จอมมารประคองอี้เฉินเฟยไปทางห้องกลั่นยา เพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บหนักมาก ไม่สามารถที่จะเดินได้ งั้นเลยถือโอกาสแบกเขาเสีย
ยาวิญญาณหวนสามารถระงับคำสาปโลหิตได้เพียงชั่วคราว แต่มากที่สุดหนึ่งชั่วยาม หลังจากหนึ่งชั่วยามแล้วต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แต่เดิมทีเขาก็เป็นคนที่กำลังจะตาย ใช้ยาวิญญาณหวนหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“เจ้าสกปรกไปทั้งตัว….ทำชุดข้าเปื้อนหมด เลือดไหลออกมาน้อยๆหน่อยไม่ได้หรือ?”
อี้เฉินเฟยไม่ได้กล่าวอะไร ไม่รู้ว่ากำลังรักษาแรงกำลังอยู่หรือว่าร่างกายอ่อนแอเกินไปแล้ว
“ไอ๋หยา….ผมของข้าก็เต็มไปด้วยเลือดของเจ้า เมื่อวานข้าเพิ่งจะทำผมนะ”
“เตากลั่นยาไปทางไหน?”
“เดินตรงไปทางซ้าย แล้วจะเจอ”
”ได้……”
บรรยากาศอึมครึมลงทันที
จอมมารไม่กล่าวพูดอะไร อี้เฉินเฟยก็เช่นกัน
สุดท้ายจอมมารอดทนไม่ไหว จึงเป็นคนหาหัวข้อสนทนาพูดขึ้นมา
“เจ้าจะสังเวยชีวิตตอนนี้ หรือว่ารอท่านพี่หญิงมาค่อยสังเวยชีวิต”
“เมื่อนางเห็น นางจะยิ่งเจ็บปวด”น้ำเสียงทุ้มต่ำของอี้เฉินเฟยดังขึ้น ฟังแล้วทำให้คนใจสลายมาก
“ไม่ใช่ว่าสัญญากับนาง ว่าจะรอนางกลับมาหรือ?”
“หลังจากที่ข้าตาย ท่านจะอยู่เป็นสหายกับนางโดยตลอดใช่หรือไม่?”
“แน่นอนอยู่แล้ว เพียงแค่ข้าซือม่อเฟยมีชีวิตอยู่ ชั่วชาตินี้จะอยู่เป็นสหายนางแน่นอน”
“นางมีท่านที่เป็นสหาย เป็นความโชคดีของนาง ต่อไปฝากอาหน่วนด้วยนะ”
จอมมารฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจ
น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอย่างละมุนว่า“เพราะฉะนั้น เจ้าจะกระโดดลงไปเตากลั่นยาเลย?”
“อืม”
“เช่นนั้นตอนท่านพี่หญิงถาม ข้าจะตอบว่าอย่างไรล่ะ?”
“หาข้ออ้างอะไรก็ได้”
“ข้าคิดหาข้ออ้างไม่ออกเลย เจ้าช่วยข้าคิดหน่อย”
“ก็บอกว่าข้ากินยาพิษ ยาพิษนั่นมีฤทธิ์กัดกร่อน ร่างกายของข้าถูกกัดกร่อนจนหมดสิ้น”
“ท่านพี่หญิงเป็นหมอเทวดา หากนางถามขึ้นมาว่าเป็นยาพิษอะไรล่ะ? ข้าคิดว่าข้าโกหกนางไม่ได้”
วันนี้อี้เฉินเฟยถึงได้รู้ว่า จอมมารนั้น….อ่อนต่อโลกกว่าที่คิดไว้……
มีเหตุผลมากมายสำหรับเรื่องนี้ และไม่มีอะไรที่ดึงออกมาไม่ได้เลย
เขากลัวทำการสังเวยชีวิตไม่ได้ เลยไม่พูดเยอะ จึงหลับตาสงบจิตสงบใจต่อไป
จะรู้ที่ไหนกันว่าจอมมารนั้นพูดไม่รู้จักจบจักสิ้น
“เจ้าเป็นผู้ที่มีร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์ เช่นนั้นเจ้าหาร่างกายหยินบริสุทธิ์เจอหรือยัง?”
“ไม่รู้เลย…..”
“จะไม่รู้ได้อย่างไร ไม่มีร่างกายหยินบริสุทธิ์ไม่ใช่หลอมรวมไข่มุกมังกรไม่ได้?”
“เหล่าผู้อาวุโสไม่มีทางที่จะไม่ตามหาร่างกายหยินบริสุทธิ์ นางน่าจะอยู่ในเผ่าหยก”
ไม่เกิดความผิดพลาด น่าจะเป็นคนของเผ่าน้ำแข็ง…..
เขาสงสัยว่าเผ่าหยกจะปราบเผ่าน้ำแข็งอยู่มือ เพื่อที่จะให้พวกนางสังเวยชีวิตลงไปในเตากลั่นยา
จอมมารเงียบสักพักหนึ่ง
เขาไม่รู้ว่าคนของเผ่าหยกรู้หรือไม่ว่าเขาเป็นผู้ที่ร่างกายเป็นหยินบริสุทธิ์ ถึงได้ให้เขาเข้าไปเผ่าหยก
เขาก็ไม่อยากจะโดดลงเตากลั่นยา......
เหล่าฮูหยินต่างเจ็บปวดอย่างเหลือทนเพราะคำสาปโลหิตสำแดงฤทธิ์ และพวกเขาแต่ละคนต่างส่งเสียงโหยหวนที่ควบคุมไม่ได้ แถมยังต้องถูกญาติสนิทของพวกนางฟาดฟันให้ตาย ความสิ้นหวังอย่างนั้นทำให้หัวใจสลายเสียจริง
เสียงร่ำไห้ เสียงสะอื้น เสียงแผดตะโกน เสียงครวญคราง เสียงต่างๆ มารวมกัน ก่อเป็นเสียงคุกประเภทหนึ่ง
ข้างหู มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องด้วยความเศร้ากล่าวว่า “พระเจ้า คำสาปโลหิตครั้งก่อนเพิ่งผ่านไปไม่นาน ทำไมไม่ถึงสิบห้าคำสาปโลหิตมันก็สำแดงฤทธิ์อีกแล้ว... ทำไมท่านไม่ฆ่าเราด้วยกริชเล่มเดียวให้ตายไปเลยล่ะ ต้องให้พวกเรามาทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ มันตายไปเลยเสียจะดีกว่า"
“ท่านพ่อ….อย่า….อย่าฆ่าท่านแม่ ท่านรีบตื่น หากท่านสังหารท่านแม่ ท่านจะเสียใจเจียนตาย ….อ๊าก….ท่านแม่….ท่านแม่ท่านอย่าตายนะเจ้าคะ…..”
“ท่านพี่….อย่าโทษข้า…ข้าก็ไม่อยากฆ่าท่าน ท่านฆ่าลูกสาวข้า รอท่านตื่นมาแล้วท่านจะรู้สึกว่าตายเป็นเสียดีกว่า และกล่าวโทษตนเองตลอดชีวิต มิสู้พวกเราสามคนตายพร้อมกัน เป็นครอบครัวเดียวกันที่นรก แต่จะไม่มีคำสาปโลหิตให้ต้องทรมานแล้ว”
“ท่านพี่…..พวกเรารวบรวมไข่มุกมังกรเจ็ดเม็ดแล้ว รอหัวหน้าเผ่าหลอมรวมไข่มุกมังกรก็สามารถแก้คำสาปโลหิตได้แล้ว ท่านใจเย็นก่อน อย่าวู่วาม ฮือๆ….”
“ท่านแม่…..น้าหญิง…..ฮือๆ….พวกท่านอย่าตาย พวกเราหาไข่มุกมังกรเจอแล้ว อีกนิดเดียวจะสามารถแก้คำสาปโลหิตได้แล้ว ฮือๆ พวกท่านทอดทิ้งข้าได้อย่างไรกัน…..”
ฉากเหตุการณ์ช่างน่ากลัว ทุกฉากช่างน่าเวทนา
กู้ชูหน่วนกลั้นความเจ็บปวด ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นว่า“จัดแถว จัดวางค่ายกลสองมิติ สตรีย้ายมาอยู่ที่นี่ ชายชาตรีไปทางด้านนั้น”
“หัวหน้าเผ่า มิได้นะ คนของเราไม่เพียงพอ…..”
“ทุกคนดึงกลับมาให้หมด ห้าสิบคนเข้าแถว อีกส่วนช่วยชีวิตผู้คน อีกส่วนแยกชายหญิง ไม่ช้าก็เร็วกรงเหล็กเหล่านั้นจะถูกเปิดออก มันเกี่ยวอะไรกับการป้องกันหรือไม่ป้องกัน? "
“ฟังหัวหน้าเผ่า”ผู้อาวุโสกล่าวขึ้นเสียงดัง แบ่งคนออกเป็นสองมิติด้วยตนเอง
ทุกคนทยอยทำตามคำสั่งของกู้ชูหน่วน
ผู้อาวุโสหกนำขบวน ค่ายกลมั่นคงอย่างมาก
เหล่าผู้อาวุโสหกนำคนต่างเผ่าแยกชายหญิงออกจากกัน คนได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตน้อยลงไปมากแล้ว แต่สถานการณ์ยังคงไม่ดี
พวกที่ไร้สติเหล่านั้นไม่ได้กลัวความตายเลย มันยากที่จะแยกออก
แยกแต่ละคนออก จะต้องใช้พละกำลังที่มากมายของพวกเขา
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า“ใช้ไม้ตะบอง พยายามแยกพวกเขา ทุบตีหนักๆ”
“ขอรับ…..”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...