กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 55

กู้ชูหน่วนกัดแอปเปิลพลางใช้มือข้างหนึ่งยันม้านั่งตัวยาวและลุกขึ้นไปขวางเอาไว้

“ช้าก่อน ท่านกงกง น้องห้าเจอเรื่องสะเทือนใจอย่างหนักจนความคิดผิดปกติ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังพูดถึงอะไร เหตุใดเราจึงต้องไปใส่ใจคนวิกลจริตด้วยเล่า”

หม่ากงกงมีท่าทีเคารพนบนอบขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นกู้ชูหน่วน เขายิ้มและกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นคุณหนูสามนี่เอง แม่นางผู้นี้ดูหมิ่นใส่ร้ายคุณหนูสามอย่างโจ่งแจ้ง แต่คุณหนูสามกลับไม่ถือโทษโกรธเคือง ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก”

“คนเป็นพี่น้องกันย่อมทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา ผ่านแล้วก็ผ่านกันไป ไม่ทราบว่าท่านกงกงพอจะปล่อยไปสักครั้งได้หรือไม่”

คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้เหล่าขุนนางทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารประทับใจกู้ชูหน่วนขึ้นมากโข

แม้ว่าคุณหนูสามตระกูลกู้จะเป็นคนหัวขี้เลื่อยและมีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่อย่างน้อยนางก็เป็นคนจิตใจดี

ดวงตาของหม่ากงกงวาววับไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “ในเมื่อคุณหนูสามออกปากเอง เช่นนั้นคราวนี้จะไว้ชีวิตนางก็ได้ ทหารเข้ามานี่ มาพานางออกไป”

คำว่าโบยจนตายเมื่อครู่นี้ทำให้กู้ชูหลานหวาดกลัวจนแข่งขาอ่อน ตอนนี้นางทำได้เพียงปล่อยให้ทหารองครักษ์ลากตัวออกไป

นางรู้ว่าชีวิตของนางจบสิ้นลงแล้ว

กู้ชูอวิ๋นมีสติปัญญามากกว่านางและรู้ว่าหากยังก่อปัญหาต่อไปก็มีแต่จะทำให้พวกนางลำบาก ดังนั้นจึงได้แต่ยอมให้ทหารองครักษ์พาตัวออกไปอย่างไม่เต็มใจและเจ็บปวด

กู้ชูหน่วนแทะแอปเปิลดังกร้วมและนั่งลงที่เดิม

เซี่ยวอวี่เซวียนขยับเข้ามาใกล้ “แม่สาวอัปลักษณ์ เจ้าช่วยขอร้องแทนนางทำไมน่ะ”

กู้ชูหน่วนกลอกตาใส่เขาแล้วเบ้ปาก “ถ้านางตาย ข้าจะไปเอาเงินสามแสนตำลึงจากใครล่ะ”

นั่นซี เขารู้อยู่แล้วว่าแม่สาวอัปลักษณ์ไม่ได้ใจดีขนาดนั้น

สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้ดำเหมือนก้นหม้อ เขาแทบอยากให้การชุมนุมแข่งขันวิชาการจบลงเสียเดี๋ยวนี้

ทางด้านซ้ายของกู้ชูหน่วนคือเจ๋ออ๋อง ส่วนทางด้านขวาคือเยี่ยเฟิง นางขยับเข้าไปใกล้เยี่ยเฟิงและเอียงศีรษะเข้าไปหา

“เหตุใดเจ้าจึงมาเข้าร่วมงานชุมนุมแข่งขันวิชาการรึ เพราะชื่อเสียงหรือเปล่า หรือว่าอยากเป็นขุนนาง”

เยี่ยเฟิงนั่งยืดหลังตรงและไม่ยอมตอบเลยจนนิดเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์