กู้ชูหน่วนรู้สึกอึดอัดหายใจยากลำบาก
ความรู้สึกเช่นนี้ช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน
ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องโถง
ไกลออกไป กู้ชูหน่วนเห็นกู้ชูอวิ๋นและแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ ดูไปแล้วช่างพูดคุยกันถูกใจเหลือเกิน จากนั้นกู้ชูอวิ๋นก็บอกลาอย่างสุภาพนอบน้อม
ในขณะที่เดินผ่านกัน นางและกู้ชูอวิ๋นได้สบตากัน
พี่น้องสองคนที่มีนิสัยต่างกัน เกิดเป็นแววตาที่ต่างกัน
คนหนึ่งมีความอยากรู้อยากเห็น
คนหนึ่งมีรอยยิ้มจางๆ
กู้ชูอวิ๋นยิ้มและกล่าวว่า "น้องสาม ไม่เจอกันเสียนาน ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันที่จวนท่านแม่ทัพ"
"ใช่น่ะสิ ไม่เจอกันนาน ดูเหมือนพี่รองจะต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว" กู้ชูหน่วนหัวเราะคิกคัก
"น้องสามก็ต่างไปจากเมื่อก่อนไม่ใช่หรือ?"
ทั้งสองต่างกำลังหัวเราะ แต่ในรอยยิ้มนั้น กลับมีความหมายอื่น
เซี่ยวอวี่เซวียนมองไม่ออกถึงความหมายในแววตาของพวกนางและพูดแทรกขึ้นมา "กู้ชูอวิ๋น เราสองคนได้ยกเลิกการหมายหมั้นแต่งงานแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังมาที่บ้านของข้าบ่อยครั้งเช่นนี้?"
"เซวียนเอ๋อร์ ข้าได้รับนางเป็นลูกสาวบุญธรรมแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปนางก็คือน้องสาวบุญธรรมของเจ้า เจ้าพูดจาอะไรเกรงใจเสียบ้าง"
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวก้าวเดินไปข้างหน้า ทำสีหน้าขุ่นเคืองและจ้องมองไปยังเซี่ยวอวี่เซวียน
"ท่านพ่อ นางมาที่จวนแม่ทัพเพราะมีเหตุผลอย่างอื่นไม่ดีแน่ๆ เหตุผลท่านถึงเชื่อผู้หญิงที่เสแสร้งคนนี้ด้วย"
"คุณชายเซี่ยว ท่านพูดถึงข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าเพียงแค่เคารพยกย่องในตัวท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว ข้าถึงได้มาที่จวนแม่ทัพบ่อยครั้งเช่นนี้"
"ฮึ เคารพยกย่องอะไรกัน เป็นคนในเมืองหลวงเช่นกัน ในเมื่อเจ้าเคารพยกย่องเช่นนี้ เหตุใดเมื่อก่อนถึงไม่เคยมาเลยล่ะ"
"เมื่อก่อนข้าไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านแม่ทัพใหญ่และตระกูลของข้า ฉะนั้นจึง......"
กู้ชูอวิ๋นทำให้เซี่ยวอวี่เซวียนโกรธจนตาแดงก่ำและร้อนรนอยากจะเข้าใจอะไรให้ได้ แต่กลับไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร ดูไปแล้วช่างทำให้คนอื่นอดสงสารไม่ได้เหลือเกิน
เมื่อแม่ทัพใหญ่เซี่ยวเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้ตะโกนชี้หน้าดุด่าออกมา "บัดซบ ต่อไปห้ามเสียมารยาทกับคุณหนูรองกู้อีก ต่อไปนี้จวนแม่ทัพของข้าก็เป็นบ้านของคุณหนูรองกู้ นางอยากจะมาก็มา อยากไปก็ไป ใครก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขวางนาง แต่คุณหนูสามกู้ เจ้ากลับมาที่จวนแม่ทัพบ่อยครั้งเช่นนี้ ไม่ทราบว่าเจ้ามีจุดประสงค์อะไรหรือ? ต้องการคิดหาวิธีให้ฝ่าบาทยกเลิกการหมั้นหมายหรืออะไรกันแน่?"
ดวงตาของกู้ชูหน่วนหรี่ลง
กู้ชูอวิ๋นพูดอะไรกับแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกันแน่ เหตุใดแม่ทัพใหญ่ถึงได้ปกป้องนางเช่นนี้?
"ท่านพ่อ ข้าเพียงแค่ขอร้องให้แม่สาวอัปลักษณ์ไปในวังเพื่อเข้าพบฝ่าบาทและยกเลิกการแต่งงาน หากท่านจะโทษก็โทษข้า"
"เจ้ามันคนสารเลว รอดูว่าประเดี๋ยวข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร"
กู้ชูอวิ๋นมองไปยังทุกคนและค่อยๆ โค้งคำนับ "ท่านแม่ทัพใหญ่ ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนที่สำนักศึกษาแล้ว ชูอวิ๋นอยู่ที่จวนแม่ทัพใหญ่ต่อไปก็ไม่เป็นที่ต้อนรับ เช่นนั้นชูอวิ๋นลากลับก่อนเจ้าค่ะ"
"ได้" ใบหน้าที่โกรธโมโหของเแม่ทัพใหญ่เซี่ยวจึงได้ค่อยๆ บรรเทาขึ้น
หลังจากที่กู้ชูอวิ๋นจากไป กลิ่นของดินปืนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวว่า "ท่านพ่อ กู้ชูอวิ๋นผู้หญิงคนนั้นปากไม่ตรงกับใจ ท่านอย่าถูกนางหลอกเลย"
"มานี่ รีบพาคุณชายน้อยกลับไปที่ห้อง หากไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามปล่อยเขาออกมา"
"ขอรับ"
ทหารองครักษ์จำนวนหนึ่งมานำตัวของเซี่ยวอวี่เซวียนออกไป เซี่ยวอวี่เซวียนโกรธจนตะโกนด่าทอออกมา "ตาแก่ ท่านทำเพื่อคนนอก โดยการกักบริเวณข้าอีกครั้ง ในหัวใจของท่าน ลูกชายของท่านเทียบไม่ได้เลยกับคนนอกอย่างนั้นหรือ? ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้"
ไม่พอเซี่ยวอวี่เซวียนจะด่าทอเช่นไรก็ยังถูกหามออกไปอยู่ดี แม่ทัพใหญ่เซี่ยวกวาดสายตามายังกู้ชูหน่วนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม น้ำเสียงที่เยือกเย็นและท่าทางที่ไม่เป็นมิตร "ไม่ทราบว่าพระชายาหานยังมีธุระอะไรอีกหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...