เซี่ยวอวี่เซวียนขวี้ยงทวนไปเกิดเสียงดังตุ๊บปักไปบนพื้นอย่างแรง
น้ำหนักนั้นมากมายจนทำให้พื้นดินแตกร้าวไปหมด
ทวนจมลงไปในพื้นหลายชุ่นและด้ามหอกก็แกว่งตามแรงลมไปมาในด้วยความสั่น
เซี่ยวอวี่เซวียนหันหลังจากไป เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยโดยที่ไม่ได้ทิ้งน้ำตาไว้เลยแม้แต่หยดเดียว
แต่ว่าทำให้คนปวดใจอย่างไร้ซึ่งเหตุผล
แผ่นหลังอันเย็นยะเยือกที่จากไปท่ามกลางสายฝนประทับอยู่ในจิตวิญญาณของกู้ชูหน่วนอย่างล้ำลึก
ดูเหมือนว่าสวรรค์จะทรงทราบถึงความโศกเศร้าของนาง ไม่เพียงแต่สายฝนตกหนักไม่หยุดแต่ยิ่งอยู่กลับยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าสายฝนนานหลายปีจะตกลงมาจนหมดในช่วงเวลานี้
“เสียงฝนตก......”
ฝนตกหนักทำให้หลังของเซี่ยวอวี่เซวียนที่ห่างไกลออกไปขุ่นมัวและทำให้ดวงตาของนางพล่ามัวไปด้วย
ขาทั้งคู่ของกู้ชูหน่วนอ่อนแรงและคุกเข่าลงมาเลยโดยตรง
นางกุมหัวใจของตนไว้แน่น ตรงนั้นเจ็บปวดทรมานจนนางหายใจไม่ออก
มิตรภาพอันลึกซึ้งกับเซี่ยวอวี่เซวียนได้หายไปในชั่วขณะนี้จนกระทั่งแตกหักกลายเป็นศัตรูกัน
นางไม่รู้ว่านางทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่
นางเพียงแค่หวาดกลัวนัก......
ช่างหวาดกลัวยิ่งนัก......
"นายท่าน......"
ฝูกวงเร่งมาพร้อมกับทหารอารักขากลุ่มหนึ่ง
เมื่อมาถึงก็เห็นกู้ชูหน่วนคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มือข้างหนึ่งกุมหัวใจเอาไว้แน่นและมืออีกข้างหนึ่งยันอยู่บนพื้นโดยที่ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดและไม่รู้ว่ารู้สึกหนาวเย็นหรือเปล่า
แววตาที่สิ้นหวังและเศร้าเสียใจเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นในตัวนายท่านมาก่อน
ฝูกวงรีบถอดเสื้อคลุมของตนออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นสวมบนร่างกู้ชูหน่วนโดยงอขาทั้งคู่และคุกเข่าอยู่ตรงหน้านาง
"นายท่าน......"
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นและสิ่งที่ประทับเข้ามาในแววตาคือความวิตกกังวลมากมายที่ไม่สามารถปกปิดได้บนใบหน้าอันอ่อนโยนงดงามสะอาดสะอ้านของฝูกวง
นางกล่าวเสียงสั่นว่า "เซี่ยวอวี่เซวียน......ไปแล้ว......เขาจะไม่กลับมาอีกแล้วและจะไม่ยกโทษให้ข้าด้วย"
ดวงตาของฝูกวงแดงขึ้นมา ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่แต่ก็ยังคงยิ้มพร้อมปลอบโยนว่า “คุณชายเซี่ยวมีมิตรภาพอันลึกซึ้งกับท่านยิ่งนักเขาจะทิ้งท่านไปได้อย่างไร จวนท่านแม่ทัพเกิดปัญหาสาหัสสากรรจ์เขาอาจจะยังยอมรับไม่ได้ชั่วขณะ รอให้เขาสงบใจเย็นลงก็จะปฏิบัติต่อท่านดังเช่นดังเดิมเป็นแน่”
ใช่หรือ......
เป็นไปได้หรือที่เขาจะกลับมาอีก?
เป็นไปได้หรือที่จะให้อภัยนาง?
เป็นไปไม่ได้แล้ว
เซี่ยวอวี่เซวียนดูราวกับหนุ่มเจ้าสำราญและเกกมะเหรกเกเร
แต่เขา......มีขีดจำกัดของตนเอง......
หากว่าตระกูลเซี่ยวไม่ได้ถูกกำจัดจนสิ้นซากทั้งตระกูลเช่นไรเซี่ยวอวี่เซวียนก็ไม่มีทางแตกหักกับนาง
ช่างน่าเสียดาย......
ทั้งตระกูลสามร้อยกว่าชีวิตตายกันหมด......
ตายหมดสิ้นเสียแล้ว......
ในเวลาที่เขาต้องการมากที่สุดนางไม่เพียงแต่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ยังช่วยเหลือศัตรูผู้ฆ่าสังหารญาติมิตรของเขาอีกด้วย......
ความโกรธเคืองนี้ใช่ว่าจะสามารถคลายออกได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ
“นายท่าน หานอ๋องอยู่ด้านนอกของจวนท่านแม่ทัพ หรือว่า......จะให้เขาเข้ามาหรือ?”
“ไล่เขาไป ข้าไม่อยากพบผู้ใดทั้งนั้น”
กู้ชูหน่วนลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลและเดินโซเซไปด้านหน้า
ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง กู้ชูหน่วนเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนเพียงลำพังอย่างไร้จุดหมาย ราวกับเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากสรวงสวรรค์
ฝูกวงปวดใจนัก
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้นายท่านพบเจอความเจ็บปวดมากมายยิ่งนัก
เขาต้องการตามไปแต่เขารู้ว่าในเวลานี้นายท่านไม่ต้องการให้มีคนตามไปเป็นแน่
จึงทำได้เพียงกล่าวอย่างสะอึกสะอื้นว่า "ข้าน้อยจะรีบส่งคนไปตรวจสอบฆาตกรตัวจริงผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างจวนท่านแม่ทัพในทันที"
กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเบาเสียงหนึ่ง
ตรวจสอบ?
จำเป็นต้องตรวจสอบหรือ?
นอกจากรองหัวหน้าเผ่าซือคงแล้วจะมีผู้ใดที่มีความสามารถให้ลั่วอิ่งฆ่าสังหารตระกูลท่านแม่ทัพหมดทั้งตระกูลได้?
กู้ชูหน่วนไม่ได้มองย้อนกลับเพียงแค่จากไปอย่างล้มลุกคลุกคลานและโซซัดโซเซ
ฝูกวงมองกู้ชูหน่วนแล้วมองฝูกวงกลับพร้อมทั้งซากศพกองเต็มพื้นดิน
ท้ายที่สุดก็โบกมือให้คนนำผู้ที่เสียชีวิตในจวนท่านแม่ทัพไปฝังเสียก่อน
ลั่วอิ่งใช้ดาบยันพร้อมกับลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางสายฝนตกหนักเขาก็เดินโซเซเช่นเดียวกันโดยเดินตามกู้ชูหน่วนไปอย่างไม่ห่าง
ในป่า
เขาฆ่าล้างสังหารคนของจวนท่านแม่ทัพ
แต่เขาไม่ได้สังหารเซี่ยวอวี่โหลวกับเซี่ยวหว่านเอ๋อร์และคนอื่นๆ
สิ่งเหล่านั้นเป็นฝีมือของลูกน้องของเขา......
ลั่วอิ่งถอนหายใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน
เขาเป็นคนพาคนบุกสังหารเข้าไปในจวนท่านแม่ทัพ ลูกน้องของเขาสังหารก็เท่ากับเขาเป็นผู้สังหาร......
เขาไม่มีสิ่งใดโต้เถียงได้
"เจ้าสังหารข้าเสียเถอะ"
ลั่วอิ่งหลับตาลงและเต็มใจที่จะตายด้วยน้ำมือของนาง
“พรึ่บๆๆ......”
กู้ชูหน่วนตบทั้งซ้ายขวาอยู่ข้างหูเขาหลายสิบครั้งติดต่อกัน เสียงตบดังกระจ่างชัดขึ้นในคืนฝนตก
“เจ้าสมควรตายอย่างแน่นอน มือของเจ้าเต็มไปด้วยชีวิตคนสามร้อยยี่ห้าชีวิตของตระกูลเซี่ยว เจ้าคิดว่าหนึ่งชีวิตของเจ้าสามารถชดใช้ได้หรือเปล่า?”
ปรากฏเลือดไหลตรงมุมปากของลั่วอิ่ง
ฟันสองซี่ถูกนางตบจนร่วงลงมา
เขาไม่เก่งเรื่องการพูดจา
เหตุผลที่เขาตามกู้ชูหน่วนออกมา ประการแรกเนื่องจากเขาไม่สามารถสังหารเซี่ยวอวี่เซวียนได้เขากลัวว่านายท่านจะกระทำไม่ดีต่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่จึงต้องการขอความช่วยเหลือจากกู้ชูหน่วน
ประการที่สองเนื่องจากกู้ชูหน่วนกล่าวว่าจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่เป็นพ่อแม่ของเขา เขาต้องการถามให้กระจ่างชัดว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาจริงหรือไม่
ประการที่สามเนื่องด้วยกู้ชูหน่วนเพื่อเขาแล้วยอมที่จะแตกหักกับเซี่ยวอวี่เซวียน เขาไม่รู้ว่าเหตุใดกู้ชูหน่วนถึงได้ดีกับเขาเช่นนั้น
ลั่วอิ่งหมองหม่นลง
คำพูดเต็มอกถูกอัดอั้นกลับไปทั้งหมดโดยให้กู้ชูหน่วนระบายอารมณ์ออกมาตามใจหมาย
เยี่ยจิ่งหานหายใจเร็วขึ้น รู้สึกเจ็บปวดใจต่อมือที่กู้ชูหน่วนตบจนแดงไปหมด
มือสังหารผู้หนึ่งตายไปก็ไม่น่าเสียดาย แต่เพื่อตบตีเขาจนมือของนางแดงไปซะหมดแล้ว......
“แม้ว่าเจ้าจะถูกดาบฟันนับพันนับหมื่นเจ้าก็ไม่สามารถชดใช้สามร้อยกว่าชีวิตของตระกูลเซี่ยวได้”
ลั่วอิ่งไร้กำลังโต้เถียง
"เจ้าต้องการช่วยจักรพรรดิฉู่กับพระมเหสีฉู่?"
“ใช่” ลั่วอิ่งเปล่งประกายความหวังขึ้น
กู้ชูหน่วนฉายเจตนาสังหารออกมา "งั้นก็ช่วยข้า สังหารเจ้าเดรัจฉานรองหัวหน้าเผ่าซือคงซะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...