กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 710

"หลอมรวมไม่ได้ ข้าหลอมรวมไข่มุกมังกรไม่ได้......"

หลังจากที่ดาบอ่อนถูกชิงไปกู้ชูหน่วนก็ล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ร่างทั้งร่างทรุดตัวลงไปเลย ความโศกเศร้าที่ถูกกดเอาไว้ในใจก็ได้ระบายออกมา

จอมมารกอดนางเอาไว้แน่นและตบๆหลังของนางไม่หยุด

“ท่านทำดีที่สุดแล้ว ทุกคนรู้ว่าท่านทำดีที่สุดแล้ว”

“ท่านพี่เฉินเฟยเสียชีวิตไปแล้ว พี่น้องมากมายของเผ่าน้ำแข็งก็ได้ตายไปแล้วเช่นกันซึ่งเป็นจำนวนทั้งสิ้นหนึ่งร้อยเก้าคนก็ไม่มีแล้ว ข้าไม่สามารถผิดต่อพวกเขาได้......แต่ข้าหลอมรวมไข่มุกมังกรไม่สำเร็จ ทำไม......ทำไมถึงเป็นเช่นนี้......"

ความเจ็บปวดเผยขึ้นในดวงตาของจอมมารจึงได้เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของนาง และกล่าวเสียงเบาว่า “แม้ว่าท่านจะไม่สามารถหลอมรวมไข่มุกมังกร ได้ พวกนางก็ไม่โทษท่านหรอก”

“พี่หญิง พวกเขาไม่ได้ยินยอมสังเวยเพื่อเผ่าหยก แต่พวกเขาสังเวยเพียงเพราะท่านผู้นี้ หากว่าพวกเขารู้ว่าท่านฝืนบังคับตนเองและทำให้ตนเองลำบากใจเช่นนี้พวกเขาก็คงจะรู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน”

“เช่นนั้นข้าควรจะทำเช่นไรดี? ข้าควรจะทำเช่นไร......”

กู้ชูหน่วนจ้องเขม็งไปยังเตาหลอมยาที่กำลังลุกโหมทั้งสองเตา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าไม่ได้ตามใจหวังและหมดสิ้นหนทาง

“หลอมรวมไม่สำเร็จพวกเราก็ไม่หลอมแล้ว บางทีนี่อาจเป็นชะตาของเผ่าหยก”

และเป็นชะตาของนางด้วย

แต่เขาจะไม่ยอมให้พี่หญิงต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดจากคำสาปโลหิตไปชั่วชีวิตแม้ว่าจะทุมเททุกสิ่งอย่างเขาก็จะเสริมกำลังการผนึกของพี่หญิง

เท่าที่รู้จักกันมานานเช่นนี้นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเห็นกู้ชูหน่วนร้องไห้

ครั้งหนึ่งคือขณะที่เอี้เฉินเฟยและไป๋จิ่นสังเวย อีกครั้งหนึ่งคือในตอนนี้......

สวรรค์รู้ว่านางร่ำไห้และเขาเจ็บปวดใจเพียงใด......

“ปึงปึงปึง......”

เกิดการทะเลาะวิวาทและการต่อสู้รุนแรงดังอยู่ด้านนอก

ด้านนอกมีคนรีบมารายงานว่า “ท่านหัวหน้าเผ่าแย่แล้ว เยี่ยจิ่งหานทะเลาะต่อสู้กับผู้อาวุโสไท่ซั่งขึ้นมาแล้ว”

ประโยคหนึ่งดึงกู้ชูหน่วนกลับมาจากความรู้สึกแห่งความล่มสลาย

นางปาดน้ำตาและออกจากอ้อมกอดของจอมมาร ไม่ว่าจะลำบากและเศร้าโศกเพียงใดก็ถูกนางซ่อนเอาไว้ในใจทั้งสิ้น

“ผู้อาวุโสไท่ซั่งออกจากการบำเพ็ญเพียรแล้วหรือ?”

“เปล่าขอรับ แต่จู่ๆเยี่ยจิ่งหานก็บุกเข้าไปในสถานที่ที่ผู้อาวุโสไท่ซั่งบำเพ็ญเพียรและบังคับเชิญให้ผู้อาวุโสไท่ซั่งออกมา”

เขากล่าวว่าเชิญแต่กู้ชูหน่วนและจอมมารนั้นฟังออก

นี่เป็นการเชิญที่ใดกัน เห็นชัดว่าเป็นการบังคับ

จอมมารตบต้นขาทีหนึ่ง

“คาดการณ์พลาดซะแล้ว ถูกเยี่ยจิ่งหานชิงตัดหน้าก่อนอีกแล้ว”

เดิมทีเขาก็ต้องการบุกไปยังสถานที่ที่ผู้อาวุโสไท่ซั่งบำเพ็ญเพียรและถามถึงการหลอมรวมไข่มุกมังกรอย่างไรให้รู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

แต่เขาไม่วางใจในพี่หญิง จึงทำได้เพียงเฝ้าคุ้มครองพี่หญิงไม่ห่างอยู่ทั้งวันทั้งคืน

เขากลัวว่าหากว่าเขาเผอิญจากไป พี่หญิงจะกระทำเรื่องที่เป็นการทำร้ายตน

กู้ชูหน่วนถามว่า “ตอนนี้หล่ะ......?”

“เอ่อ......คือ......น่าจะยังต่อสู้กันอยู่ขอรับ”

สาวกอีกคนหนึ่งในเผ่าเพิ่งกลับมาจากด้านนอก และเขานั้นตอบอย่างรวดเร็วว่า “ตอบกลับท่านหัวหน้าเผ่า หานอ๋องและผู้อาวุโสไท่ซั่งไม่ได้ต่อสู้กันแล้ว ผู้อาวุโสหลายท่านได้ล้อมหานอ๋องไว้และหานอ๋องก็เลิกต่อต้านและยอมที่จะถูกผู้อาวุโสสูงและคนอื่นๆจับตัวไว้ ตอนนี้ถูกขังไว้กับเจ้าสุนัขสารเลวของเผ่าเพลิงฟ้า”

เผ่าหยกเรียกเหวินเส่าอี๋ว่าเป็นเจ้าสุนัขสารเลวกันทั้งสิ้น

กู้ชูหน่วนฟังเช่นไรก็รู้สึกอึดอัดนัก

สำหรับการกระทำทุกสิ่งทุกอย่างของเยี่ยจิ่งหานนั้นนางสามารถเข้าใจได้

เยี่ยจิ่งหานน่าจะรู้ว่านางไม่สามารถหลอมรวมไข่มุกมังกรมาตลอดจึงเกรงว่านางจะได้รับอาการบาดเจ็บดังนั้นจึงบุกเข้าไปในสถานที่บำเพ็ญเพียรของผู้อาวุโสไท่ซั่งและบังคับให้เขาออกมา

จอมมารกล่าวเสียงจ้อแจ้ว่า “ขังตัวเยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋เอาไว้ด้วยกันซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหล่าผู้อมตะทั้งหลายของเผ่าหยกคิดสิ่งใดกันอยู่ สองคนนี้อยู่ด้วยกันจะไม่ต่อสู้กันจนฟ้าดินกลับตาลปัตรหรอกหรือ”

“ผู้อาวุโสไท่ซั่งหรือ? ข้าก็อยากพบเขา”

กู้ชูหน่วนจัดการเสื้อผ้าอันยุ่งเหยิงของนางและก้าวออกจากห้องหลอมยาที่นางพักอยู่เป็นนานเวลาหลายวันแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์