กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 771

บริเวณถิ่นทุรกันดารป่ารกร้าง ม้าจำนวนหนึ่งวิ่งฝุ่นตลบอบอวล

ผู้อาวุโสหกที่อยู่บนเบาะรอง สั่นสะเทือนจนไม่ไหว ร้องตะโกนอยู่ด้านหลังอย่างบ้าคลั่ง

“ช้าๆหน่อย กระดูกอันเสื่อมโทรมของข้าจะแหลกละเอียดแล้ว”

คนที่อยู่ด้านหน้าจะยอมหยุดที่ไหนกัน แส้ม้ายกขึ้นอย่างรวดเร็ว แทบอยากจะถึงเผ่าหยกอย่างรวดเร็ว เพื่อขัดขวางกู้ชูหน่วนจากการเซ่นไหว้

“ไม่ไหวแล้ว ข้าขี่ม้าไม่ไหวแล้ว ขี่อย่างนี้ต่อไป ชีวิตข้าต้องสูญเป็นแน่” ผู้อาวุโสหกก็อยากจะรีบกลับเผ่าหยก แต่สีหน้าของเขาซีดเผือด ร่างกายอ่อนแอมาก ในระยะเวลาสั้นๆนี้เดินข้ามน้ำข้ามทะเลไม่หยุด ร่างกายของเขาถูกขุดจนว่างเปล่าแล้ว

“นายท่าน บาดแผลของท่านเปิดอีกแล้ว สถานการณ์ของผู้อาวุโสหกก็ไม่ดี เอาอย่างนี้ดีไหมพวกเราพักกันก่อนสักครู่หนึ่ง”

เจี้ยงเสวี่ยมองรอยคราบเลือดที่เปิดออกตรงบริเวณหลังของเยี่ยจิ่งหาน เลยอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

เดิมบาดแผลของนายท่านก็อาการหนัก ทำการสู้รบขั้นตอนเด็ดขาดกับเหวินเส่าอี๋ บาดแผลบนร่างกายยังไม่ทันหายดี เป็นอย่างนี้ต่อไป เขาเกรงว่ายังไม่ถึงเผ่าหยก ร่างกายของนายท่านก็จะล้มลงเป็นแน่

สีหน้าของพวกชิงเฟิงพอกันกับสีหน้าของผู้อาวุโสหก เขาเลยรีบกล่าวว่า“นายท่าน พักผ่อนสักครู่เถิดนะ”

“เพิ่มระดับความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

เยี่ยจิ่งหานออกคำสั่งตอบกลับชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยอย่างไม่ลังเล

พวกเขาจนปัญญา จึงทำได้เพียงเดินทางอย่างต่อเนื่อง

ผู้อาวุโสหกทนต้านไม่ไหว เลยตกลงจากม้า

ชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยดีใจ นึกว่านายท่านจะหยุดการเดินทาง แต่คิดไม่ถึงว่านายท่านจะตอบกลับมาอย่างเย็นชาว่า

“ชิงเฟิง ดูแลเอาผู้อาวุโสหกที่เป็นลมมาด้วย แล้วเดินหน้ากันอย่างต่อเนื่องเสีย”

“อา…..ก็ได้….”

เขาใช้แรงกำลังทั้งหมด รีบตามนายท่านไป เมื่อมีคนแก่ที่ต้องพาไปด้วยหนึ่งคนอีก เขาจะตามทันที่ไหนกัน

เส้นทางการเดินทางนี้ ไม่รู้เลยว่าม้าวิ่งตายแล้วกี่ตัว

การวิ่งนี้ ตอนที่ร่างกายของพวกเขาจะไม่ไหว ในที่สุดก็ได้มาถึงประตูของเผ่าหยกที่อยู่ไม่ไกลนัก

ผู้อาวุโสหกฟื้นแล้ว ตกลงม้าไม่หยุดที่จะอาเจียนออกมา

มือทั้งสองข้างของเยี่ยจิ่งหานกำแน่น ในใจสับสนว้าวุ่นอย่างประหลาด เขากลัวมาก กลัวจุดจบคือสิ่งที่เขาไม่กล้าจะพบเจอ

จนถึงวันนี้เขาเพิ่งจะรู้ ว่ากู้ชูหน่วนรักเขามากแค่ไหน

นางยินดีพลีชีพตนเอง ยินยอมทำลายหัวใจเขา และให้เขามีชีวิตที่ดี

“พู่ว์…..”

ไม่รู้ว่าเพราะบาดเจ็บไหม เยี่ยจิ่งหานเดินไม่กี่ก้าวก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด

เขาใช้มือเช็ด สาวเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยก็ทำได้เพียงวิ่งตามไปด้านหน้า

ทันใดนั้น เยี่ยจิ่งหานหยุดฝีเท้าลง สีหน้าอึมครึม

“นายท่าน เหตุใดถึงหยุดเดิน ต้องการพักผ่อนสักครู่?”

“สถานการณ์ไม่ชอบมาพากล”

“สถานการณ์ไม่ชอบมาพากล?เกิดเรื่องกับเผ่าหยก?หรือว่าพวกเรามาช้า?”

เผ่าหยกอายุนับพันปี มียอดฝีมือในเผ่ามากมายราวเมฆ คนธรรมดาไม่สามารถทำอะไรกับเผ่าหยกได้ พวกเขาสามารถนึกถึงได้คือพระชายาได้….

เยี่ยจิ่งหายมองท้องฟ้าที่อึมครึม ห่างไปแสนไกล เขารู้สึกสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัว และกลิ่นคาวเลือดที่ล่องลอยตามสายลม

กลิ่นคาวเลือดกระพือมาครั้งคราว บางครั้งแรง บางครั้งอ่อนๆ จากประสบการณ์หลายปีของเขา เขาสามารถวินิจฉัยได้ว่าข้างหน้ามีคนตายจำนวนไม่น้อย

เยี่ยจิ่งหานวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในที่สุด เขาก็มาถึงทางเข้าของเผ่าหยก

ประตูทางเข้าของเผ่าหยกปิดบังซ่อนเร้น หากไม่ใช่ผู้อาวุโสหกชี้แนะ เขาก็หาไม่เจอหรอก

ทางเข้ามีค่ายกลที่ไม่อาจเทียบได้คอยดูแล และยังมียอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับห้าที่ปกป้องดูแล

แต่เวลานี้ค่ายกลแตกถูกทำลาย ยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับห้าตายหมด

เห็นบาดแผลของพวกเขา ทั้งหมดถูกตบด้วยฝ่ามือตายเรียบ

ฝ่ามือหนึ่งก็สามารถตบยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับห้าตาย นี่เป็นคนยอดฝีมืออย่างไรกัน?

เยี่ยจิ่งหานหน้าซีดขาว

ชิงเฟิงกลืนน้ำลายลงคอ กล่าวอย่างตื่นตะลึงว่า“นี่ถูกยอดฝีมือระดับเจ็ดสังหารตายสินะ บนโลกใบนี้นอกจากหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าที่ตายไปแล้ว ยังมียอดฝีมือระดับเจ็ดอยู่หรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์