู้นะขอรับ”
“เจ้านี่มันสมองหมู พี่หญิงจะต้องรู้แน่ว่าข้าเดาไม่ออก แล้วนางที่ต้องการคนแข็งแกร่งจะยอมแต่งงานกับข้ารึ”
“จริงด้วยขอรับ...”
“ให้คนไปเร่งอีก ส่งเนื้อเรื่องตอนต่อไปมาให้เร็วๆ”
“นายท่าน เราส่งคนสิบแปดคนไปอย่างเร่งด่วนแล้วนะขอรับ”
“ส่งไปอีกสิบแปดคน ให้เร็วกว่านี้ อย่าให้ข้าต้องพูดมาก”
.....
ณ สำนักศึกษาวังหลวง กู้ชูหน่วนนั่งเขียนตั้งแต่เช้ายันค่ำและเขียนต่อตั้งแต่ค่ำยันเช้า เขียนจนแขนทั้งสองข้างล้าไปหมด
ใกล้ๆ หูมีเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจแสดงความเห็นไม่รู้จบ หลายคนถึงกับเร่งให้นางเขียนให้เร็วขึ้นอีก
กู้ชูหน่วนโมโหจนโยนพู่กันขนหมาป่าในมือทิ้ง “แค่อ่านเพลินๆ มันจะไปเหนื่อยอะไร ถ้าอยากให้เร็วกว่านี้พวกเจ้าก็มาเขียนเองเลยมา”
“พระชายาหาน งานเขียนของท่านดีมากจริงๆ พวกเราอ่านแล้วรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว อยากจะอ่านให้จบทั้งเรื่อง”
กู้ชูหน่วนร้อนมากจนต้องสะบัดแขนเสื้อ
คนพวกนี้ห้อมล้อมนางไว้สามชั้นสี่ชั้น อยากให้นางหายใจไม่ออกหรืออย่างไร
“ถ้าอยากให้ข้าเขียนต่อ พวกเจ้าทุกคนต้องถอยออกไปยี่สิบก้าว หยุดเข้ามาใกล้ข้าเสียที”
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากได้ปิ่นระย้า นางคงทนไม่ได้มาจนถึงตอนนี้
ทุกคนต่างลังเลที่จะถอยออกไป เพราะถ้าถอยออกไปก็จะไม่เห็นว่านางเขียนอะไร
แต่ถ้าไม่ถอยออกมาพวกเขาก็กลัวว่ากู้ชูหน่วนจะปั่นหัวพวกเขาด้วยการหยุดเขียนเอาดื้อๆ ถึงตอนนั้นจะยิ่งแย่ขึ้นไปอีก ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ถอยออกมาเท่านั้น
ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังหมดความอดทน ชิงเฟิงก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
เขาคำนับอย่างนอบน้อมและถ่ายทอดคำพูดอย่างตรงไปตรงมา และนั่นเป็นตัวจุดชนวนความโกรธของกู้ชูหน่วนขึ้นมาอีกครั้ง
“กระหม่อมคารวะพระชายา ขอพระชายาอายุยืนพันปี พันๆ ปี”
“มีสิ่งใดก็ว่ามา ถ้าไม่มีก็ไสหัวไป”
“เรียนพระชายา นายท่านขอให้กระหม่อมมาแจ้งว่าท่านจะเขียนเรื่องให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้ ตัวเอกหญิงหยางฉู่รั่วมีความสัมพันธ์กับตัวเอกชายฉู่อวี่เฉินได้เท่านั้น จะมีอะไรกับเฟิงหลิงไม่ได้ นอกจากนี้เด็กในครรภ์จะต้องเป็นลูกของนายท่าน... ไม่สิ เป็นลูกของฉู่อวี่เฉิน”
กู้ชูหน่วนข่มกลั้นความโกรธเอาไว้ นางจ้องมองชิงเฟิงเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม จ้องจนชิงเฟิงหน้าชา
“ข้าแค่เขียนนิยาย นายท่านของเจ้าต้องมายุ่งด้วยหรือ เขาว่างนักหรือไงถึงมีเวลามาก้าวก่ายข้าอย่างนี้”
“เอ่อ... นั่น... นายท่านยังบอกอีกว่าตัวเอกหญิงหยางฉู่รั่วรักได้เพียงฉู่อวี่เฉินเท่านั้น จะต้องไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่น นอกจากนี้ยังห้ามตกหลุมรักสตรีอื่นด้วย”
“แล้วเหตุใดเจ้าไม่เรียกให้นายของเจ้ามาเขียนเองเสียเลยล่ะ”
“เอ่อ... เรียนพระชายา กระหม่อมเพียงแค่มาถ่ายทอดคำพูดเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ชิงเฟิงทำหน้าตาใสซื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...