กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 746

"หัวหน้าเผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อหลายปีก่อนและเสียเลือดมาก จึงจำเป็นต้องใช้เลือดของผู้เป็นญาติโดยตรงในการรักษา ตอนนั้นทุกคนต่างเห็นว่าควรให้นายน้อยมาและแม้แต่ตัวของนายน้อยเองก็อาสาเองว่าจะใช้เลือดของตัวเองเพื่อทำการรักษาให้หัวหน้าเผ่า แต่หัวหน้าเผ่ากลับปฏิเสธ"

"เขายอมตาย แต่จะไม่ยอมใช้เลือดของนายน้อย นี่หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่านายน้อยไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของหัวหน้าเผ่า หัวหน้าเผ่ารู้อยู่แก่ใจดีว่าเลือดของเขานั้นไม่มีประโยชน์อะไร ฉะนั้นจึงทำการปฏิเสธออกไป"

"และยังมีอีก มีครั้งหนึ่งในขณะที่หัวหน้าเผ่ากำลังฝึกฝนวิทยายุทธอยู่นั้นเกือบจะถูกครอบงำและได้สูญเสียสติ จากนั้นเขาจึงชี้ไปที่นายน้อยและตะโกนออกมาว่า เจ้าไม่ใช่ลูกชายของข้า เจ้าไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของข้า"

ทุกคำที่ผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงพูดออกมานั้น ทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนและคนอื่นๆ ต่างพากันไม่พอใจนัก

พวกเขาต้องการตอกกลับ แต่เขากลับพูดเรื่องจริงจึงทำให้ไม่สามารถพูดปฏิเสธอะไรได้เลย

"และยังมีอีก ฝีมือศิลปะการต่อสู้ของหัวหน้าเผ่านั้นไร้ผู้ใดเปรียบและได้เป็นถึงยอดฝีมือสูงสุดระดับที่เจ็ดแล้ว นายน้อยก็เป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าเผ่า แต่เหตุใดหัวหน้าเผ่าถึงไม่สั่งสอนสืบทอดวิทยายุทธการต่อสู้ต่างๆ ให้กับนายน้อยเลย? ถึงขนาดห้ามให้เขาฝึกซ้อมวิทยายุทธอีกด้วย?"

ชู่วว......

กลุ่มคนต่างพูดคุยกันอย่างครึกโครม

เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นดังราวกับเสียงสายน้ำไหล

"ผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงพูดมาก็ฟังดูมีเหตุผล เรื่องเดียวอาจเป็นเพราะความบังเอิญ แต่คงไม่ใช่ว่าทุกเรื่องจะบังเอิญหรอกกระมัง"

"ก็ใช่น่ะสิ ในอนาคตนายน้อยจะต้องเป็นผู้นำของเผ่าเพลิงฟ้า หากไม่มีวิทยายุทธชั้นยอดจะเป็นได้อย่างไร หัวหน้าเผ่าต้องการมอบตำแหน่งหัวหน้าเผ่าให้กับเขา แต่เหตุใดถึงไม่สอนเขาถึงศิลปะการต่อสู้ แถมยังพูดว่า หากนายน้อยคิดคดทรยศแม้แต่นิดเดียว เช่นนั้นก็จะจัดการทำลายเขาเสีย"

"ใช่ ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยและผู้อาวุโสคนอื่นยืนหยัดที่จะถ่ายทอดวิทยายุทธและการศิลปะการต่อสู้ให้กับนายน้อยละก็ เช่นนั้นก็เกรงว่านายน้อยคงเป็นได้เพียงคนธรรมดาเท่านั้น มีหรือจะเป็นถึงยอดฝีมือระดับหกที่น่าภาคภูมิใจดังเช่นนี้"

"ตามที่พวกเจ้าพูดมานั้น จริงหรือที่นายน้อยไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของหัวหน้าเผ่า?"

"ข้าคิดว่าเป็นเช่นนั้น"

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ซ่งอวี้ยิ้มออกมาและกล่าวเสียงดัง "นายน้อยเป็นลูกชายแท้ๆ ของหัวหน้าเผ่าหรือไม่นั้น สามารถรอให้หัวหน้าเผ่าบำเพ็ญเพียรออกมาแล้วค่อยถามก็ได้ ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลและไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ หากนายน้อยเป็นลูกชายของหัวหน้าเผ่าจริง เช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายจิตใจของนายน้อยไปเสีย"

"ฮึ หัวหน้าเผ่าบำเพ็ญเพียรเป็นเวลานานแต่กลับไม่ออกมา แม้แต่เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้นกับเผ่าเพลิงฟ้าก็ไม่คิดออกมา ข้าสงสัยว่านายน้อยคงจะกระทำมิดีมิร้ายกับหัวหน้าเผ่าแน่ๆ" ตงหลิงกล่าว

ซ่งหยวนพับแขนเสื้อขึ้นและอดไม่ได้ที่จะต่อสู้กับเขา

"ตาเฒ่าตงหลิง เจ้าจงใจที่จะหาเรื่องนายน้อยให้ได้เลยใช่หรือไม่? นายน้อยเป็นคนจิตใจดีและโดยเฉพาะเคารพรักต่อหัวหน้าเผ่า เช่นนั้นแล้วเขาจะสามารถทำอะไรกับหัวหน้าเผ่าได้"

"เขตหวงห้ามที่หัวหน้าเผ่าบำเพ็ญเพียรอยู่นั้นมีเพียงนายน้อยเพียงคนเดียวที่สามารถเข้าไปได้ เจ้าบอกว่านายน้อยทำอะไรมิดีมิร้ายต่อหัวหน้าเผ่า เช่นนั้นเจ้าก็บอกข้าว่าเหตุใดหัวหน้าเผ่าถึงไม่ออกมา"

"ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเหตุใดหัวหน้าเผ่าถึงไม่ออกมา? ข้าไม่ได้เป็นพยาธิในท้องของเขาเสียหน่อย ข้าเพียงแค่เชื่อใจในนายน้อยเส่าอี๋ว่าเขาไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน"

"เรื่องที่ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยและผู้คนอีกจำนวนกว่าสองพันคนต้องตายลงอย่างน่าอนาถที่เผ่าหยก แต่นายน้อยกลับไม่พูดอธิบายใดๆ เลยล่ะ"

เมื่อพูดไปพูดมาและมาจบลงที่นี่

อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสสูงสุดซงหยวน แม้แต่ผู้อาวุเฉินก็รู้สึกโกรธมากเช่นกัน

"อย่าพูดจาเหลวไหลเช่นนี้อีก"ผู้อาวุโสเฉินกล่าวตักเตือน เขาไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดหรือมีสถานะตำแหน่งที่สูงกว่าเขามากเพียงใด

รองหัวหน้าเผ่าซือคงหัวเราะอย่างเย็นชา

"ไม่มีหลักฐาน เช่นนั้นเราก็จะไม่พูดออกไป นอกจากเหวินเส่าอี๋และลูกศิษย์อีกหนึ่งคนที่รอดชีวิตออกมาจากเผ่าหยก"

รองหัวหน้าเผ่าซือคงผายมือออก จากนั้นลูกศิษย์ในเผ่าคนหนึ่งก็เดินออกมาด้วยอาการตัวสั่นเทา

ทุกคนต่างรู้จักว่านั่นคืออาหู่ ลูกศิษย์ของผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเย่

รองหัวหน้าเผ่าซือคงกล่าวว่า "ไม่ต้องกลัว เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่เผ่าหยกที่เจ้าได้เห็นออกมาให้หมด มีข้าอยู่ ใครก็ไม่กล้าทำอะไรเจ้า"

อาหู่ตัวสั่นเทา เขาก้มหน้าและไม่กล้าเงยหน้ามองเหวินเส่าอี๋ คำพูดที่พูดออกมานั้นก็เข้ากับลิ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่รู้ว่าเขากำลังหวาดกลัวอะไร

"ข้า......เพราะข้ารู้วิชาคาถาเวทมนตร์อยู่บ้าง ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเย่จึงได้สั่งให้ข้าปลอมตัวเป็นลูกศิษย์ของเผ่าหยก และ......ปลอมตัวเข้าไป"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์