กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 761

หน้าประตูหินสุดท้ายของเขตหวงห้าม

ทั้งหุบเขาตันหุยและเผ่าหยกพยายามทำลายมาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่สามารถทำลายได้

หุบเขาตันหุนกระตือรืนร้นที่จะทำลายประตู จึงได้ใช้วิธีดั้งเดิมที่สุดในการทำลาย โดนสั่งให้คนทุบตีประตูด้วยเสาเหล็กขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

แต่เสาเหล็กนั้นทั้งใหญ่และหนัก ต้องใช้จำนวนลูกศิษย์สิบถึงร้อยคนช่วยกันแบกถึงจะทุบประตูได้

ทุกครั้งที่ทุบตี บริเวณเขตหวงห้ามก็จะสั่นคลอนทุกครั้ง

พลังการทุบตีอันแข็งแกร่ง ทุบจนเขตหวงห้ามแทบจะล้มทลาย

กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความกริ้วโกรธเล็กน้อย “เจ้ามันช่างประมาทเลินเล่อเสียจริง หากล้มทลายขึ้นมา ผู้คนทั้งเขตหวงห้ามก็ต้องตายไปพร้อมกัน”

“หากเจ้ากลัวก็รีบไสหัวไปซะ ไม่มีใครขอให้เจ้าอยู่”

“เซี่ยวอวี๋เซวียน กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา คนที่สังหารหมู่จวนแม่ทัพคือไอ้คนเลวทรามซือคง คนที่เจ้าต้องล้างแค้นคือเขา เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั้งเผ่าเพลิงฟ้า เจ้ากลับไม่สนใจชีวิตของบรรดาลูกศิษย์ที่เจ้านำมาด้วยเลย เช่นนี้เจ้าจะแตกต่างจากไอ้คนเลวทรามซือคงนั้นอย่างไรกัน?”

เมื่อได้ยินดังนี้ ดวงตาของน่าหลานหลิงลั่วก็ฉายแววความแค้นอย่างรุนแรงขึ้นมา เขาเดินเข้าไปใกล้กู้ชูหน่วน และพูดเสียงดังฟังชัดว่า “นอกจากซือคงที่แค้นมาเนิ่นนาน และลั่วอิ่งแล้ว ไม่มีผู้ใดที่สังหารหมู่จวนแม่ทัพเลยอย่างนั้นหรือ เผ่าเพลิงฟ้ามิได้เข้าร่วมเลยแม้แต่น้อยงั้นหรือ? เจ้าช่วยลั่วอิ่ง มิได้หมายความว่าเจ้าช่วยเหลือศัตรูงั้นหรือ?”

คำพูดเหล่านี้ที่พูดออกจากปากเขา เท่ากับว่าเขายอมรับแล้วว่าตนคือ เซี่ยวอวี๋เซวียน

ขณะที่คำพูดของเขาดังขึ้น สีหน้าของกู้ชูหน่วนก็แย่ลงตามๆ กัน

โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เจ้าช่วยลั่วอิ่ง มิได้หมายความว่าเจ้าช่วยเหลือศัตรูงั้นหรือ?

“เผ่าเพลิงฟ้าอาจมิได้เข้าร่วมทำลายจวนแม่ทัพก็เป็นได้ ผู้ที่สังหารหมู่จวนแม่ทัพคือกองกำลังมือสังหารที่ไอ้คนเลวทรามซือคงฝึกฝนเลี้ยงดูโดยลับมา”

“เจ้ามั่นใจได้อย่างไรกัน?”

กู้ชูหน่วนสำลัก

วันนั้นมือสังหารที่สังหารหมู่จวนแม่ทัพ เขามิได้ไม่เคยพบมาก่อน

วรยุทธ์ของคนพวกนั้น เขารู้ดียิ่งกว่านาง

และรู้ดีว่าเผ่าเพลิงฟ้านั้นมิได้เข้าร่วมด้วยเลยแม้แต่น้อย

เซี่ยวอวี๋เซวียนเพียงแค่นำความโกรธระบายกับเผ่าเพลิงฟ้าเท่านั้น เพราะไอ้คนเลวทรามนั้นเป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้าอย่างไรล่ะ

“แม้นเผ่าเพลิงฟ้าจะเข้าร่วมด้วยจริง ทว่าเจ้าก็สังหารหมู่ชีวิตนับหมือนชีวิตของเผ่าเพลิงฟ้าแล้ว”

“ไม่พอ แม้นจะฆ่าทั้งเผ่าเพลิงฟ้า ก็ไม่พอสำหรับทั้งสามร้อยยี่สิบห้าชีวิตของจวนแม่ทัพของข้า”

“โครมคราม…”

เขตหวงห้ามสั่นคลอนทั่วทั้งธรณี เห็นได้ชัดเจนว่ามันถูกทุบตีจนถึงจุดสุดท้ายแล้ว

หากทุบตีเช่นนี้ต่อไป เขตหวงห้ามจะต้องล้มทลายเป็นแน่

“สั่งให้คนของเจ้าหยุดซะ” กู้ชูหน่วนกล่าว

“ทหาร รีบเร่งอย่างสุดความสามารถ ผู้ใดที่สามารถทุบประตูหินให้พังลงได้ ผู้นั้นจะเป็นผู้มีคุณูปการมากที่สุดของการเข้าตีเผ่าเพลิงฟ้าในครั้งนี้”

“เซี่ยวอวี๋เซวียน…เจ้าต้องบังคับข้าเช่นนี้จริงๆ หรือ?”

“ตอนที่ข้าฆ่าลั่วอิ่ง เจ้ากลับช่วยเขา ตอนที่ข้าทำลายเผ่าเพลิงฟ้า เจ้าก็คอยช่วยเหลือพวกเขา วันนี้ข้าจะฆ่าเหวินเฉิงเทียนและเหวินเส่าอี้ เจ้าก็ยังคงช่วยพวกเขา กู้ชูหน่วน เจ้าอยากช่วยพวกเขาย่อมได้ แต่ต้องข้ามศพข้าเซี่ยวอวี๋เซวียนและลูกศิษย์ของข้าไปเสียก่อน”

“ระหว่างเรา จำต้องเป็นเช่นนี้เลยหรือ?”

“ตอนที่เจ้าเลือกลั่วอิ่งในตอนนั้น ระหว่างเราก็ได้ตัดขาดจากกันโดยสิ้นเชิงแล้ว”

“เสี่ยวเซวียนเซวียน…”

“หุบปาก เจ้าไม่คู่ควรที่จะเรียกข้าเช่นนั้น”

“โครมคราม…”

เขตหวงห้ามสั่นคลอน ผู้คนแทบจะยืนไม่อยู่ ก้อนหินในเขตหวงห้ามก็ตกลงไปอย่างกระหน่ำ บางคนที่หลบไม่ทันก็ถูกทับจนตายในตอนนั้นทันที

“หัวหน้าเผ่า ไม่ก็หยุดเขา ไม่ก็ถอยกลับเสีย ที่นี่มันอันตรายนัก มิอาจอยู่ต่อไปได้แล้วขอรับ”

ในห้องหินห้องสุดท้าย

เหวินเส่าอี้และคนอื่นๆ ต่างเป็นกังวล รวมทั้งเหล่าผู้อาวุโสที่ถอยเข้ามาก็ด้วย

แต่ละคนต่างเป็นกังวลจนเดินวนไปมาคล้ายกับมดบนหม้อร้อนอย่างไรอย่างนั้น

นี่เป็นแนวป้องกันสุดท้ายแล้ว

เพียงแค่ประตูหินบานนั้นถูกทำลาย พวกเขาก็มิอาจหนีออกไปได้แล้ว

ทว่าหากหุบเขาตันหุยทบตีเช่นนี้ต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์