เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดจะหันหน้าหนี แต่ก็คิดได้ว่าทักษะการต่อสู้ของซั่งกวนฉู่คล้ายคลึงกับเหวินเส่าอี๋มาก ไม่ว่าจะเป็นการประสานฝ่ามือสร้างน้ำแข็งหรือการใช้น้ำแข็งสังหารศัตรู
รวมไปถึงวิชาน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้
แม้ว่ากระบวนท่านั้นจะแค่คล้ายน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้ แต่ก็ให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
เหวินเส่าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซั่งกวนฉู่ก็บาดเจ็บมาก่อนเช่นกัน
ตอนที่เหวินเส่าอี๋ไปยังขั้วโลกเหนือ ซั่งกวนฉู่ก็ลางานเพื่อไปท่องยุทธภพ เพลิดเพลินกับการท่องโลก
อะไรจะประจวบเหมาะขนาดนี้
ที่บังเอิญที่สุดก็คือ กลิ่นอายบางอย่างในตัวของพวกเขาทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
ว่ากันตามเหตุผล เหวินเส่าอี๋ที่ถูกภูเขาหิมะถล่มน่าจะตายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในเมื่อไม่เห็นศพกับตาตัวเอง นางจึงยังด่วนสรุปไม่ได้ว่าเหวินเส่าอี๋ตายอยู่ที่ขั้วโลกเหนือจริงๆ
ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็ยกยิ้มมุมปาก จ้องมองส่วนล่างของเขาและยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ที่ท่านอาจารย์ชี้แนะก็คือ ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างศิษย์กับอาจารย์ จะต้องน่าสนใจมากแน่ๆ สินะ”
“นอกจากนี้... ท่านอาจารย์ช่างมีสง่าราศี มีความสามารถที่น่าทึ่ง ศิษย์อยากได้มานานแล้ว ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย ทำไมเราไม่ลองมาสำรวจกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นล่ะเจ้าคะ”
นางพูดพลางเอื้อมมือทั้งสองออกไปอย่างไม่น่าไว้ใจนัก
พรึ่บ
ยังไม่ทันสัมผัสโดนตัวซั่งกวนฉู่ อาจารย์ซั่งกวนก็พลิกตัวขึ้นคร่อมนางเอาไว้
กลิ่นหอมจางๆ ที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยโชยเข้ามาเตะจมูก กลิ่นนั้นทำให้กู้ชูหน่วนรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว ทั้งยังละโมบอยากจะสูดดมกลิ่นกายของเขาให้มากกว่านี้
ตรงหน้าของนางคือใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพบุตรของซั่งกวนฉู่ ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติ
กู้ชูหน่วนรู้สึกได้ถึงลมหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจของเขา
หัวใจของเขาเต้นรัว บนใบหน้าที่ขาวซีดแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มจางๆ มุมปากที่ยกขึ้นมาดูเหมือนกำลังดึงดูดมอมเมาให้นางถลำลึก “คุณหนูสาม แน่นอนว่าการสำรวจให้ลึกซึ้งไม่ใช่แค่การขยับริมฝีปากหรือขยับมือเพียงเล็กน้อย ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ”
ซั่งกวนฉู่ยิ้มอย่างอ่อนโยน มือซ้ายที่เรียวยาวปัดปอยผมบนหน้าผากของนาง ลากปลายนิ้วลงไปเรื่อยๆ และสันจมูกที่ได้รูปก็เกือบสัมผัสเข้ากับสันจมูกของนาง
การเคลื่อนไหวของซั่งกวนฉู่ทำให้กู้ชูหน่วนสั่นสะท้าน
ภายในใจอดคิดถึงใบหน้าที่หยิ่งทะนงของเยี่ยจิ่งหานไม่ได้
กู้ชูหน่วนรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อนึกถึงเขา นางผลักซั่งกวนฉู่ออกไปและเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ท่านเป็นอาจารย์นะเจ้าคะ มาสอนให้นักเรียนทำเรื่องไร้ศีลธรรมเช่นนี้ ไม่กลัวเรื่องจะแดงออกไปจนทำลายชื่อเสียงรึ”
“ทั้งสองฝ่ายต่างยินยอม ไร้ศีลธรรมตรงไหน?”
“เฮอะ...อาจารย์ผู้ภูมิฐานแห่งสำนักศึกษาวังหลวง พูดออกมาได้ไม่อายปาก”
ซั่งกวนฉู่จัดเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยของตนอย่างใจเย็น จากนั้นจึงพูดเรียบๆ ว่า “จากท่าทางของคุณหนูสาม ดูเหมือนท่านจะไม่อยากสำรวจข้าให้ลึกซึ้งแล้วสินะ”
กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้เขาทำเหมือนเขาดูงี่เง่า พร้อมกันนั้นก็ยกยิ้มมุมปากอย่างดูถูก
ทว่าซั่งกวนฉู่ไม่สนใจและพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า “ไม่เลวนี่ สติของคุณหนูสามพัฒนาขึ้นมาก ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองหวั่นไหวไปกับความงาม ข้าผู้เป็นอาจารย์ดีใจยิ่งนัก”
"....."
กู้ชูหน่วนเกือบจะคิดว่าตัวเองฟังผิด
เจ้าจิ้งจอกนี่...เขาพูดอะไรของเขา?
ความหมายของเขาก็คือทุกอย่างที่ทำไปเมื่อครู่เป็นไปเพื่อทดสอบนางงั้นเหรอ
ไร้สาระ
เห็นๆ กันอยู่ว่าเขาอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับนางไปอีกขั้น แต่ยังกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
“ช่างสมแล้วที่ท่านอาจารย์เป็นถึงสี่นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองหลวง คารมคมคายแบบนี้ มีเกียรติแบบนี้ ข้าเทียบท่านไม่ได้เลยจริงๆ”
“เพราะฉะนั้น เมื่อท่านกลับไปที่สำนักศึกษา ท่านควรจะตั้งใจเรียนให้มากๆ”
กู้ชูหน่วนนึกกังขาอยู่ในใจ
ผู้ชายคนนี้คือเหวินเส่าอี๋จริงๆ หรือ
สองคนนี้จะแตกต่างกันไปหรือเปล่า
“เหตุใดท่านจึงสละชีวิตเพื่อช่วยข้า”
“ข้าทรงตัวไม่ได้และเสียหลักลื่น พอตกใจก็ดันท่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ยังนึกเสียใจอยู่หน่อยๆ เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...