กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 598

สรุปบท บทที่ 598: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

สรุปเนื้อหา บทที่ 598 – กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง

บท บทที่ 598 ของ กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อี้หมิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อได้ยินคำว่าเซี่ยงกงสองคำนี้หัวใจของเยี่ยจิ่งหานก็หวานราวกับถูกทาด้วยน้ำผึ้ง

หญิงผู้นี้นับว่ามีมโนธรรมอยู่บ้างก็ไม่ไร้ประโยชน์ที่เขามาเดินทางมาเป็นพันลี้เพื่อตามหานาง

“ตูม......”

ความรวดเร็วของถ้ำน้ำแข็งที่ถล่มรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดคิด

วิชาตัวเบาของพวกเขาในตอนนี้ก็ถือได้ว่าไร้เทียมทานแต่ก็ยังไม่สามารถออกไปอย่างปลอดภัยได้ หลายครั้งหลายคราก็เกือบจะโดนก้อนน้ำแข็งถล่มใส่

“ตูม......” หนทางเบื้องหน้าค่อยๆถูกขวางเอาไว้ เยี่ยจิ่งหานจับมือกู่ชูหน่วนเลือกทางสายหนึ่งและอีกสายหนึ่งไปเรื่อยๆ

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงครึกเสียงหนึ่งขึ้น

ก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่หล่นลงจากก้นถ้ำขวางทางด้านหน้าหลังซ้ายขวาเอาไว้ทั้งหมด

กู้ชูหน่วนเบิกตากว้างต้องการที่จะทำให้ทำลายน้ำแข็งและหลบหนีจากเส้นทางเปื้อนเลือดนี้แต่ก็ไม่ทันการณ์ จึงทำได้เพียงมองดูก้อนหินน้ำแข็งก้อนนั้นหล่นลงมา

ในช่วงเวลาวิกฤตเยี่ยจิ่งหานกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดและบดบังก้อนน้ำแข็งมหึมานั้นด้วยหน้าอกของตนเอง

"พรึ่บ......"

เลือดของเยี่ยจิ่งหานอาบลงบนแก้มของนาง

ก้อนหินน้ำแข็งที่ด้านล่างของถ้ำยังคงหล่นลงมาทีละก้อนๆ กู้ชูหน่วนขยับฝ่ามือให้ก้อนหินน้ำแข็งพุ่งออกไปมาจากนั้นกอดเยี่ยจิ่งหานไปยังด้านข้างตำแหน่งที่ปลอดภัย

นางร้องตะโกน “ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ท่านรู้หรือไม่ว่าก้อนหินน้ำแข็งนั่นจะทับท่านตายได้”

“เพียงแค่เจ้าไม่เป็นไรทุกสิ่งก็คุ้มค่าแล้ว”

เสียงของเยี่ยจิ่งหานนุ่มนวลจนทำให้ผู้คนคิดว่านั่นเป็นภาพลวงตา

กู้ชูหน่วนปวดใจในทันใด

นางกอดเอวอันแข็งแกร่งของเยี่ยจิ่งหาน เป็นครั้งแรกที่แสดงจุดอ่อนของตนเองต่อหน้าเขา

"เป็นอันใด?"

เยี่ยจิ่งหานรู้สึกทำสิ่งใดไม่ถูก

กู้ชูหน่วนเช่นนี้เขานั้นไม่เคยเห็นมาก่อน

กู้ชูหน่วนที่เขารู้จักไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินและสร้างปัญหาวุ่นวายมาเป็นอันดับแรก แต่กลับไม่เคยเห็นนางยอมจำนนอย่างแท้จริง

กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า "ไม่เป็นไร แค่ยืมไหล่ท่านพิงสักหน่อย"

กล่าวแล้วนางปล่อยเยี่ยจิ่งหานและมองดูแผ่นหลังที่เปื้อนเลือดของเขา “เจ็บไหม?”

“ไม่เจ็บ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเล็กน้อย ไปกันเถอะพวกเราออกไปจากที่นี่ซะก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงถ้ำน้ำแข็งพังทลายลงมา”

"ได้"

ปี่ของเยี่ยจิ่งหานเหวี่ยงอยู่ในแนวนอนสะเทือนก้อนหินน้ำแข็งทั้งหมดตรงหน้าออกและนำกู้ชูหน่วนวิ่งไปด้านหน้าต่อ

หากว่าเขาช้าไปหนึ่งก้าวทั้งสองคนนั้นจะต้องตายอยู่ที่นี่ เนื่องจากหลังจากที่เท้าของพวกเขาก้าวออกไปแล้วถ้ำทั้งหมดนั่นก็พังทลายลงมาและขยายวงกว้างต่อออกไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง

"ครึ่ม......"

เสียงสะท้านดังกึกก้อง ดังสะท้านจนหูของกู้ชูหน่วนดังหึ่งๆและก็ไม่รู้ว่ามังกรวารีตัวนั้นเป็นอันใด ถ้ำน้ำแข็งด้านหนึ่งผุกร่อนอีกด้านหนึ่งพังทลายลง

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปขั้วโลกเหนือก็จะพังทลายลงไปทั้งหมด

วิ่งอยู่วิ่งอยู่กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานก็ได้หลงทางตรงทางแยกเสียแล้ว

กู้ชูหน่วนรีบร้อนหาเข็มทิศถึงพบว่าเข็มทิศได้หายไปโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่วิ่งอยู่

ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ออกจากที่นี่ไปด้วยความทรงจำของตนเอง

“เยี่ยจิ่งหานตอนที่ท่านมาผ่านทางแยกมากมายมาตามหาข้าได้อย่างไร?”

“หลับตาเดินมั่วซั่ว”

“เช่นนั้นท่านลองหลับตาเดินมั่วซั่วดูอีกครั้ง ลองดูว่าจะสามารถออกไปได้หรือไม่”

“ข้าเกรงว่าเมื่อหลับตาลงจะถูกหินน้ำแข็งทับตายเลยโดยตรง”

"......"

เหตุผลนี้

นางกล่าวคำพูดหักล้างไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง

คิดไม่ถึงว่าก็ยังพบกับผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ย

ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยเพียงผู้เดียว รองหัวหน้าเผ่าซือคงนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายเขาไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนหลงกันหรือเปล่า

ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยได้รับบาดเจ็บซึ่งตรงหน้าอกถูกควักเป็นรูโลหิตแผลหนึ่ง ส่วนต่างๆบนร่างกายไม่น้อยถูกขีดข่วนอย่างหนักเผยให้เห็นถึงกระดูก

น่าแปลกที่รูโลหิตที่หน้าอกของเขาไม่มีเลือดไหลและมองไม่เห็นอวัยวะภายในใดๆ

ราวกับว่าอวัยวะภายในของเขาถูกควักออกมาตั้งแต่แรกแล้วเช่นนั้น

เขาหัวเราะอย่างดุดัน "ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย คิดไม่ถึงว่าอยู่ในถ้ำอันสับสนหลงทางนี้ยังได้พบเจอกับพวกเจ้าสองคนได้"

กู้ชูหน่วนจ้องเขม็งที่หน้าอกของเขาพร้อมกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึมว่า "เจ้า......อวัยวะภายในของเจ้าหล่ะ?"

“เด็กโง่เจ้าไม่เข้าใจสินะ เผ่าเพลิงฟ้ามีเวทมนต์คาถาลับคาถาหนึ่งที่ควักอวัยวะผู้ที่ตายแล้วให้หมดจากนั้นก็ใช้เวทมนตร์คาถาก็จะสามารถฟื้นขึ้นใหม่ได้”

“ดังนั้น......ที่แท้อายุขัยของเจ้าได้หมดไปตั้งนานแล้ว เพื่อที่ไม่ต้องการตายจึงได้ฝืนลิขิตเปลี่ยนชะตาและฝืนฝึกคาถาเพื่อเพิ่มอายุขัยของตนเอง?”

"ใช่"

กู้ชูหน่วนมองไปยังเยี่ยจิ่งหานราวกับว่าต้องการได้รับคำตอบจากตัวเยี่ยจิ่งหาน

เหตุใดในโลกนี้ถึงได้มีเวทมนต์นอกรีดเช่นนี้?

หากว่าทุกคนฝืนลิขิตฟ้าย้อนกลับวัฏจักรก็จะไม่เกิดความวุ่นวายหรอกหรือ?

เยี่ยจิ่งหานพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

ยอมรับว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยกล่าวเป็นความจริง

กู้ชูหน่วนค่อยๆเข้าใจแล้ว

เหตุใดหัวหน้าเผ่าของเผ่าเพลิงฟ้าไม่ยอมให้คนในเผ่าใช้เวทมนต์คาถาอีก

เวทมนตร์คาถานี้เกรงว่าจะต้องแลกเปลี่ยนชดใช้มาไม่น้อยสินะ

เยี่ยจิ่งหานอธิบายว่า "เวทมนตร์ของเผ่าเพลิงฟ้ามีมานับพันปีแล้ว หากว่าต้องการใช้เวทมนตร์คาถากระทำเรื่องหนึ่งให้สำเร็จก็จะต้องชดใช้ในราคาที่เหมาะสม อาจใช้อายุขัยของตนเองหรือว่าอายุขัยของผู้อื่นก็ได้"

กู้ชูหน่วนเข้าใจแล้ว "ดังนั้นผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเยี่ยได้สละชีวิตของผู้อื่นเพื่อยืดอายุขัยของตนเองสินะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์