กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 773

"อาหน่วนล่ะ?"

เยี่ยจิ่งหานคว้าผู้อาวุโสสูงสุด เขาโกรธจนหน้าเขียว

ผู้อาวุโสสูงสุดอ้าปากค้างและกล่าวว่า "ในหุบเขาเจวี๋ยเฟิง ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเผ่าเพลิงฟ้าได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับเจ็ด หลังจากที่เขาออกจากการบำเพ็ญเพียร เผ่าเพลิงฟ้าก็ถูกเผ่าหยกทำลายจนสิ้นซากแล้ว เขาโกรธมากจนแทบอยากจะฆ่าล้างเผ่าหยก อาหน่วน... อาหน่วนยังสู้อยู่กับเขา"

เยี่ยจิ่งหาน ผู้อาวุโสหกและคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

นางยังไม่ได้เริ่มสังเวยชีวิต และหมายความว่านางยังมีชีวิตอยู่

ไม่นานพวกเขาก็เป็นกังวลขึ้นอีกครั้ง ผู้ที่มีวรยุทธระดับสี่กับผู้ที่มีวรยุทธระดับเจ็ด นี่ไม่ใช่ว่าไข่ปะทะกับหินหรอกหรือ?

เยี่ยจิ่งหานและคนอื่น ๆ รีบไปที่หุบเขาเจวี๋ยเฟิง

จอมมารตกตะลึงและกล่าวว่า "ยอดฝีมือระดับเจ็ดไม่ใช่คนของเผ่าหยกหรือ?เช่นนั้นพี่หญิงก็กำลังตกอยู่ในอันตราย เฮ้ เยี่ยจิ่งหาน ท่านรอข้าด้วย ข้าไม่รู้ทางไปหุบเขาเจวี๋ยเฟิง"

ผู้อาวุโสสูงสุดพยายามที่จะลุกขึ้น และต้องการไปที่หุบเขาเจวี๋ยเฟิง แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

โชคดีที่ผู้อาวุโสรองเข้ามาช่วยพยุงไว้ได้ทัน

"เร็วเข้า พาข้าไปที่หุบเขาเจวี๋ยเฟิง"

"ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านบาดเจ็บสาหัส ให้ข้ารักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านก่อนเถิด"

"เจ้าจะรู้อะไร เผ่าหยกต้องคำสาปโลหิตและทุกข์ทรมานมานานหลายปี กลไกของค่ายกลในเผ่าจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ได้มีอานุภาพมากเหมือนในตอนนั้นแล้ว รับมือกับยอดฝีมือระดับหกยังพอเป็นไปได้ แต่ไม่สามารถรับมือกับยอดฝีมือระดับเจ็ดได้อย่างแน่นอน"

"หากข้าเดาไม่ผิด อาหน่วนน่าจะทำลายผนึกได้แล้ว และจะสังหารผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ดของเผ่าเพลิงฟ้า"

"อะไรนะ ทำลายผนึก?เช่นนั้นคำสาปโลหิตของหัวหน้าเผ่าจะทำอย่างไร?"

จะทำอย่างไรได้อีก?

นางต้องการจะสังเวยชีวิต นางไม่ได้สนใจว่าจะทำลายผนึกหรือไม่?

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น

หุบเขาเจวี๋ยเฟิง เดิมทีที่นี่มีกลไกมากมาย และมีค่ายกลอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ในตอนนี้นอกจากซากค่อยกลแล้ว ก็มีเพียงหลุมลึกขนาดใหญ่และรอยฝ่ามือ

ต้นชิวเฟิงในหุบเขาเจวี๋ยเฟิงถูกถอนรากถอนโคนและล้มลงกับพื้น อีกทั้งต้นชิวเฟิงหลายต้นยังถูกเผาทิ้ง จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงส่งเสียงดังลั่น

ไม่รู้ว่าสีหน้าที่ดูดีใจของจอมมารจางหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขามองดูรอยฝ่ามือและลดเสียงลง

"ฝ่ามืออันทรงพลังที่ทิ้งหลุมลึกเหล่านี้ไว้ อย่างน้อยก็ต้องมีวรยุทธระดับเจ็ด อีกทั้ง... นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างสองผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ด พวกเจ้าดูสิ นี่คือสองฝ่ามือที่แตกต่างกัน เผ่าหยกก็มียอดฝีมือระดับเจ็ดเช่นกัน?"

สีหน้าของผู้อาวุโสหกดูน่าเกลียด

"เผ่าหยกผ่านความยากลำบากมามากมาย มียอดฝีมือระดับเจ็ดที่ไหนกัน หลายร้อยปีที่ผ่านมา มีเพียง…"

ฉ่า…

ก่อนที่คำพูดจะจบลง ทุกคนก็นึกถึงคนคนหนึ่ง กู้ชูหน่วน

เยี่ยจิ่งหานตะโกนโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ "กู้ชูหน่วน เจ้าอยู่ที่ไหน เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้ กู้ชูหน่วน... "

"พี่หญิง ข้านำดอกพุดซ้อนภูเขามาสู่ขอท่านแล้ว ท่านจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ"

กำลังภายในของพวกเขาลึกล้ำ จึงเสียงดัง และเกือบทั้งเผ่าหยกก็ได้ยินเสียงสะท้อนของพวกเขา

"จะตะโกนอะไรข้ายังไม่ตาย"

เสียงที่ไพเราะและค่อย ๆ ดังขึ้น ผู้คนต่างสั่นสะท้าน

เป็นเสียงของกู้ชูหน่วน

ผู้ทุกคนพากันหันกลับไปมอง แต่เห็นหญิงชุดแดงออกมาจากป่าชิวเฟิง

หญิงชุดแดงมีใบหน้าที่งามล่มเมือง ผมสีดำของนางสลวย และงดงามอย่างที่เปรียบไม่ได้ สายลมพัดผ่าน ชุดของนางพลิ้วไหว ประกอบกับใบชิวเฟิงที่ขับให้เด่นขึ้น ช่างงดงามยิ่งนัก

นางยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่

เพราะนางดูผ่านโลกมาอย่างโชกโชน และท่าทางดูหลุดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางโลก

เอวบางร่างน้อยเบา ราวกับเทพเซียนที่กำลังจะเหินขึ้นสู่สวรรค์

ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงสึกว่ากู้ชูหน่วนที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนเมื่อก่อนมากนัก

พวกเขาไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายบนร่างของนาง แต่รู้สึกถึงความลึกลับของนาง

สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องตกตะลึง คือนางถือศีรษะมนุษย์ที่เปื้อนเลือดไว้ในมือ

ศีรษะมนุษย์ตาถลึงราวกับว่าเขาไม่เต็มใจที่จะตาย และดูเหมือนจะหวาดกลัวอย่างสุดขีด

เลือดที่หยดลงมาบนพื้น มีพลังวิญญาณแพร่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง

บรรดาผู้ที่ฝึกยุทธ์ต่างก็รู้ว่ามีเพียงผู้ที่มีวรยุทธระดับเจ็ดขึ้นไปเท่านั้นที่จะมีพลังวิญญาณเช่นนี้หลังจากที่ตายไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์