“เขตหวงห้ามอยู่ที่ใด ท่านพาข้าไปเปิดหูเปิดตาหน่อยสิ”
จู่ๆกู้ชูหน่วนก็หัวเราะแล้วกล่าว
น่าหลานหลิงลั่วมองนางอย่างละเอียดราวกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่างอยู่ในสายตา
“เจ้ามาที่หุบเขาตันหุยไม่ใช่ว่าพุ่งตรงมายังเขตหวงห้ามหรอกหรือ?”
“ข้าเกิดมาก็เป็นผู้ที่ชอบเสี่ยงอันตราย ยิ่งเป็นสถานที่ยิ่งลึกลับข้าก็ยิ่งอยากไป ท่านบอกมาคำเดียวว่าท่านจะพาข้าไปหรือไม่เถอะนะ”
“น่าขันสิ้นดี ข้าเป็นนายน้อยแห่งหุบเขาตันหุย เจ้าเป็นผู้ใดกันเหตุใดข้าถึงต้องเสี่ยงอันตรายพาเจ้าเข้าไปด้านใน นอกเสียจากว่าเจ้าจะเป็นภรรยาของข้า”
“ภรรยา? อันนี้พูดง่าย เช่นนั้นก็มอบให้ท่าน”
กู้ชูหน่วนหยิบหยกแขวนออกมาจากเอวแล้วโยนให้เขาโดยตรง
น่าหลานหลิงลั่วตกตะลึงและจ้องมองตรงไปยังหยกแขวนสี่เหลี่ยมซึ่งอบอุ่นดังชิ้นหยกในมือ
"นี่เอาไว้ทำสิ่งใด?"
“สิ่งของแทนใจอย่างไรหล่ะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องหนึ่งหรือสองวัน ข้ามอบสิ่งของแทนใจไว้ให้ท่านก่อนพวกเราก็ถือว่าหมั้นกันเอาไว้ก่อนแล้ว”
"......"
เนื่องจากน่าหลานหลิงลั่วรู้อยู่แล้วว่ากู้ชูหน่วนนั้นไม่ได้มากพิธีและตรงไปตรงมาแต่ก็อดตกใจไม่ได้
หญิงผู้นี้ก็ช่างง่ายดายเกินไปกระมัง
พวกเขาพบกันเพียงแค่สองครั้ง ครั้งแรกที่หุบเขาโลหิตหูหลู
นางไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อเขาแต่เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวกลับหมั้นหมายกันเลยโดยตรงหรือ?
นี่ช่างเร็วเกินไปหรือเปล่า?
“เหตุใด ท่านไม่ยินยอมหรือ?” กู้ชูหน่วนถามกลับ
น่าหลานหลิงลั่วไม่รู้จะตอบอย่างไรในเวลานี้
เขาเต็มใจอยู่แล้วแต่ว่าเลอะเทอะมากเช่นนี้จุดประสงค์นั้นก็ช่างชัดเจนยิ่งนัก
"หญิงที่ข้าต้องการ หัวใจและร่างกายของนางจะต้องเป็นของข้าเท่านั้นไม่ใช่ว่าหลอกใช้ข้า"
“ดวงตาข้างใดของท่านเห็นข้าหลอกใช้ท่านหรือ?”
"......"
กู้ชูหน่วนแย่งหยกแขวนกลับมาแล้วกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า "ช่างเถอะ ในเมื่อท่านไม่ต้องการงั้นก็ถือซะว่าข้าไม่ได้พูด เช่นไรวันมะรืนก็เป็นงานชุมนุมกลั่นยาแล้วข้าจะเข้าไปด้วยความสามารถของข้าเองก็พอแล้ว”
น่าหลานหลิงลั่วมือเท้าว่องไวจึงได้แย่งหยกแขวนกลับมาอย่างมีเงื่อนไข
“มีหลักการใดที่นำสิ่งของแทนใจที่ให้แล้วกลับไปกัน ต่อจากนี้ไปเจ้าก็เป็นคู่หมั้นของข้าและเป็นคู่หมั้นของข้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น เจ้าไม่สามารถแต่งงานกับผู้ใดได้อีก”
เขากล่าวแล้วก็หยิบหยกแขวนชิ้นหนึ่งออกจากอ้อมอกให้กู้ชูหน่วน หยกชิ้นนั้นเป็นหยกสีเขียวทั้งชิ้นโปร่งใสงดงาม เพียงแค่มองดูก็รู้ว่าเป็นหยกชั้นดี
กู้ชูหน่วนเพียงแค่ชำเลืองมองดูไปเช่นนั้นแล้วก็ใส่เข้าไปในวงแหวนอวกาศเลย
ยิ้มพร้อมกล่าวว่า "ได้ ข้ารับหยกแขวนของท่านเอาไว้แล้วงั้นตอนนี้ท่านพาข้าไปยังเขตหวงห้ามได้หรือยัง?"
“ต่อให้ข้าเป็นนายน้อยก็ไม่มีสิทธิ์พาเจ้าเข้าไป เว้นแต่ว่าเจ้าจะเป็นเจ้าแห่งหุบเขาหรือเป็นอันดับหนึ่งในการร่วมชุมนุมกลั่นยา แต่ว่าข้าสามารถพาเจ้าไปดูด้านนอกของเขตหวงห้ามได้"
กู้ชูหน่วนกัดฟัน "ได้ ด้านนอกเขตหวงห้ามก็ด้านนอกเขตหวงห้ามสิ"
นางไปสำรวจดูก่อน ถึงเวลานั้นก็จะช่วยประหยัดเวลาได้บ้าง
สำหรับคู่หมั้น......
หึ......
ฐานะในตอนนี้ของนางยังคงเป็นพระชายาหานอยู่ ต้องการจะแต่งงานกับนางเช่นไรก็ต้องผ่านด่านของเยี่ยจิ่งหานซะก่อน
“ท่านรอข้าสักครู่ข้าจะไปเรียนท่านพ่อบุญธรรมก่อน”
“เฮ้ๆๆท่านบอกท่านผู้เฒ่าผู้นั้นท่านผู้เฒ่านั้นยังจะให้ข้าไปด้านนอกเขตหวงห้ามอีกหรือ? เจ้าหนุ่มนี่ไม่ใช่ว่ามีกลอุบายใดอยู่หรอกนะ”
น่าหลันหลิงลั่วหัวเราะและร้องไห้ไม่ออก
ผู้มีกลอุบายไม่ใช่นางหรอกหรือ?
เขารู้ว่านางไม่ชอบเยี่ยจิ่งหานแต่ว่าตอนนี้นางก็ยังอยู่ในฐานะพระชายาหานแต่กลับรับปากว่าจะแต่งงานกับเขา นี่ไม่ได้เป็นการให้เขาบีบเยี่ยจิ่งหานซึ่งๆหน้าเข้าหรอกหรือ?
“พ่อบุญธรรมมีข้าเป็นลูกเพียงคนเดียว เรื่องการแต่งงานเรื่องใหญ่เช่นนี้จึงต้องเรียนให้พ่อบุญธรรมทราบเป็นธรรมดา ข้าไม่เพียงแค่จะเรียนให้พ่อบุญธรรมทราบเท่านั้นและยังต้องแจ้งทุกคนในหุบเขาตันหุยแม้กระทั่งทุกคนทั่วทั้งใต้หล้า"
"ไม่ต้องลำบากเช่นนี้หรอก"
นี่ไม่ได้ผลักนางไปยังตรงหน้าเยี่ยจิ่งหานหรอกหรือ?
ถึงตอนนั้นเยี่ยจิ่งหานก็จะไม่ตัดศีรษะนางหรอกหรือ
“ต้องสิ เจ้าแต่งงานกับข้าไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะต้องมอบของขวัญแต่งงานอันมีมูลค่าแก่เจ้า จะทำให้เจ้ารู้สึกไม่ยุติธรรมได้เช่นไร”
กู้ชูหน่วนกลอกตาใส่
น่าหลานหลิงลั่วก็เป็นจิ้งจอกตัวหนึ่งเช่นกัน
จิ้งจอกเฒ่าตัวหนึ่ง
“ตามแต่ใจท่านเถอะ ข้ามีข้อเรียกร้องเพียงแค่ข้อเดียว พาข้าไปยังเขตหวงห้ามทันทีในตอนนี้ไม่เช่นนั้นการแต่งงานครั้งนี้จะถูกยกเลิกไป”
“รอข้าสิบห้านาที หลังจากสิบห้านาทีแล้วจะพาเจ้าไปในทันที”
เพิ่งกล่าวจบน่าหลานหลิงลั่วก็ได้หายตัวไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...