มันถูกเขียนไว้บนม้วนตำราหนังแกะโบราณที่สิบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่ต้องใช้เลือดของนางนั้นเป็นความจริงครึ่งหนึ่งปลอมครึ่งหนึ่ง
ที่ต้องใช้จริงๆ คือเลือดหัวใจของนาง ต้องให้นางถวายตนทั้งคน…
มิใช้เรื่องที่สามารถจัดการได้โดยให้นางกรีดเลือดออกมาไม่กี่หยดเท่านั้น…
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผู้สืบทอดหัวหน้าเผ่าเผ่าหยก จำเป็นต้องเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกนางในรุ่นนั้น ถึงจะมีสิทธิ์ที่จะสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าได้
“เหตุใดจึงไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้” กู้ชูหน่วนมองดวงตาอันเจ็บปวดของผู้อาวุโสสูง น้ำเสียงไม่หนักไม่เบา ดูไม่ออกว่านางรู้สึกอย่างไร
“ข้าๆ…ข้ามัววุ่นวายคิดหาวิธีไขไข่มุกมังกรลูกที่แปด…ตอนนั้นยุ่งมาก จึงมิได้สนใจอะไรมากนัก คิดไม่ถึงว่าอี้เฉินเฟยกับเผ่าน้ำแข็งจะถวายด้วย”
คิดไม่ถึงงั้นหรือ…
หี…
คิดไม่ถึงบ้าอะไรกัน
เดิมทีที่เผ่าหยกก่อตั้งสร้างเผ่าน้ำแข็งมา ก็เพราะรอวันนี้มิใช่หรือ?
กู้ชูหน่วนปล่อยมือที่จับผู้อาวุโสสูงสุดไว้ และออกจากห้องปรึกษากิจไปอย่างไร้วิญญาณ
ผู้อาวุโสสูงสุดอยากจะตามไป แต่กลับมิรู้ว่าหากตามไปแล้วจะพูดอันใดดี
บอกให้นางเสียสละถวายชีพของตน?
หรือบอกให้นางยอมแพ้เรื่องหลอมรวมไข่มุกมังกรและเรื่องปลดคำสาปโลหิตซะ?
หากเป็นตอนที่อี้เฉินเฟยและคนอื่นๆ ยังไม่ตาย นางคงอาจจะพิจารณาเรื่องนี้ได้
ทว่าตอนนี้…
มีคนนับร้อยตายอยู่ตรงหน้านาง นางยังมีหนทางใดอีกงั้นหรือ?
หากนางยอมแพ้ เกรงว่านางคงจมอยู่ในมโนธรรมไปตลอดชีวิต
ผู้อาวุโสสูงสุดทอดถอนหายใจ และนั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง
นอกห้องปรึกษากิจ
เมื่อกู้ชูหน่วนออกมา พวกจอมมารและคนอื่นๆ ก็เข้าไปมุงล้อมนางทันที
เมื่อเห็นสีหน้าของนางซีดเซียว ผู้อาวุโสสูงและคนอื่นๆ ต่างก็แปลกใจ
แต่จอมมารกลับโกรธเกรี้ยวขึ้นมา “ข้าว่าแล้วว่าตาเฒ่านั่นต้องไม่ใช่คนดีอะไร ข้าจะไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“อาม่อ เดินเป็นเพื่อนข้าทีจะได้หรือไม่”
กู้ชูหน่วนจับมือเขาไว้ และยิ้มหวานให้กับเขา
นางกำลังยิ้มอยู่ แค่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวด
ผู้อาวุโสรองถามอย่างหยั่งเชิง “หัวหน้าเผ่า ผู้อาวุโสสูงสุดพูดอะไรบ้างอย่างนั้นหรือ แล้วไข่มุกมังกรจะสามารถหลอมรวมกันได้หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนมองผู้อาวุโสรองอย่างลึกซึ้ง มองจนผู้อาวุโสรองรู้สึกชาและเย็นวูบวาบไปทั้งตัว
ขณะที่ผู้อาวุโสรองกำลังเหงื่อตกนั้น ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ได้ละสายตาไป และจูงมือจอมมารเดินจากไป
ผู้อาวุโสรองมึนงง
“หัวหน้าเผ่าเป็นอะไรไปงั้นหรือ? เหตุใดจึงต้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นด้วย?”
ผู้อาวุโสหกจ้องเขาเขม็งอย่างโกรธๆ
“มีเพียงท่านที่พูดมากทุกครั้งจริงๆ เมื่อใดที่หัวหน้าเผ่าอยากจะให้เราทราบ นางก็จะบอกเราเมื่อนั้นเอง”
“แต่นี่มัน…ไข่มุกมังกรทั้งเจ็ดลูกก็ได้มาครบแล้ว แต่กลับมิสามารถหลอมรวมได้ เรื่องใหญ่เพียงนี้ เหตุใดพวกเจ้าแต่ละคนถึงได้ไม่แยแสเลยล่ะ?”
“ไม่แยเสงั้นรึ? ท่านเห็นว่าใครไม่แยแสกัน? หรือว่าทุกคนต้องแสดงออกทางสีหน้าเหมือนกับท่านทุกคนงั้นหรือ? ผู้อาวุโสสูงบาดเจ็บสาหัสยังรักษามิหาย แต่กลับคอยเฝ้าอยู่นอกห้องหลอมยาทุกวัน เขาไม่กังวลหรือ? หัวหน้าเผ่าหลอมรวมไข่มุกมังกรจนมิหลับมินอน เลือดทั้งตัวของนางคงจะกรีดออกจนหมดตัวแล้ว นางไม่กังวลหรือ? ท่านคิดว่ามีเพียงท่านคนเดียวที่กังวลหรืออย่างไรกัน?”
“เจ้าจะดุข้าทำไมกันเล่า?”
“แล้วท่านจะดุหัวหน้าเผ่าทำไมกัน?”
“ข้าดุหัวหน้าเผ่าเมื่อใดกัน? น้องหก เจ้าจงใจหาเรื่องทะเลาะกับข้าใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสทั้งสองความเห็นไม่ตรงกัน จึงสู้กันขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้อาวุโสสูงหันตัวไปอย่างน่ารำคาญ และมองเงาร่างที่เดินจากไปของกู้ชูหน่วนอย่างคิดอะไรอยู่
เขารู้สึกมีอะไรแปลกๆ
แต่ก็รู้สึกตรงที่แปลกนั้น มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ
เกี่ยวกับเรื่องที่เหตุใดไข่มุกมังกรจึงหลอมรวมมิได้นั้น ผู้อาวุโสสูงสุดเองก็มิอาจจะพูดความจริงกับเขาได้
ณ หลังเขาของเผ่าหยก
กู้ชูหน่วนและจอมมารนั่งอยู่บนยอดเขา และมองไปยังดอกไม้ที่กำลังผลิบานอยู่ไกลๆ
จอมมารกล่าว “พี่หญิงพาข้ามาที่นี่ ก็เพื่อจะชมดอกไม้งั้นหรือ?”
และยังเป็นหุบเขาก้อนหินด้วย
ไม่ว่าจะปลูกสิ่งใดไว้ที่นั่น สิ่งนั้นก็จะไม่มีวันอยู่รอดได้ ดอกพุดซ้อนยิ่งเป็นไปไม่ได้
เหตุใดพี่หญิงจึงคิดอยากให้เขาปลูกดอกพุดซ้อนไว้ที่นั่นกัน?
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาม่อดีกับข้าที่สุดเลย”
“แน่นอนอยู่แล้ว อาม่อแทบอยากจะนำสิ่งที่ดีที่สุดบนโลกนี้มาให้ตรงหน้าพี่หญิงเลยล่ะ”
ความรู้สึกของกู้ชูหน่วนซับซ้อน
นางรู้ดีอยู่แล้ว
เพราะเช่นนี้ นางยิ่งต้องตัดความสัมพันธ์กับจอมมารเสีย
มิเช่นนั้น ไม่ช้าก็เร็ว ภาพธารโลหิตจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน
“เช่นนั้นเจ้ากลับไปปลูกตอนนี้เสียเถิด ข้าจะรอเจ้า”
“พี่หญิงรีบเร่งไล่ข้าเพียงนี้ มีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ? หรือว่าพี่หญิงอยากจะกรีดเลือดหลอมรวมไข่มุกมังกรต่อไปอีก?”
“ผู้อาวุโสสูงสุดบอกแล้วว่า ไข่มุกมังกรมิสามารถหลอมรวมได้ แม้นจะกรีดเลือดของข้าไปจนหมดก็มิอาจหลอมรวมไข่มุกมังกรได้ ข้ายอมแพ้แล้ว...เจ้าเองก็คงรู้ว่าข้าเองก็ต้องคำสาปโลหิตแล้ว ข้าเพียงแค่อยากจะใช้ชีวิตที่เหลือของข้าอย่างดีเท่านั้น และอยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อตนเองสักครั้ง”
จอมมารเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นท่านกลับเผ่าอสูรไปพร้อมข้าสิ ข้าจะเด็ดดอกไม้ให้ท่านชมด้วยตัวเองเลย”
“ไม่แล้วล่ะ ท่านพี่อี้เฟยเพิ่งเสียไป ข้าจะต้องเฝ้าศพร้อยวันให้กับเขา รอครบร้อยวันแล้ว ข้าจะไปพบเจ้าที่เผ่าอสูรนะ”
จอมมารมิยอมจากไป
หนึ่งร้อยวันเชียวนะ
อีกนานแค่ไหนกัน…
เขามิอยากจะแยกจากกันกับพี่หญิงหรอก
“อาม่อ เมื่อใดที่เจ้าปลูกดอกพุดซ้อนทั่วทั้งหุบเขาด้วยตนเองแล้ว ข้าจะแต่งงานกับเจ้า เจ้านำคนมารับข้ากลับไปได้เลย”
“แต่งงานกับข้างั้นหรือ?”
จอมมารหัวใจเต้นรัว และตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ใช่ แต่มีเงื่อนไขคือ เจ้าต้องปลูกดอกพุดซ้อนที่ข้าอยากได้ให้ขึ้นให้ได้ และเจ้าต้องเป็นคนปลูกเองเท่านั้น ห้ามให้ผู้อื่นช่วย และต้องปลูกให้ขึ้นภายในหนึ่งเดือนเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...