แม่สาวอัปลักษณ์ผู้นี้ร้ายกาจมาก
แววตาที่เยือกเย็นของเยี่ยเฟิงดูเหมือนจะไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ทว่าถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีแววของความครุ่นคิดในดวงตาคู่นั้น
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าอัครเสนาบดีกู้กำลังทำหน้าอึมครึมน่ารังเกียจอยู่ฝั่งตรงข้าม เหล่าขุนนางที่อยู่ข้างกายดูเหมือนจะกำลังหัวเราะเยาะเขา เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เส้นเลือดปูดโปนจนเห็นได้ชัด
กู้ชูหน่วนเงี่ยหูฟังและได้ยินการสนทนาของพวกเขาแว่วๆ
“อัครเสนาบดีกู้ช่างสั่งสอนบุตรสาวของท่านได้ดีนัก บุตรสาวทั้งสามล้วนมีความประพฤติดีเยี่ยมจนได้เข้ามาเรียนที่สำนักศึกษาวังหลวงทีละคน คุณหนูสามกับคุณหนูห้ายิ่งโดดเด่นกว่าใคร น่านับถือยิ่งนัก”
คำพูดเหน็บแนมเหล่านี้ทำให้อัครเสนาบดีกู้โกรธจนรู้สึกคันปาก ทว่าเขาต้องทำเป็นยิ้มเข้าไว้ “ก็ไม่ถึงขนาดนั้น”
“ดูสิ ข้าเพิ่งจะพูดถึงบุตรสาวของท่านอัครเสนาบดีกู้ไปหยกๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะไปที่ไหนก็เป็นจุดสนใจของผู้คนเสมอ พวกท่านยังไม่เชื่ออีกหรือนั่น” เสนาบดีคนหนึ่งบุ้ยปากไปฝั่งตรงข้าม
อัครเสนาบดีกู้พยายามข่มความโกรธที่ท่วมท้นขึ้นมาภายในใจ
เขาไม่ได้ตาบอด เขาจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าคนของสำนักศึกษาวังหลวงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังทำให้กู้ชูหลานอับอายขายหน้า
เขาโกรธมาก
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น กู้ชูหลานยังมีหน้ามาปรากฏตัวในการชุมนุมแข่งขันวิชาการ
สิ่งที่ทำให้เขาโกรธยิ่งกว่าก็คือไม่รู้ว่ามีใครปากบอนมาปล่อยข่าวเรื่องที่หลานเอ๋อร์เสียความบริสุทธิ์ ทำให้จวนอัครเสนาบดีต้องเสียเกียรติ และเขาก็กลายเป็นที่เยาะเย้ยของสหายในราชสำนัก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการเยาะเย้ยถากถางของผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อัครเสนาบดีกู้จึงกล่าวอย่างมีโทสะว่า “อย่างน้อยบุตรีของข้าก็ได้เข้าศึกษาในสำนักศึกษาวังหลวง โดยเฉพาะบุตรีคนรองของข้าที่ปราดเปรื่องและมีชื่อเสียงในรัฐเยี่ย ดีกว่าบางคนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่”
ในบรรดาบุตรสาวของเขา บุตรสาวคนรองคือความภาคภูมิใจของเขาเสมอมา ขอเพียงแค่วันนี้กู้ชูอวิ๋นคว้าที่หนึ่งมาได้ เกียรติของเขาจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน
อัครเสนาบดีกู้ฝากความหวังทั้งหมดไว้กับกู้ชูอวิ๋น
ทว่าอยู่ๆ หม่ากงกงก็พรวดพราดเข้ามาพร้อมกับพระราชโองการขององค์จักรพรรดิ ทำให้ความหวังสุดท้ายของเขาพังทลาย
“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฝ่าบาททรงมีพระบัญชา กู้ชูหลานบุตรีของอัครเสนาบดีกู้กระทำเรื่องผิดศีลธรรมจนเสื่อมเสียถึงวงศ์ตระกูล นับเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่คู่ควรที่จะอยู่ในสำนักศึกษาวังหลวง ต้องโทษโบยห้าสิบไม้และต้องออกไปจากสำนักศึกษาทันที พระบัญชานี้มีผลตลอดชีวิต บุตรีคนรองกู้ชูอวิ๋นในฐานะพี่สาวมีส่วนต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เป็นผลให้ถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในการชุมนุมแข่งขันวิชาการครั้งนี้และต้องออกไปทันที บุตรีคนที่สามกู้ชูหน่วนได้ตัดขาดความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกกับอัครเสนาบดีแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และจะได้ร่วมแข่งขันรอบชิงชนะเลิศต่อไป”
อัครเสนาบดีกู้ทรุดลงในทันใด สีหน้าของเขาซีดเผือดไร้สีเลือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...