ตระกูลไป๋หลี่เป็นตระกูลที่มีหน้ามีตา คานเรือนของที่นี่ได้แกะสลักและวาดลวายวิจิตรงดงาม บรรยากาศไม่ธรรมดา เรือนแต่ละเรือนเชื่อมต่อกันซึ่งเทียบได้กับวังหลวงเลย
ที่่ทางที่นี่ก็สลับซับซ้อนยิ่งนัก สถานที่หลายแห่งไร้ซึ่งค่ายกลและกลไก
ผู้คนที่หมุนเวียนกันไปมานั้นกู้ชูหน่วนไม่รู้จักเลย รู้เพียงว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่เบาเลย
ยังไม่ทันที่นางจะสถานที่พักพิงชั่วคราวก็ถูกพ่อบ้านจัดแจงให้ไปรดน้ำดอกไม้แล้ว
มุมหนึ่งอันห่างไกลของสวนดอกไม้
กู้ชูหน่วนด้านหนึ่งรดน้ำดอกไม้อีกด้านหนึ่งมองดูที่ทางของตระกูลไป๋หลี่อย่างละเอียดถี่ถ้วนตระเตรียมตรวจดูตระกูลไป๋หลี่เพื่อไม่ให้นางเข้ามาเสียเที่ยวรอบหนึ่ง
ได้ยินการสนทนาระหว่างไป๋หลี่เจิ้นกับไป๋หลี่หมิงบนศาลาไม่ค่อยชัดอยู่ข้างๆหู
“ท่านปู่ ความแข็งแกร่งของนางพุ่งสูงขึ้นถึงของจุดเส้นวรยุทธ์ระดับห้าแล้วหรือ? จะไม่เกินจริงไปหน่อยหรือนางเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์นะ”
“หมิงเอ๋อร์ เริ่มแรกปู่ก็ไม่เชื่อแต่ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น อย่าได้ลืมของเหลววิญญาณไท่ยี”
หากรู้ว่านางได้พุ่งทะยานขึ้นถึงระดับห้าของจจุดเส้นวรยุทธ์ เขาจะต้องจัดยอดฝีมือลำดับสูงไปลอบสังหารนางเป็นแน่แต่ไม่ใช่เป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับนาง
ไป๋หลี่หมิงตบโต๊ะ "ข้ารู้อยู่แล้วว่าของเหลววิญญาณไท่ยีต้องถูกนางกลืนลงไปเองส่วนตัวแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดเยี่ยจิ่งหานถึงได้ปกป้องนาง ท่านปู่ข้ากล้ำกลืนฝืนทนไม่ได้ ก็แค่มู่หน่วนผู้หนึ่งก็แค่จวนมู่จวนหนึ่งเหตุใดถึงไม่สามารถทำลายพวกเขาทิ้งเลยในทันที”
"ทำลายพวกเขานั้นง่ายดายแต่เยี่ยจิ่งหานมีใจที่จะปกป้อง หากว่าทำลายก็จะทำให้เขาขุ่นเคืองเป็นแน่ ตอนนี้ตระกูลไป๋หลี่ของเราไม่สามารถทำให้เยี่ยจิ่งหานโกรธเคืองซึ่งๆหน้าได้"
“เยี่ยจิ่งหานเป็นผู้ใดกันแน่ เหตุใดท่านหัวหน้าตระกูลถึงต้องระแวดระวังต่อเขาเช่นนั้น?”
“ข้าก็ไม่รู้ ผู้ที่ไม่สามารถค้นหาข้อมูลอันใดได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็นแน่”
กู้ชูหน่วนขยับตัว
เยี่ยจิ่งหาน......
เหตุใดชื่อนี้ถึงได้คุ้นเคยนักนะ?
นางเคยได้ยินที่ใดมาก่อนใช่หรือเปล่านะ?
ชู่ว์......
จู่ๆก็ปวดหัวขึ้นกะทันหันจนกู้ชูหน่วนเกือบจะทำน้ำเต้าหล่นลงซะแล้ว
ให้ตายสิ
เหตุใดสมองของนางถึงได้เจ็บปวดทรมานเช่นนี้?
เป็นเสี้ยววิญญาณนั้นที่จู่ๆได้เคลื่อนเข้ามาในระหว่างคิ้วของนางอย่างกะทันหันได้ทำพิษหรือ?
ต้องใช่แน่ๆ
นางรู้สึกคุ้นเคยซึ่งก็น่าจะเนื่องด้วยวิญญาณเสี้ยวนั้น
“ใคร ใครอยู่ตรงนั้น?”
หูของไป๋หลี่เจิ้นสัมผัสถึงได้โดยที่ความคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถได้ยินได้
กู้ชูหน่วนสงบสติลงและเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวตามสถานการณ์
เสียงแก่ๆเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆใบหู
“ผู้......ผู้อาวุโส ผู้น้อยเพียงแค่รดน้ำดอกไม้อยู่ที่นี่......”
“รดน้ำดอกไม้?”
ไป๋หลี่เจิ้นเหลือบมองไปทางซ้ายขวา ในสวนดอกไม้นี้นอกจากผู้รับใช้เก่าแก่ผู้นี้ก็ไม่มีผู้ใดอื่น
เขาโบกมือให้สัญญาณเขาถอยออกไป
ผู้รับใช้เก่าแก่พยักหน้าพร้อมกับโค้งคำนับและจากไปด้วยท่าทางเชื่องช้า
ไม่คิดเลยว่าเขาเพิ่งหันหลังกลับ ไป๋ลี่เจิ้นก็ซัดฝ่ามือไปทำให้เขาสิ้นลมไปเลยโดยตรง
“ท่านปู่ท่านสังหารเขาทำไมกัน ผู้เฒ่าเฉินอยู่ในตระกูลของเรามาเป็นเวลาห้าหกสิบปีแล้ว เขาเป็นผู้ที่ปากแข็งมาโดยตลอด ไม่พูดจาเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว”
"คนที่ตายไปแล้วจึงจะไม่ปริปาก"
ดวงตาของกู้ชูหน่วนเย็นยะเยือกลงและกลั้นลมหายใจต่อไป
“อีกไม่กี่วันก็จะเป็นการชุมนุมควบคุมอสุรกายแล้ว ท่านปู่ควรจะโน้มน้าวราชางูเหลือมเก้าเศียรให้ได้แล้ว ถึงเวลานั้นมันก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของท่าน มีราชางูเหลือมอยู่อันดับที่หนึ่งของการชุมนุมควบคุมอสุรกายต้องเป็นของท่านเป็นแน่แท้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...