กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 560

"ตูบ......"

กู้ชูหน่วนล้มลงอย่างหนักและเจ็บปวดจนนึกว่าร่างทั้งร่างนางแทบจะแตกกระจุยไปแล้ว

เมื่อลืมตามองก็เห็นว่าที่นี่เป็นถ้ำแห่งหนึ่ง ข้างๆนางนอกจากเยี่ยจิ่งหานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ไม่รู้ว่าคนอื่นๆถูกดูดไปที่ใดแล้ว

เยี่ยจิ่งหานสลบอยู่จากนั้นกู้ชูหน่วนก็พยุงเขาขึ้นและจับชีพจรของเขาถึงรู้ว่าอาการบาดเจ็บของเยี่ยจิ่งหานร้ายแรงกว่าที่นางคิดเอาไว้มากนัก

อาการบาดเจ็บภายในของเขาสาหัสนัก อวัยวะภายในเกือบจะเคลื่อนตำแหน่งและซี่โครงหลายซี่ก็ได้หักเลยโดยตรง

แม้แต่บาดแผลเก่าบนร่างกายของเขาที่ระงับเอาไว้ได้อย่างยากลำบากก็มีแนวโน้มที่จะแสดงอาการออกมาอยู่บ้างเล็กน้อย

กู้ชูหน่วนรีบช่วยเขาฝังเข็มรักษาอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดเยี่ยจิ่งหานถึงได้ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง

“ที่นี่ที่ใด?” เยี่ยจิ่งหานจับหน้าอกด้วยความเจ็บปวดซึ่งเป็นที่ที่ถูกกิเลนเขาเดียวแห่งความเวิ้งว้างทำร้ายและเจ็บปวดเร่าร้อนนัก

“ในโลกมนุษย์ เพิ่งดึงท่านกลับมาจากที่พญายมนั่น เยี่ยจิ่งหานข้าต้องสูญเสียเรี่ยวแรงเป็นอย่างมากถึงสามารถช่วยชีวิตอันน้อยนิดของท่านเอาไว้ได้ หากท่านรีบร้อนไปหาพญายมอีกข้าจะไม่ดึงท่านอีกแล้ว”

“กุญแจดอกนั้นเหมือนกับกุญแจที่เจ้าได้มาจากหุบเขาตันหุยเไม่ผิดเพี้ยน”

กู้ชูหน่วนมองไปตามสายตาของเขาแต่กลับเห็นแท่นหินแท่นหนึ่งอยู่ไม่ไกลตรงหน้า บนแท่นหินมีกุญแจรูปดาวดอกหนึ่งวางอยู่ซึ่งเป็นกุญแจรูปดาวดอกที่สามที่นางกำลังตามหาด้วยความยากลำบาก

กู้ชูหน่วนไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้ เดินก้าวสองก้าวของการก้าวสามก้าวไปและมองดูกุญแจรูปดาวอย่างละเอียดถี่ถ้วน

กุญแจรูปดาวดอกที่สามไม่ได้อยู่ที่ยอดเขาบรรจบเมฆของเผ่าเพลิงฟ้าหรอกหรือ? เหตุใดถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้?

เป็นไปหรือไม่ว่าพวกเขาอยู่ที่ยอดเขาบรรจบเมฆ?

หุบเขาตันหุยอยู่ไกลจากเผ่าเพลิงฟ้านัก เหตุใดพวกเขาถึงสามารถมาจากหุบเขาตันหุยถึงยังยอดเขาบรรจบเมฆได้โดยตรงในชั่วพริบตานี้?

แต่คลื่นบนกุญแจดอกนี้เหมือนกับสองดอกบนตัวนางทุกประการซึ่งไม่ใช่ของปลอม

เมื่อมองไปโดยรอบอีกครั้งก็ไม่ได้มีอันตรายใดและไม่ได้มีกลไกใดๆ

เยี่ยจิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน วรยุทธ์ของเขาได้ค่อยๆฟื้นตัวสามารถใช้กำลังภายในของตนเองเพื่อรักษาอาการตนเองได้

ด้านหนึ่งกล่าวว่า "ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีกลไก"

กู้ชูหน่วนพยักหน้าจากนั้นเอื้อมมือออกไปหยิบกุญแจรูปดาวดอกที่สามออกมา

นางจ้องมองกุญแจรูปดาวดอกที่สามในมือ อย่างไรก็ไม่ได้ค่ดคิดว่ากุญแจรูปดาวดอกที่สามจะได้มาอย่างง่ายดายเช่นนี้

หากไม่ใช่เพราะเยี่ยจิ่งหานอยู่ที่นี่กู้ชูหน่วนคิดที่จะวางกุญแจทั้งหมดไว้บนเข็มทิศเพื่อค้นหาว่าไข่มุกมังกรเม็ดที่หกอยู่ที่ใดกันแน่

ทันใดนั้นเยี่ยจิ่งหานก็กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า "ดูเหมือนว่าะพวกเราจะมาในสถานที่ที่ไม่สมควรมา"

“กลัวอะไร พวกเราไม่ได้ไปในสถานที่ที่ไม่สมควรอยู่ตลอดหรอกหรือ?”

“ที่นี่คือเผ่าเพลิงฟ้า”

ชู่ว์......

ประโยคหนึ่งกล่าวออกมากู้ชูหน่วนราวกับถูกตีเข้าที่ศีรษะ

“เผ่าเพลิงฟ้า?”

อยู่ในเผ่าเพลิงฟ้าจริงหรือ?

แล้วเหตุใดพวกนางถึงได้มาอยู่ที่นี่อย่างแปลกประหลาด?

“ก่อนหน้านี้พวกเราถูกดูดเข้าไปในกระแสวน ศูนย์กลางของกระแสวนควรจะเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายค่ายกลหนึ่ง หุบเขาตันหุยมาถึงเผ่าเพลิงฟ้าด้วยค่ายกลเคลื่อนย้าย”

เยี่ยจิ่งหานจ้องมองดูรูปเมฆลอยที่ถูกเผาไหม้เสียหายบนผนัง ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้ามาในสมอง

มีความโกรธเคือง มีความตกใจ มีความสงสัย ความรู้สึกหลากหลายรวมเข้าด้วยกัน

หุบเขาตันหุยไม่ได้มีความมิตรภาพอันลึกซึ้งกับเผ่าเพลิงฟ้า เหตุใดถึงได้มีค่ายกลเคลื่อนย้ายอยู่ในสถานที่ลึกของเขตหวงห้าม?

หากเขาเดาไม่ผิดแล้วหล่ะก็ ที่นี่น่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่หวงห้ามของเผ่าเพลิงฟ้ากระมัง

“ด้านนอกมีคนเข้ามาแล้ว”

กู้ชูหน่วนด้านหนึ่งกล่าวและอีกด้านหนึ่งดึงเขาไปยังที่หลบซ่อนตัวที่หนึ่ง

กู้ชูหน่วนสัมผัสอย่างเคยชินและบ่นพึมพำกับตนเองว่า "หึ......ครั้งนี้เผ่าเพลิงฟ้าช่างครึกครื้นเสียจริงๆ"

“หากว่าคนของหุบเขาตันหุยก็มาแล้ว เช่นนั้นคนของเผ่าหยกก็ไม่น่าแปลกใจที่คงจะมาแล้วเช่นเดียวกัน”

ทั้งสองคนต่างก็หมองหม่นใจ

นอกจากพวกเขาแล้วคนอื่นๆยังว่าได้ง่าย

แต่คนของเผ่าหยกปรากฏตัวที่นี่ ต้องต่อสู้กันกับเผ่าเพลิงฟ้าอย่างเอาเป็นเอาตายเป็นแน่

ที่นี่คืออาณาเขตของเผ่าเพลิงฟ้า หากเกิดความขัดแย้งกันขึ้นที่นี่เผ่าหยกจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน

"หาทางออกไปกันก่อนเถอะ หากว่าสามารถหาค่ายกลเคลื่อนย้ายได้จะเป็นการดีที่สุด หาไม่พบก็ทำได้เพียงติดอยู่"

หลังจากที่ทั้งสองคนคลำหาอยู่ครู่หนึ่งก็หาค่ายกลเคลื่อนย้ายใดๆไม่พบ กู้ชูหน่วนจึงทำได้เพียงเป็นผู้นำพร้อมเดินย่องเบาๆออกไปด้านนอก

ทหารยามมีเพียงสองคนเท่านั้น

อาวุธลับสองชิ้นของกู้ชูหน่วนพุ่งไปจนทั้งสองคนที่ไม่ทันรู้ตัวนั้นสลบลงไปเลย

นางเคลื่อนไหวอย่างชำนาญโดยถอดเสื้อผ้าบนร่างกายของพวกเขาออกอย่างรวดเร็วและสวมบนร่างกายแล้วโยนอีกตัวหนึ่งให้เยี่ยจิ่งหาน

เยี่ยจิ่งหานมองดูพร้อมกระทบลิ้นต่อเนื่องกัน

วิธีการจัดการอันช่ำชองนี้

หญิงผู้นี้ที่แท้ถอดเสื้อผ้าของผูัอื่นมากี่ครั้งแล้ว?

“มองอันใดกัน? ยังไม่รีบสวมอีก?”

“ต่อไปห้ามถอดเสื้อผ้าของผู้ชาย?” เยี่ยจิ่งหานขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“ได้ได้ได้ ต่อไปข้าจะถอดเสื้อผ้าของท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้นได้แล้วสินะ”

ตอนนี้เป็นเวลาใดแล้วยังคิดเล็กคิดน้อยอันใดกัน?

เพียงแค่ถอดเสื้อผ้าเท่านั้นไม่ได้ทำสิ่งใดเกินเลยสักหน่อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์