พวกเขาต่างไม่มีใครเห็นสิ่งที่อยู่ในกระจก
และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้ที่ทำให้นายท่านของพวกเขาหวั่นไหวได้ นอกจากพระชายาแล้วก็ไม่มีใครอีก
กระจกบานนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันมาของเผ่าหยก ผู้อาวุโสสูงหรือหัวหน้าเผ่าหยกในตอนนี้ได้มอบกระจกส่องวิญญาณให้นายท่าน โดยหวังว่ากระจกส่องวิญญาณจะเผยให้เห็นเส้นสายวิญญาณสุดท้ายของพระชายา และสามารถดึงวิญญาณทั้งหมดกลับมาได้
ไม่เพียงเท่านั้น เผ่าหยกยังถ่ายทอดพลังวิญญาณต้องห้ามบางอย่างให้กับนายท่านด้วย
วิชาต้องห้ามเช่นนี้ สามารถสัมผัสถึงจิตวิญญาณของพระชายาได้
"นายท่าน......" เจี้ยงเสวี่ยส่งสายตาว่ายังต้องการจะฆ่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าหรือไม่
เยี่ยจิ่งหานโบกมือ
เจี้ยงเสวี่ยเข้าใจและถอยห่างออกไปในทันที
ชิงเฟิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และถอยออกไปเช่นกัน
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าวว่า "ฆ่าไก่ไยต้องใช้มีดเชือดวัว ข้าจะฆ่านางแทนท่านเอง"
"หากท่านฆ่าข้า เกรงว่าผู้ที่เขาจะฆ่าเป็นคนแรกคือท่าน"
กู้ชูหน่วนลูบผมที่หน้าผากของตัวเองและยิ้มอย่างมั่นใจ
หากเมื่อครู่นางกังวลเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของตัวเอง
เช่นนั้นตอนนี้นางก็ไม่ต้องกังวลแล้ว
"ข้าตามหาวิญญาณทั้งหมดกลับมาให้ท่านแล้ว ท่านปล่อยตระกูลมู่ไป และไม่ต้องถามหาความรับผิดชอบจากข้าอีก ว่าอย่างไร?" กู้ชูหน่วนมองไปที่เยี่ยจิ่งหาน และรอคำตอบจากเขา
เยี่ยจิ่งหานเงียบไม่พูดไม่จา นัยน์ตาที่มืดมนของเขาจ้องมองไปที่กู้ชูหน่วน
จ้องมองไปที่ผู้คน
คนในตระกูลมู่ไม่รู้ว่าเขาจะฆ่าหรือไม่
ไป๋หลี่เจิ้นกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจกะทันหัน และปล่อยผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไป
กู้ชูหน่วนก็กำลังเดิมพันเช่นกัน
เดิมพันว่าผู้หญิงที่เข้าไปอยู่ที่ระหว่างคิ้วของนาง มีความสำคัญมากสำหรับเขา
หลังจากผ่านไปนาน เยี่ยจิ่งหานก็เปล่งเสียงออกมาจากระหว่างฟัน "หนึ่งเดือน อย่างน้อยหนึ่งเดือน หากเจ้าไม่สามารถตามหาวิญญาณทั้งหมดของนางกลับมาได้ ไม่เพียงแต่เจ้าเท่านั้น แต่ทั้งเก้าชั่วโคตรของตระกูลมู่ก็จะต้องถูกฝังไปด้วยกันกับเจ้า"
หากไม่มีของเหลววิญญาณไท่ยี ต่อให้มีกาขังวิญญาณ วิญญาณของอาหน่วนก็สามารถอยู่ได้สามเดือนเท่านั้น
แต่หากไม่มีกาขังวิญญาณ วิญญาณของอาหน่วนจะสามารถอยู่ในโลกนี้ได้ไม่เกินหนึ่งหรือสองเดือนเท่านั้น
เขายังต้องเผื่อเวลาไว้ตามหาเส้นสายวิญญาณสุดท้ายและของเหลววิญญาณไท่ยี
"ตกลง หนึ่งเดือนก็หนึ่งเดือน แต่ภายในหนึ่งเดือนนี้ท่านต้องคุ้มกันความปลอดภัยให้ข้า เพราะ......หากข้าตาย ข้าก็ไม่สามารถรับรองได้ว่านางจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่"
ในขณะที่กู้ชูหน่วนกล่าว นางก็มองไปที่ไป๋หลี่เจิ้น และความหมายในคำพูดของนางก็ชัดเจนอยู่แล้ว
ไป๋หลี่เจิ้นโกรธ
หากไม่ใช่เพราะเยี่ยจิ่งหานอยู่ที่นี่ จวนมู่ก็คงจะถูกเขาทำลายลงในเวลาเพียงไม่กี่นาที
เยี่ยจิ่งหานส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ในเมื่อไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ เขาจึงทำได้เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า "หากเจ้าตาย ทั้งตระกูลมู่ก็อย่าคิดว่าจะได้มีชีวิตอยู่"
"จุ๊ ๆ ๆ ถึงอย่างไรท่านก็เป็นคนโหดเหี้ยม อะไร ๆ ก็จะฆ่าล้างตระกูล"
"ไป"
ในทันทีที่เขากล่าวว่าไป ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยก็เข็นเยี่ยจิ่งหานจากไป
ผู้คนต่างมองหน้ากัน
ไปเช่นนี้เลยหรือ?
พวกเขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่?
เยี่ยจิ่งหานปล่อยมู่หน่วนไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?
ไป๋หลี่เจิ้นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่ในที่สว่างเขาไม่สามารถทำลายตระกูลมู่ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงจากไปอย่างโกรธเคือง และเตรียมที่จะลงมืออย่างลับ ๆ
ผู้นำรองและผู้นำสามปาดเหงื่อ
ช่างน่าหวาดเสียวจริง ๆ
ตระกูลมู่ของพวกเขาเกือบจะต้องสูญสิ้น
มู่ซินหน้านิ่วคิ้วขมวด และเป็นกังวลแทนบุตรสาวของตนเอง
ผู้นำตระกูลมู่กล่าวว่า "เจ้าช่างทำให้คนเป็นกังวลเสียจริง เจ้ากล้ายั่วยุผู้ที่เก่งกาจเช่นนี้ได้อย่างไร?"
ผู้นำรองกล่าวว่า "ผู้นำตระกูล มู่หน่วนเป็นคนสร้างปัญหา พวกเราควรจะตัดสัมพันธ์กับนางเสียแต่เนิ่น ๆ มิเช่นนั้นสักวันหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วจวนมู่จะต้องถูกนางลากลงไปล่มจมด้วย"
"ต่อให้จะตัดสัมพันธ์กับข้า หากพวกเขาต้องการจะจัดการกับพวกท่าน พวกเขาก็ยังจะจัดการกับพวกท่านอยู่ดี"
กู้ชูหน่วนหันหลังออกไปจากจวนมู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...