"ท่านว่าหล่ะ"
เสียงครูดเสียงหนึ่ง
ฮวาอิ่งดึงดาบสั้นเล่มหนึ่งออกจากร่างพร้อมรอยยิ้มมืดมนในแววตาและก้าวเดินไปทางเหวินเฉิงเทียนทีละก้าวๆ
“เจ้ามีความสามารถก็ฆ่าข้าเลยโดยตรง
"
“ฆ่าท่านโดยตรงหรือ? เช่นนั้นก็เสียเปรียบไปแล้ว ข้าฮวาอิ่งฆ่าคนไม่เคยอฃปล่อยให้คนตายอย่างง่ายดายมาก่อนเกิน ท่านก็ไม่มีข้อยกเว้นเป็นธรรมดา”
นางกล่าวแล้วก็ยกมีดสั้นขึ้นเฉือนลงไปทีละแผลๆบนเนื้อที่แขนซ้ายของเหวินเฉิงเทียน
หนึ่งชิ้น สองชิ้น สามชิ้น สิบชิ้น ร้อยชิ้น......
เลือดสดๆปลิวกระเด็น
บางส่วนกระเด็นลงบนตัวของเหวินเฉิงเทียน
บางส่วนกระเด็นลงบนพื้นและบนตอไม้
บางส่วนกระเด็นใส่ร่างของฮวาอิ่ง
ยิ่งเลือดกระเด็นมากขึ้นฮวาอิ่งก็ยิ่งหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง
"อ๊า......"
เหวินเฉิงเทียนสูดลมหายใจเย็นเข้าด้วยความเจ็บปวด เขาต้องการที่จะต่อต้านแต่ผู้ที่สูญเสียวรยุทธ์และได้รับบาดเจ็บสาหัสจะเป็นคู่ต่อสู้ของยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกได้ที่ใด
เลือดเนื้อบนแขนของเขาถูกเฉือนออกทีละชิ้นๆ ความเจ็บปวดนั้นทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่าบาดแผลนับพันนับหมื่นเป็นหมื่นพันเท่า
เสียงความเจ็บปวดกับเสียงหัวเราะปนเปกันเปรียบเทียบเท่าเสียงอันแปลกประหลาดอย่างยิ่งชนิดหนึ่ง
"ช่างสนุก ช่างสนุก ฮ่าๆๆ......"
"ฉึก......"
ร่วงหล่นลงตามหลังมีดเล่มสุดท้ายทีละแผลๆ แขนซ้ายของเหวินเฉิงเทียนถูกเฉือนออกทีละชิ้นๆจนเหลือเพียงโครงกระดูกอันสมบูรณ์เท่านั้น
เป็นโครงกระดูก โครงกระดูกที่ไม่มีเศษเนื้อติดเหลืออยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
"ชู่ว์ๆๆ ไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด มีเลือดสดๆไหลหลงเหลืออยู่บนโครงกระดูก ไม่งั้นเรามาลองดูทางขวากันเถอะ"
ไม่รอให้เหวินเฉิงเทียนกล่าวและไม่ได้รอให้เขาผ่อนคลายลง
เลือดเนื้อบนแขนข้างขวาของเขาก็ถูกเฉือนออกทีละชิ้นๆ ราวกับดีดตัวพิณดังชิ่วๆๆๆๆเช่นนั้น
“อ๊า......เจ้าฆ่าข้าเถอะ เจ้าฆ่าข้าเสียเถอะ”
“ฆ่าท่าน ข้าจะทนฆ่าท่านได้เช่นไรหล่ะ ท่านเป็นถึงพ่อแท้ๆของลูกชายข้า หากว่าข้าฆ่าท่านลยโดยตรง ลูกชายของเราจะต้องตำหนิข้าเป็นแน่ ข้าไม่เพียงแต่จะไม่สังหารคนยังจะต้องปรนนิบัติท่านเป็นอย่างดี ฮ่าๆๆ......"
สด......
กระเด็นกระดอนอย่าวงไร้ที่สิ้นสุด
เหวินเฉิงเทียนหมดสติไปหลายครั้งแล้วก็ปวดจนฟื้นขึ้นมา
เขาต้องการกัดฟันฆ่าตัวตายแต่ฮวาอิ่งไม่ให้โอกาสนี้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
สถานที่อันห่างไกล
จู่ๆกู้ชูหน่วนก็หยุดลงกะทันหันและให้สัญญาณมือกับลูกน้องให้สงบเงียบลงก่อน
“เป็นอย่างไรบ้างท่านหัวหน้าเผ่า”
“พวกเจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?”
“เสียง? ไม่มีขอรับ ใช่เสียงของอสุรกายปักษีหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ เป็นเสียงกรีดร้อง”
ผู้คนตั้งใจฟังอย่างละเอียดแต่กลับไม่ได้ยินสิ่งใดเลย
กู้ชูหน่วนก็รู้สึกแปลกใจ
เมื่อครู่นางได้ยินอย่างชัดเจน
เสียงนั้นอยู่ไม่ไกลจากนางนัก และกรีดร้องอย่างน่าเวทนายิ่งนัก
ตามมาด้วยยังเป็นเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งอันหนึ่ง
มีคนสร้างค่ายกลไว้เพื่อแยกเสียงออกไปหรือ?
“พวกเจ้าไปดูททางโน้น พวกเจ้าตามข้าไป”
กู้ชูหน่วนเร่งความเร็ว
ตลอดทางที่ผ่านไม่เห็นร่องรอยของฮวาอิ่งและคนอื่นๆ
ยิ่งไร้ร่องรอยนางก็ยิ่งรู้สึกว่าฮวาอิ่งอยู่ใกล้ๆ
เดินไปมาอยู่ตลอดทาง
ไม่รู้ว่าเนื่องจากการได้ยินอันแหลมคมกว่าผู้อื่นของนางหรือเปล่าทำให้นางสามารถค้นหาที่มาของเสียงได้จากความผันผวนของคลื่นลมหรือก้อนเมฆ
เข้าใกล้ทีละก้าวๆ
กู้ชูหน่วนได้เห็นเรื่องที่ทำให้นางรู้สึกชาหนังศีรษะมากที่สุดในชีวิตนี้
นั่นเป็นภาพอันโหดร้ายทารุณมากเช่นใด
ฮวาอิ่งใช้ดาบสั้นเล่มหนึ่งเฉือนเลือดเนื้อบนแขนทั้งสองข้างของเหวินเฉิงเทียนออก เฉือนจนเหลือเพียงแค่แต่โครงกระดูกก็ช่างเถอะ
ทั้งยังเฉือนขาทั้งสองข้างของเขาเป็นโครงกระดูกด้วย รวมทั้งจมูก หู ได้ถูกนางเฉือนออกจนหมด
เลือดหลั่งไหลริน ทั่วทั้งพื้นเต็มไปด้วยเลือดเนื้อ
ฉากนั้นเลือดท่วมนองและโหดเหี้ยมอำมหิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...